ไทยออยล์ ติดอันดับ 1 ใน 20 บริษัทจดทะเบียนที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีในอาเซียน

ไทยออยล์ รับรางวัล ASEAN Top 20 Publicly Listed Companies ติดอันดับ 1 ใน 20 บริษัทจดทะเบียนที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีในอาเซียน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ คุณวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) รับมอบรางวัล ASEAN Top 20 Publicly Listed Companies (PLCs) จาก คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เนื่องจากไทยออยล์ ได้คะแนนสูงสุด ติด 20 อันดับแรกของอาเซียน โดยประเทศไทยมีบริษัทติดอันดับเพียง 4 รายเท่านั้น นอกจากนั้น ไทยออยล์ยังได้รับรางวัล Country Top 3 PLCs (Thailand) ซึ่งรางวัลนี้มอบให้บริษัทจดทะเบียนที่มีคะแนนสูงสุด 3 อันดับแรกของแต่ละประเทศอีกด้วย พิธีดังกล่าวจัดขึ้น ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ

รางวัล ASEAN Top 20 PLCs นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ช่วยตอกย้ำว่า บริษัทฯ มีการกำกับดูแลกิจการในระดับมาตรฐานสากล และไทยออยล์ให้ความสำคัญกับการดำเนินภายใต้หลักการ ESG มาโดยตลอด โดยรางวัลดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก ASEAN Capital Markets Forum (ACMF) และธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ซึ่ง ACMF เป็นความร่วมมือของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในอาเซียน เพื่อทำการประเมินการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียน 6 ประเทศในอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม โดยประเมินบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงสุด 100 อันดับแรก จากข้อมูลด้านการกำกับดูแลกิจการที่บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยต่อสาธารณะ รวมถึงมีกระบวนการตรวจสอบคะแนนจากประเทศอื่น (Peer review) ด้วย เพื่อมั่นใจว่าทุกประเทศมีมาตรฐานการประเมินสอดคล้องกัน

สำหรับบรรณาธิการ

ไทยออยล์เป็นผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายนํ้ามันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2504 โดยมีธุรกิจหลักคือ การกลั่นนํ้ามันปิโตรเลียม ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 275,000 บาร์เรลต่อวัน

นอกจากนี้ ไทยออยล์มีระบบการบริหารจัดการที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ (Operational Excellence) โดยบริหารงานเป็นกลุ่มที่มีการเชื่อมโยงธุรกิจ ทั้งธุรกิจการกลั่นน้ำมัน ธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน โดยร่วมวางแผนการผลิตก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำ ขณะเดียวกันมีคุณภาพสูงในระดับโรงกลั่นชั้นนำ (Top quartile) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้ได้เปรียบเชิงต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลากหลาย เช่น ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจบริหารการขนส่งทางเรือและทางท่อ ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาด ธุรกิจบริการจัดเก็บนํ้ามันดิบ นํ้ามันปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี และธุรกิจให้บริการด้านการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรสำหรับกลุ่มไทยออยล์