“คุยกับพีท” “กินกับพีท” อิ่มเอม สะดวก อร่อย รักษ์โลก

วันที่ 20 กันยายน 2564 - 10:36 น.

ตลอดระยะเวลา 12 ปีของการทำเพจ Pete Perapat Eatwithpete – กินกับพีท ในฐานะ Food Blogger ที่มีคนตามกว่า 465,000 คน พีท- พีรพัฒน์ ตุลยาเดชานนธ์ บอกกับเราว่าชีวิตของเขาเต็มไปด้วยความสนุกจากความชอบกินอยู่เป็นทุนเดิม โอกาสตรงนี้ทำให้ได้เจออะไรใหม่ ๆ พาครอบครัวไปกินของอร่อย พูดคุยกับผู้คนที่ชื่นชอบในการทำอาหาร พัฒนาคอนเทนต์จากภาพนิ่งสู่วีดีโอ และสะสมความรู้ทางด้านอาหารเพิ่มขึ้นจากมุมของนักชิมสู่บทบาทนักวิจารณ์ ในฐานะหนึ่งในกรรมการเชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย

“จุดเริ่มต้นเกิดจากความรู้สึกเบื่อ เวลาที่ไปทานอาหารกับครอบครัวทุกวันอาทิตย์แล้วอากงอาม่าชอบกินแต่สุกี้ร้านเดิม เราเลยขอเป็นคนเลือกร้านเอง พอไปกินก็ถ่ายรูปเก็บไว้ ตั้งใจว่าร้านไหนที่บ้านชอบจะได้เอาภาพให้เลือกเพื่อกลับมาทานอีก พอเอาภาพไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีคนทักแชทมาถามเรื่อย ๆ ว่ารูปที่เพิ่งโพสต์ไปคือร้านไหน รสชาติและราคาเป็นยังไง เราเลยลองเปิดเพจแล้วอธิบายของกินโดยเฉพาะ เวลาไปกินที่ไหนก็จะถ่ายรูปแล้วโพสต์ บางทีก็แท็กเพื่อน ๆ ที่ไปด้วย พอเริ่มมีการเห็นต่อ ๆ กันไปคนก็สนใจและตามไปกิน”

พีทเล่าว่า เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา วงการอาหารต้องปรับตัวหนักมาก รวมถึงตัวเขาเอง จากเดิมงานหลักๆคือการออกไปรีวิวร้านอาหารนอกบ้าน 100% เมื่อร้านอาหารปรับตัวมาเป็นเดลิเวอรี่ เพจจึงปรับรูปแบบคอนเทนต์ มาเป็นไปซื้ออาหารกลับมาถ่ายที่บ้าน แทรกด้วยคอนเทนต์อื่น เช่นแอปสำหรับดิลิเวอรี่ โปรโมชั่นบัตรเครดิต และ แจกสูตรทำอาหาร รวมถึง เปลี่ยนกลับไปเน้นงานภาพนิ่ง เพราะการทำถ่ายวิดีโอนั้นไม่สะดวก

“โครงการ Food Truck ภายในปั๊มบางจากนี้ผมถือว่าเป็นข่าวดีต่อผู้ประกอบการร้านอาหาร ไม่เฉพาะช่วงเวลาที่ต้องเว้นระยะห่างเท่านั้น สามารถทำหน้าที่ one stop service ให้กับลูกค้าที่ต้องการหาอาหารอร่อย ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย บางร้านที่อยู่ไกลก็มีโอกาสมาเสิร์ฟให้คนที่อยู่ในพื้นที่ได้เลือกรับประทาน การรวบรวม Food Truck มาไว้ในปั๊มแบบนี้ยังช่วยให้กระแส Food Truck กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากเคยนิยมกันอยู่ช่วงหนึ่งและลดลงไปเหลือ Food Truck คันสองคันตามคอมมูนิตี้มอลล์”

Food Truck เป็นหนึ่งไอเดียที่บางจากตั้งใจพัฒนาสถานีบริการน้ำมันตามแนวคิด Greenovative Destination เป็นจุดหมายปลายทางที่เติมเต็มความต้องการลูกค้า ตอบโจทย์ชีวิตยุค New Normal ที่เน้นความสะดวก รวดเร็ว ลดเสี่ยง เลี่ยงแออัด โดยบางจากร่วมกับพันธมิตร 11 แบรนด์ดังเปิดให้บริการอาหารรสเด็ด อาทิ ผัดไทยไฟทะลุโดยเชฟระดับมิชลิน ก๋วยเตี๋ยวอโณทัย by Arno’s, Bar B Q Plaza, Ka nom และสินค้าไลฟ์สไตล์ เปิดให้บริการแล้วที่สถานีน้ำมันบางจาก สาขาถนนศรีนครินทร์ และ สาขากาญจนาภิเษก กม.41 ก่อนขยายอีกกว่า 15 สาขาทั่วกรุงเทพฯ ภายในปีนี้

[Food Truck ภายในปั๊มบางจาก เป็นทั้งโอกาสสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารและ one stop service ให้กับลูกค้าที่ต้องการหาอาหารอร่อยๆ ได้อย่างสะดวก]

จากความสนุกในการพาครอบครัวออกไปทานอาหารใหม่ ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะลงเอยด้วยเมนูเดิม ๆ ในวันนั้น พา “พีท” เดินทางมาไกลถึงวันที่มีหลายโอกาสเข้ามาในชีวิตและได้มีส่วนขับเคลื่อนวงการอาหารไปสู่เส้นทางที่รับผิดชอบและใส่ใจความยั่งยืนมากขึ้น ล่าสุด พีทเข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการโครงการ Green Restaurant ปี 2564 จัดโดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม บทบาทหลัก คือ เข้าร่วมตรวจประเมินสถานประกอบการที่ให้บริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่มีการจัดการใช้วัตถุดิบ ทรัพยากรและพลังงานอย่างรู้คุณค่า เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการที่มีการดำเนินงานเพื่อลดความสูญเสียอาหารและลดปริมาณขยะอาหาร มีการจัดการที่ถูกหลัก ใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีส่วนร่วมยกระดับการบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

“ข้อจำกัดที่ทำให้ร้านอาหารต้องปรับอย่างฉับพลันในยุคโควิด ทำให้อัตราการใช้พลาสติกพุ่งสูงมากเกินความจำเป็น จนน่ากลัวว่าวันหนึ่งโลกก็จะกำจัดไม่ทัน ปัญหาสิ่งแวดล้อมก็จะตามมา ประกอบกับ เทรนด์ในวงการอาหารเริ่มมีกลุ่มลูกค้าผู้ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น อยากเห็นวัสดุต่าง ๆ ถูกใช้อย่างคุ้มค่ามากที่สุดและกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด มีทั้งไม่รับหลอด ไม่รับถุง ไม่รับช้อนส้อมพลาสติก พกแก้วน้ำส่วนตัว และยังมีหลายร้านเริ่มพบว่าลูกค้าประจำนำภาชนะมาเองเวลามาทานที่ร้าน ซึ่งหลายฝ่ายกำลังหาวิธีส่งเสริมแนวคิดแบบนี้ในวันที่โควิดคลี่คลาย”

เช่นเดียวกันกับ “อินทนิล” ที่ได้ริเริ่มเป็นรายแรก ๆ ในการสนับสนุนให้ลูกค้าใช้แก้วส่วนตัว การเปลี่ยนแก้วทุกใบเป็นแก้วย่อยสลายที่ผลิตจากพืช 100% เปลี่ยนเป็นถุงกระดาษ เปลี่ยนเป็นหลอดย่อยสลาย เปลี่ยนเป็นฝายกดื่ม แม้ว่าการดำเนินงานเหล่านี้มีต้นทุนที่สูงกว่าบรรจุภัณฑ์ทั่วไป แต่ในฐานะหนึ่งในธุรกิจของกลุ่มบางจากฯ การดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นพันธกิจสำคัญที่ “อินทนิล” มุ่งมั่นด้วยความเต็มใจมาตลอดระยะเวลา 15 ปี

พีทเล่าต่อว่า เขาคุ้นเคยกับ “บางจาก” มาตั้งแต่เด็ก ในฐานะแบรนด์ไทยจึงเข้าถึงง่ายและโลโก้ที่เน้นย้ำถึงความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ด้วยนิสัยส่วนตัวที่เป็นชอบสรรหาของกินมาแต่ไหนแต่ไร ที่ขาดไม่ได้เวลาแวะเติมน้ำมัน นอกจากเข้าห้องน้ำก็คือการมองหาของกินที่ขาย ครั้งหนึ่งเขาพบว่าไอศกรีมยี่ห้อโปรดตั้งแต่สมัยเรียนมีขายที่ปั๊มบางจากสาขาเอกมัย และเมื่อผ่านไปย่านเอกมัยพีทก็ไม่ลืมที่จะวางแผนแวะทุกครั้ง เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ “กินกับพีท” อย่างแท้จริงที่ปั๊มบางจาก…ของเจ้าของเพจรีวิวอาหารชื่อดังคนนี้