“การเคหะแห่งชาติ” ส่งมอบสิทธิ “บ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า” บ้านเช่าพร้อมอาชีพ

“การเคหะแห่งชาติ” ส่งมอบสิทธิ “บ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า” บ้านเช่าพร้อมอาชีพ พลิกโฉมที่อยู่อาศัยแนวใหม่ ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยการเคหะแห่งชาติ จัดพิธีส่งมอบสิทธิ โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีฯ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 พร้อมมอบสิทธิบ้านเช่าโครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า ให้กับผู้แทนผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง โดยมี นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พลตรี ดร.เจียรนัย วงศ์สอาด ประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ คณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ นายทวีพงษ์  วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ คณะผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงานการเคหะแห่งชาติ และภาคีเครือข่าย ร่วมงาน ณ โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป้าหมายของรัฐบาลต้องการให้คนมีที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้น คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ครอบครัวอบอุ่น มีความสุข และมีโอกาสได้ดูแลซึ่งกันและกัน ซึ่งที่อยู่อาศัยถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สุดสำหรับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมีความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ ดังนั้นจึงเป็นเป้าหมายของรัฐบาลที่มุ่งดูแลผู้มีรายได้น้อยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชน และหน่วยงานต่างๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องเรียนรู้ไปด้วยกันในการพัฒนาอาชีพ ยกตัวอย่าง พื้นที่เศรษฐกิจสุขประชา อนาคตอาจจะพัฒนากลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

“สิ่งที่รัฐบาลทำวันนี้ คือ ความเท่าเทียม เป็นความเท่าเทียมทางด้านโอกาส เราทำงานโดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ นอกจากรอยยิ้มของพวกท่าน สิ่งที่ทำวันนี้จะเป็นการเริ่มต้นที่ดี สำคัญที่สุดคือทุกคนต้องมีอาชีพ มีรายได้ โดยการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ของเราที่มีอยู่ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ด้วย ถ้าเรามีบ้าน มีอาชีพ มีรายได้ มีความสุข สังคมก็จะดีขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการบ้านเคหะสุขประชา เป็นการ พลิกโฉมประเทศไทยจากวิกฤตสู่โอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง ได้มีที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐานท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่อาศัย มีอาชีพใหม่ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายจุติ  ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ต้องการให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้เช่าบ้านพร้อมอาชีพ ยกระดับรายได้ 40,000 บาทต่อครอบครัว เพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านที่อยู่อาศัย ทำให้ประชาชนมีความหวัง มีอาชีพ และมีรายได้ที่มั่นคง ด้วยเป้าหมายจัดสร้าง 100,000 หน่วย ภายใน 5 ปี (พ.ศ. 2564 – 2568) โดยจัดสร้างปีละ 20,000 หน่วย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านเช่าพร้อมอาชีพ โดยพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้ให้กับผู้อยู่อาศัย ตามความเหมาะสมในการพัฒนาโครงการของแต่ละพื้นที่ ประกอบด้วย 6 อาชีพ ได้แก่ เกษตรอินทรีย์ ปศุสัตว์ อาชีพบริการชุมชนและชุมชนข้างเคียง ตลาด อุตสาหกรรมขนาดเล็ก และศูนย์การค้าปลีก-ส่ง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน รวมถึงสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนตามภูมิสังคมของพื้นที่นั้น ๆ เริ่มตั้งแต่การผลิตไปจนถึงช่องทางการจัดจำหน่าย

“การเคหะแห่งชาติ ได้เริ่มจัดสร้างโครงการนำร่องบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง จำนวน 302 หน่วย และได้เปิดโครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง ไปเมื่อ 5 เมษายน 2564 และครั้งนี้ เราได้บ้านเคหะสุขประชา
ร่มเกล้าเพิ่มมาอีก 270 หน่วย โดยได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี มามอบให้กับผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง โดยการเคหะแห่งชาติ ได้จับสลากผู้ได้สิทธิเช่าครบทั้ง
2 โครงการแล้ว” นายทวีพงษ์ กล่าว

โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า ตั้งอยู่บริเวณถนนร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ขนาดพื้นที่โครงการ 20.26 ไร่ จัดสร้างบ้านจำนวน 270 หน่วย ประกอบด้วย บ้านแฝดชั้นเดียว จำนวน 86 หน่วย และบ้านสองชั้น จำนวน 184 หน่วย โดยแบ่งพื้นที่ใช้สอยตามความเหมาะสมของกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย กลุ่มคนพิการและผู้สูงอายุ (แบบ X) พื้นที่ใช้สอย 30 ตารางเมตร กลุ่มผู้มีสถานะโสด (แบบ A) พื้นที่ใช้สอย 30 ตารางเมตร กลุ่มครัวเรือนใหม่ (แบบ B) พื้นที่ใช้สอย 40 ตารางเมตร และกลุ่มครอบครัว (แบบ C) พื้นที่ใช้สอย 50 ตารางเมตร อัตราค่าเช่าเริ่มต้น 1,500 – 3,000 บาท/เดือน

ภายในโครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า ยังได้จัดเตรียมพื้นที่ “เศรษฐกิจสุขประชา” ซึ่งจะได้รับการพัฒนาในรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อรองรับการจ้างงานและสร้างอาชีพให้กับผู้อยู่อาศัยในชุมชน รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชนให้เกิดความยั่งยืนต่อไป

นอกจากนี้ การเคหะแห่งชาติได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ให้จัดตั้ง บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) เพื่อมาช่วยให้การดำเนินโครงการบ้านเคหะสุขประชาคล่องตัวและประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น โดยการเคหะแห่งชาติถือหุ้น 49 % และผนึกกำลังกับพันธมิตรที่เข้มแข็งและมีความเป็นมืออาชีพถือหุ้น 51 % อาทิ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทน เพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และการจัดการขยะในชุมชน บริษัท วินโดว์เอเชีย จำกัด เข้ามาสนับสนุนวัสดุก่อสร้าง ช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างโครงการ บ้านเคหะสุขประชา และบริษัท ทิพยประกันภัยจำกัด (มหาชน) จะเข้ามาดูแลเรื่องการประกันรายได้ของผู้อยู่อาศัยในโครงการฯ

ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติม แผนดำเนินงานโครงการบ้านเคหะสุขประชา ในปี 2565
การเคหะแห่งชาติ จะก่อสร้างโครงการบ้านเคหะสุขประชาอีก 13 โครงการ จำนวน 3,948 หน่วย ในจังหวัดปทุมธานี, นครปฐม, สมุทรปราการ, ฉะเชิงเทรา, พระนครศรีอยุธยา, ชลบุรี, เชียงใหม่, ระยอง และสระบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบจัดทำโครงการ และในอนาคตการเคหะแห่งชาติมีแผนจะดำเนินโครงการบ้านเคหะสุขประชาต่อเนื่องอีกกว่า 30,000 หน่วย ในลักษณะร่วมลงทุนกับภาคเอกชน โดยจะร่วมทุนกับ บริษัทเคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มีมาตรฐานในราคาที่เหมาะสม สามารถรับภาระได้ รวมไปถึงการพัฒนาอาชีพเพื่อก่อให้เกิดรายได้ที่มั่นคงยั่งยืนต่อไป