Edtech Startup ไทย! MonkeyEveryday แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ One Stop Service ครบวงจร

การจะเป็นมากกว่าแหล่งกวดวิชายอดฮิตทั่วไป เพื่อสะกดใจนักเรียนไทยเรานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ทำให้เกิดการนำมาสู่คำถามเปิดมุมมองภาคธุรกิจว่า คุณพิเชษฐ์ เตชะธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท มังกี้เอเวอรี่เดย์ จํากัด ใช้กลเม็ด เคล็ดลับใด ในการนำพาเว็บไซต์ MonkeyEveryday ไปสู่การเป็น EdTech Startup แพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์รูปแบบใหม่ ซึ่งเปิดบริการอย่างเป็นทางการด้วยระยะเวลาเพียง 8 เดือน แต่สามารถคว้าใจนักเรียนจากทั่วประเทศให้หันมาสนใจใช้บริการกว่า 40,000 คน

จากวิศวกรสู่การเป็นครูสอนพิเศษ

คุณพิเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากเรียนจบสาขาวิศวกรรมยานยนต์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตนได้ทำงานเป็นดีไซเนอร์ให้กับบริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น 3 ปี ขณะนั้นจุฬาฯ ได้มีการเปิดคณะวิศวกรรมหลักสูตรนานาชาติ International School of Engineering (ISE) ขึ้นเป็นปีแรก และมีรุ่นน้องที่รู้จักกันเรียนอยู่ที่นี่ ขอให้ตนเองช่วยสอนพิเศษให้ เริ่มต้นจากการสอนรุ่นน้องและเพื่อน 2 – 3 คน ก่อนจะเกิด Word of Mouth ทำให้มีคนมาเรียนเพิ่มขึ้นเป็น 150 คนในระยะเวลา 2 ปี

“ตอนนั้นเราไม่ได้มองถึงตัวรายได้ แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบสอน พอเราอธิบายแล้วคนอื่นเข้าใจ และเอาสิ่งที่เราสอนไปต่อยอดได้ ทำให้มีความรู้สึกชอบ ตอนนั้นจึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำ แล้วมาเปิดสอนพิเศษนักศึกษาคณะ ISE โดยเฉพาะ”

จุดเริ่มต้น ‘Monkey Hybrid’

คุณพิเชษฐ์ เผยว่า ในปี 2554 ได้รู้จักกับผู้สอนรุ่นบุกเบิกของศูนย์กวดวิชา ‘คุมอง’ ในเมืองไทย โดยมีโอกาสได้สอนพิเศษด้วยกัน ก่อนตัดสินใจร่วมก่อตั้ง ‘Monkey Hybrid’ ขึ้นในเวลาต่อมา

สำหรับแนวคิดการเปิดบริษัท เกิดจากความอยากที่จะช่วยนักเรียน ทั้งในระดับประถมศึกษา – มัธยมศึกษา ให้พัฒนาทักษะด้านการเรียน จึงสร้างระบบการเรียนที่ไฮบริดทุกมิติการเรียนมาไว้ด้วยกัน ทำให้ทุกคนได้เรียนตามความสามารถตัวเอง ทำได้เอง เลือกเวลาเรียนได้เอง เพื่อให้เข้าใกล้เป้าหมายที่ตัวเองวางไว้ได้มากยิ่งขึ้น

โดยหลักสูตรจะช่วยแก้ปัญหาด้านการเรียนให้เด็กเป็นรายบุคคล – ตามความสามารถ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้สอนนักเรียนได้อย่างตอบโจทย์และตรงจุดที่สุด

“ก่อนรับผู้เรียนเข้าเรียน บริษัทจะมีการทดสอบ พูดคุยถึงเป้าหมายที่วางไว้ เช่น อยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยใด จากนั้น Monkey Hybrid’ จะวางแผนการเรียนให้เป็นรายบุคคล ว่าควรจะต้องเรียนเรื่องอะไรบ้าง เพื่อให้ได้ครบตามเป้าหมายที่วางไว้”

ครั้งแรกที่มีโอกาสได้สอนพิเศษนักเรียนชั้น ม.1 จากนั้นนักเรียนได้เข้าแข่งขันแล้วสร้างชื่อเสียงในระดับประเทศ ส่งผลให้เป็นที่รู้จักและมีผู้เรียนให้ความสนใจมาเรียนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก จากห้องที่มีนักเรียน 2 – 3 คน กลายเป็น 30 คนภายในระยะเวลาไม่ถึง 6 เดือน

Monkey Hybrid’ ถูกพัฒนาระบบ – ต่อยอดเป็นแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ ‘MonkeyEveryday’

คุณพิเชษฐ์ อธิบายว่า หลังจากที่ Monkey Hybrid’ ประสบความสำเร็จ มีนักเรียนเต็มคลาสทุกรอบ เมื่อผู้เรียนมีจำนวนมากขึ้น ตนเองจึงมีความรู้สึกว่าการจะโฟกัสเด็กให้ได้ทุกคนอาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก จึงตัดสินใจเปลี่ยนวิธีการสอนเป็นการสอนพิเศษในลักษณะออนไลน์ ด้วยระบบ Self-Learning ซึ่งนักเรียนสามารถเรียน – ทำแบบทดสอบได้ด้วยตัวเอง ที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ จึงเกิดเป็นแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ MonkeyEveryday’ หรือ ‘เว็บไซต์มังกี้เอเวอรี่เดย์ดอทคอม’ ขึ้นมา

สิ่งที่เว็บไซต์แตกต่างจากแบบออฟไลน์ก็คือ การรวมบุคลากรเข้ากับระบบ ดังนั้นทีมงานจึงต้องใช้เวลาเตรียมการประมาณ 6 เดือน ในการดีไซน์ระบบใหม่ทั้งหมด เพื่อทำให้นักเรียนที่เรียนสามารถวางแผน – แจ้งเป้าหมายได้ในเว็บไซต์ และทางทีมงานจะวางแผนให้ – ออกแบบคอร์สเรียนสำหรับแต่ละบุคคลได้โดยตรง

จุดเด่นของ MonkeyEveryday’ คือ มีการทดสอบ วิเคราะห์ วางแผน และประเมินจุดอ่อน – จุดแข็ง ให้กับผู้เรียนทุกคนจากหน้าเว็บไซต์ ‘เว็บไซต์มังกี้เอเวอรี่เดย์ดอทคอม’ มีวิชา GAT PAT และ 9 วิชาสามัญ ครบจบในที่เดียว และยังมีหลักสูตรอินเตอร์ด้วย

สำหรับ MonkeyEveryday’ ได้มีการจดทะเบียนบริษัทเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 ก่อนจะเปิดตัวให้บริการอย่างเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันบริษัทมีนักเรียนใช้บริการกว่า 40,000 คน (แบบพรีเมียมและแบบฟรี) ซึ่งจุดเด่นอีกข้อ ที่ทำให้เว็บไซต์เป็นที่นิยม ก็คือการเป็นเสมือนเซ็นเตอร์คลังข้อสอบเอนทรานซ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะมีข้อสอบมากกว่า 15,000 ข้อ

MonkeyEveryday ‘One Stop Service ด้านการศึกษา’

สำหรับเรื่องนี้ คุณพิเชษฐ์ กล่าวว่า บริษัทมีโรดแมปชัดเจน คือการเป็น One Stop Service ด้านการศึกษา มีการสอนครบทุกวิชา ทุกระดับชั้น ครบทุกฟังก์ชันเพียงพอที่เด็กจะใช้ในการเรียน โดยตอนนี้อยู่ 70% ของเป้าหมายที่ได้วางไว้ และนอกจากนี้ก็จะมีส่วนของ Learning Space’ ไว้คอยให้บริการด้วย

โดย Learning Space’ หรือพื้นที่การเรียนรู้ มาจาก Pain Point ที่ตนเองพบเจอในสมัยเด็ก คือสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยต่อการเรียนหรืออ่านหนังสือ ซึ่ง MonkeyEveryday จะมี Learning Space’ สาขาแรก ณ ศูนย์การค้า Siam Scape ในเร็วๆ นี้ ซึ่งผู้เรียนสามารถมาใช้บริการได้ทุกวัน โดยจะมีคุณครูประจำผลัดเปลี่ยนคอยแนะแนว – ตอบคำถามต่างๆ รวมถึงการให้บริการเกี่ยวกับการเรียนรู้อย่างครบวงจร ซึ่งจะมีสาขาเพิ่มขึ้นตามหัวเมืองใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้

การตลาดออนไลน์’ โจทย์ยากสำหรับธุรกิจ

กรรมการผู้จัดการ บริษัท มังกี้เอเวอรี่เดย์ จํากัด ได้ให้ความรู้ในเรื่องนี้ว่า การตลาดออนไลน์สำหรับบริษัทนั้น เปรียบเสมือนยาขมเลยทีเดียว เนื่องจาก MonkeyEveryday’ ทำธุรกิจเกี่ยวกับเด็ก ทำให้ไม่สามารถทราบข้อมูลต่างๆ เพื่อนำมาทำการตลาดได้ เช่น เฟซบุ๊กจะไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล ประวัติ สถิติต่างๆ ให้ทราบ เป็นต้น รวมถึงไม่สามารถยิงแอดโฆษณาได้ เนื่องจากมีกฎเกณฑ์ข้อห้ามที่ค่อนข้างมาก

ฉะนั้นการจะทำออนไลน์ให้สำเร็จในเวลาอันสั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่าย บริษัทต้องใช้เวลา 9 – 10 เดือน เพื่อทำให้เกิดการบอกต่อ เกิดการทดลองใช้บริการต่างๆ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือบริษัทต้องดูแลเอาใจใส่ ทำให้นักเรียนเข้าใจในสิ่งที่จะได้รับจาก MonkeyEveryday อย่างจริงใจ รวมถึงการให้นักเรียนเข้าใช้เว็บไซต์ให้ถึงศักยภาพสูงสุดเพื่อเกิดการบอกต่อเป็นวงกว้างต่อไปอีกด้วย

คุณพิเชษฐ์ได้ฝากถึง Startup ในเรื่องการทำตลาดไว้ว่า “ต้องมีการติดตามประเมินผลอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก Startup มีเงินทุนค่อนข้างจำกัด สิ่งที่ควรทำคือการมอนิเตอร์โดยไม่จำเป็นจะต้องเป็น Year Plan, Month Plan, แต่ควรเป็น Day by Day หรือเมื่อไรก็ตามที่ Data แสดงให้เห็นว่าเริ่มมีความสุ่มเสี่ยง หรือถ้าผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามเป้าบริษัท ต้องหยุด เพื่อออกกลยุทธ์ใหม่แก้ไขสถานการณ์ทันที”

ท้ายที่สุดแม้ว่าบริษัทจะสามารถทำให้ผู้คนเข้ามาที่เว็บไซต์ได้มากมายแค่ไหน แต่หากสินค้าหรือบริการไม่ดีจริง ลูกค้าก็จะหนีจากเราไปอยู่ดี ดังนั้นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือ Products is King’ จงทำการตลาดไปพร้อมกับทำความรู้จักโปรดักส์ของตัวเอง เพื่อให้เรานั้นเป็นผู้ให้บริการที่ครบ และดีจริง…

รู้จัก ‘บริษัท มังกี้เอเวอรี่เดย์ จํากัด’ เพิ่มเติมได้ที่

https://monkeyeveryday.com/

https://web.facebook.com/MonkeyEverydayOfficial?_rdc=1&_rdr

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333