
สตรีวัยเจริญพันธุ์เมื่อย่างเข้าสู่วัย 25 ปีขึ้นไป เป็นช่วงวัยที่ประสิทธิภาพการทำงานของระบบฮอร์โมนในร่างกายเริ่มถดถอย ซึ่งส่งผลต่อระบบภายในของสตรี และผิวพรรณที่แห้งกร้านแก่กว่าวัย อันเนื่องมากจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุล และส่งผลให้มีอารมณ์แปรปรวน ประจำเดือนมาไม่ปรกติ มีปัญหาตกขาว ไข่ไม่ตก รังไข่เสื่อม ท้องยาก และมีภาวะวัยทองก่อนวัยอันควร มีอาการร้อนวูบวาบ นอนไม่หลับ รวมถึงมีปัญหาความสัมพันธ์ เช่น ช่องคลอดแห้ง รู้สึกเจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ ส่วนสตรีที่เคยคลอดลูกมักจะพบปัญหาระบบภายในหลังคลอด เช่น ภาวะมดลูกหย่อน และมดลูกแห้ง ดังนั้นอย่าปล่อยให้ร่างกายพังก่อนวัยอันควร ถึงเวลากู้คืนความสาวทั้งระบบจากภายในสู่ภายนอก และช่วยยืดความหวานให้กับชีวิตคู่ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและทานอาหารตามหลักโภชนาการที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและฟื้นฟูระบบภายในสตรี
- EV จีนทุบราคาเลือดสาด ฉางอานท้ารบ-BYD เกทับลดอีกแสน
- รู้จัก น้ำมัน EURO 5 เริ่มใช้ 1 ม.ค. 67 มีผลกับค่าการตลาดน้ำมันอย่างไร
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด
ครูก้อย นัชชา ลอยชูศักดิ์ ครูวิทยาศาสตร์ผู้ก่อตั้งเพจให้ความรู้ผู้มีบุตรยาก babyandmom.co.th และ กรรมการ บริษัท เบบี้แอนด์มัม (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า จากการให้คำปรึกษาสตรีมีบุตรยากที่ติดตามเพจ babyandmom.co.th กว่าแสนรายพบว่า กว่า 90% มีปัญหาฮอร์โมนไม่สมดุล ซึ่งส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์และมีปัญหาท้องยาก เนื่องจากในร่างกายมีฮอร์โมนเป็นสารเคมีสำคัญที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย ดังนั้นหากฮอร์โมนไม่สมดุลจะส่งผลให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยทั่วไปแล้วระดับความสมดุลของฮอร์โมนจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป โดยอาจก่อให้เกิดภาวะต่าง ๆ ของระบบภายในตามมา เช่น รอบประจำเดือนที่ผิดปรกติ ไข่ไม่ตก รังไข่เสื่อม หรือเข้าสู่วัยทองก่อนวัย มีปัญหาตกขาว มีกลิ่น ความต้องการทางเพศลดลง ช่องคลอดแห้ง รู้สึกเจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์และท้องยาก มีอาการนอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย อาจเกิดภาวะซึมเศร้า ความจำเสื่อม ส่วนภายนอกร่างกายที่สังเกตเห็นได้ชัดคือ ปัญหาผิวพรรณที่แห้งกร้าน เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย แลดูแก่กว่าวัย
นอกจากนี้การรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ขาดสารอาหาร หรือ ได้รับวิตามินไม่เพียงพอ ดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ ความเครียด นอนดึก ล้วนส่งผลต่อความสมดุลของฮอร์โมน เนื่องจากสุขภาพภายในของผู้หญิงนั้นจะเสื่อมเร็วกว่าผู้ชายหลายเท่า จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องดูแลตัวเองเพื่อสุขภาพที่ดี ฮอร์โมนสมดุลและผิวพรรรณที่ดี สดใสจากภายในสู่ภายนอก และเพื่อชะลอความแก่ก่อนวัย ชะลอปัญหาวัยทองก่อนกำหนด จนไปสู่ภาวะมีบุตรยากตามมา โดยครูก้อยมีเคล็ดลับในการกู้คืนความสาวทั้งระบบ ทั้งระบบภายใน ปรับสมดุลฮอร์โมน และ ผิวพรรณได้อย่างตรงจุดด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 14 ชนิด ได้แก่
1.สารสกัด isoflavone จากถั่วเหลือง ซึ่งเป็นไฟโตเอสโตรเจนตามธรรมชาติ ที่มีฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนของผู้หญิช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเพศหญิง ลดอาการวัยทองก่อนวัย ป้องกันรังไข่เสื่อม ลดอาการร้อนวูบวาบ นอนไม่หลับ ช่องคลอดแห้ง และลดอาการปวดประจำเดือน
โดยต้องเลือกทานสารสกัดที่ปลอดภัย SOLGEN เป็นสารสกัดไอโซฟลาโวนที่ได้รับการจดสิทธิบัติจากประเทศสเปน ได้รับการรับรองความปลอดภัยแม้ทานติดต่อกัน ไม่ส่งผลเป็นการกระตุ้นให้เกิดมะเร็งเต้านม
โดยมีการรับรองความปลอดภัยจาก European Food Safety Association (EFSA) จากการทดลองให้ผู้หญิงทาน Solgen ไอโซฟลาโวนเข้มข้น 35-150 mg ต่อวันเป็นเวลาติดต่อกัน ไม่พบถึงความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดมะเร็งเต้านม
2.คอลลาเจนเปปไทด์จากปลา ( Fish Collagen Peptide) โดยเฉพาะ Nippi Collagen คอลลาเจนที่มาจากปลานิลสายพันธุ์Tilapiaจากประเทศญี่ปุ่น มีรายงานวิจัยว่าให้ความปลอดภัยมากกว่าการใช้คอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งอาจมีการสะสมของโลหะหนักใต้ท้องทะเล และ Nippi Collagen ยังมีความคล้ายกับคอลลาเจนในมุนษย์มากกว่าคอลลาเจนจากสัตว์อื่นๆ ช่วยบำรุง กระดูก และผิวพรรณ ของผู้หญิง เติมความชุ่มชื้น ให้กับผิวที่ขาดน้ำกลับมาชุ่มชื้นได้อย่างรวดเร็ว ผิวลื่น ไม่สาก และอุ้มน้ำรวมถึงทำให้เล็บ ผิว ผม มีสภาพที่สมบูรณ์ไม่เปราะบาง และยังเพิ่มความหนาของผมได้อีกด้วย
3.NATRO-G สารสกัดจากตังกุย (Dong Quai) นวัตกรรมใหม่ภายใต้ลิขสิทธิ์จากประเทศเกาหลี ประสานสารสกัดจากโสม 3 สายพันธุ์ ได้แก่ Cynanchum Wilfordii, Phlomis Umbrosa และ Angelica Gigas ในสัดส่วนและเทคโนโลยีที่สกัดที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะจนกลายมาเป็น NATRO-G ได้รับรางวัลการันตีระดับโลกและการันตีความปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียง ไม่ส่งผลต่อมะเร็งเต้านม และได้รับการยอมรับมามากกว่า 400 ปี ในประเทศเกาหลีช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเอสโตรเจนให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ บรรเทาอาการวัยทอง หรือภาวะฮอร์โมนเพศหญิงลดลงก่อนกำหนด
4.สารสกัดจากลูกยอ ช่วยบำรุงมดลูก ลดปัญหาปวดประจำเดือน ขับน้ำคาวปลา
5.สารต้านอนุมูลอิสระจากเมล่อนฝรั่งเศส ที่มีการควบคุมดูแลเพาะปลูกภายใต้มาตรฐานขยายพันธุ์โดยใช้เกสรผสมไม่ใช้วิธี GMO จากผลวิจัยพบว่า สารสกัดจากเมล่อนฝรั่งเศส มีสารสำคัญ Superoxide dismutase หรือ SOD เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติพิเศษอย่างชัดเจนที่แตกต่างจากสารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่น คือสามารถรีไซเคิลที่ได้ตับและกลับมาจัดการกับอนุมูลอิสระได้อีก เป็นสุดยอดสารต้านอนุมํลอิสระมีฤทธิ์แรง เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น
6.สารสกัดจากทับทิม ช่วยให้ผิวกระจ่างใส มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ และลดไขมันโคเลสเตอรอลในเลือด
7.สารสกัดจากชาเขียว มีคุณสมบัติช่วยลดคอเรสเตอรอลและเพิ่มปริมาณคลอเรสเตอรอลชนิดดี (HDL) ช่วยในการเผาพลาญไขมัน
8.สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส ให้ผิวกลับมีความนุ่มและอ่อนเยาว์มากขึ้น
9.สารสกัดจากโสม ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งในรังไข่ และเซลล์มะเร็งปอดได้เป็นอย่างดี ป้องกันภาวะผมบางและหัวล้าน
10.สารต้านอนุมูลอิสระจากเมล็ดองุ่น มีประสิทธิภาพและมีอนุภาพสูงกว่าวิตามินซี 20 เท่า และสูงกว่าวิตามินอี50 เท่า ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวพรรณ ชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้ดีเยี่ยม
11.แอล-กลูคาไธโอน ที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิล ทำให้ผิวขาวเป็นธรรมชาติ รอยดำดูจางลง ผิวเปล่งประกายมีออร่า
12.สารสกัดโซเดียมแอลแอสคอร์เบต ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว ลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว
13.กรดอัลฟาไลโปลิค ช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกทำลาย ริ้วรอยลดลง ช่วยขับล้างสารพิษตกข้างในตับ ทำให้สุขภาพดีทั้งภายนอกและภายใน
14.โคเอนไซม์ คิวเท็น ช่วยให้เซลล์มีพลังงาน เผยผิวกระจ่างใสไร้ริ้วรอย เติมความชุ่มชื่นแข็งแรงให้แก่เซลล์ผิว
ดังนั้น เพื่อกู้คืนความสาวทั้งระบบและป้องกันความเสื่อมของวัย สตรีวัยเจริญพันธุ์ต้องทานอาหารตามหลักโภชนาการ และเสริมด้วยวิตามินที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนฟื้นฟูระบบภายในและผิวพรรณที่มีสารสกัดจากธรรมชาติที่กล่าวไปข้างต้น โดยให้สังเกตเครื่องหมายรับรองการผลิตที่ได้มาตรฐาน และมีเครื่องหมายรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อความปลอดภัย และอย่าลื่มออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 45 นาทีต่อวัน ต่อเนื่อง 4-5 วันต่อสัปดาห์ เพราะการออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงแล้ว ขณะออกกำลังกายร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย หากออกกำลังกายสม่ำเสมอสามารถลดความเครียดในระยะยาวได้ และช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น ครูก้อย นัชชา กล่าว.