“ปอดของคนกรุงเทพฯ” 3 สวนสาธารณะใหญ่ใจกลางเมือง เติมชีวิตเมืองด้วยพื้นที่สีเขียว

 กรุงเทพมหานคร (กทม.) ขับเคลื่อนนโยบายด้านมหานครสีเขียวอย่างเต็มกำลัง เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยตั้งเป้าหมายในปี 2573 กรุงเทพฯ จะเป็นมหานครสีเขียวอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งนอกจากโครงการ GREEN BANGKOK 2030 ที่มุ่งเน้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการสร้างสวนสาธารณะใหม่ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อให้อัตราส่วนพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นเป็น 10 ตารางเมตรต่อประชากร 1 คนตามเป้าหมายใน 8 ปีข้างหน้าแล้ว กทม. ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่สีเขียวเดิม เพื่อต่อยอดศักยภาพและสร้างความยั่งยืนในอนาคต และนี่คือ 3 สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ได้ชื่อว่า “ปอดของคนกรุงเทพฯ”

“สวนป่าเบญจกิติ” พื้นที่กว่า 300 ไร่ สวนสาธารณะใจกลางกรุงเทพฯ (นำร่องปลูกต้นไม้ล้านต้น)

“สวนป่าเบญจกิติ” เป็นสวนสาธารณะที่พัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียวใจกลางเมืองเพื่อให้คนกรุงเทพฯ ได้ใช้พักผ่อน ออกกำลังกาย สูดอากาศบริสุทธิ์ ตั้งอยู่ติดกับสวนเบญจกิติเดิมที่อยู่ริมถนนรัชดาภิเษก ใกล้กับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ปัจจุบัน สวนป่าเบญจกิติมีการพัฒนาต่อเนื่องในระยะที่ 2 และ 3 มีการเพิ่มพื้นที่ป่า พื้นที่น้ำ เส้นทางออกกำลังกาย พื้นที่กิจกรรม และอาคารพิพิธภัณฑ์ สำหรับพื้นที่ธรรมชาติได้มีการเพิ่มต้นไม้ในโครงการกว่า 8,000 ต้น และพันธุ์ไม้หายากกว่า  350 ชนิด  แลนด์มาร์กโดดเด่นของที่นี่ คือ เกาะต้นไม้กลางบึงน้ำจากภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวสวน

นอกจากนี้ พื้นที่ออกกำลังกาย แบ่งเป็นเส้นทางเดิน เส้นทางวิ่ง เส้นทางจักรยาน โดยมีจุดเด่นที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่คือ สกายวอล์ก (Sky Walk) ทางเดินระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร

สวนป่าเบญจกิติจะเสร็จสมบูรณ์และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 แต่ปัจจุบันได้เปิดให้บริการในบางพื้นที่แล้ว สามารถใช้บริการได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00 – 21.00 น.

“100 ปี สวนลุมพินี” ปรับโฉมสู่สวนสาธารณะระดับโลก

สวนสาธารณะแห่งแรกของไทย “สวนลุมพินี” กำลังจะได้รับการแปลงโฉมครั้งใหญ่เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี ในปี 2568 เป็นสวนสาธารณะที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของประเทศ เริ่มเปิดบริการในปี 2468 เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีพื้นที่ 360 ไร่ โอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว มีต้นไม้ใหญ่อายุเก่าแก่ให้ความร่มรื่นอยู่ทั่วบริเวณ มีสระน้ำกว้างใหญ่ ดอกไม้นานาพันธุ์ สวนป่าและสถานที่สำคัญต่าง ๆ ซึ่งในแต่ละวันมีประชาชนเข้ามาใช้บริการภายในสวนลุมพินีเป็นจำนวนมาก โดยเฉลี่ยในวันจันทร์ – ศุกร์ ประมาณ 10,000 คนต่อวัน และในวันเสาร์ – อาทิตย์ ประมาณ 15,000 คนต่อวัน ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตปทุมวัน ซึ่งเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจ (Central Business District: CBD) ของกรุงเทพฯ ล้อมรอบด้วยอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม คอนโดมิเนียม ภายในมีลักษณะการใช้งานแบบอเนกประสงค์ เป็นที่ตั้งของศูนย์นันทนาการ สมาคม ชมรมต่าง ๆ

“อุทยานสวนจตุจักร” เชื่อมต่อ 3 สวนสาธารณะกลางเมือง

กทม. ดำเนินโครงการปรับปรุงทางเชื่อมสวนสาธารณะ 3 แห่ง ได้แก่ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ มีพื้นที่ 196 ไร่ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) มีพื้นที่ 375 ไร่ และสวนจตุจักร มีพื้นที่ 155 ไร่ ซึ่งเมื่อรวมสวนสาธารณะทั้ง 3 แห่งนี้เข้าด้วยกัน กลายเป็น “อุทยานสวนจตุจักร” สวนสาธารณะขนาดใหญ่มีพื้นที่ทั้งหมด 726 ไร่ โดยมีโครงการก่อสร้างปรับปรุงทางเดิน – วิ่ง และทางจักรยานภายในสวนสาธารณะทั้ง 3 แห่งให้เชื่อมต่อถึงกัน จัดทำเส้นทางวิ่งมินิมาราธอนระยะทาง 10.5 กิโลเมตร และเส้นทางจักรยานระยะทาง 10 กิโลเมตร โดยทั้งสองเส้นทางนี้จะแยกจากกัน เพื่อความปลอดภัยขณะออกกำลังกาย

“อุทยานสวนจตุจักร” เป็นอีกทางเลือกของการออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งประชาชนสามารถเรียนรู้และศึกษาธรรมชาติได้ในเวลาเดียวกัน โดยสวนสาธารณะทั้ง 3 แห่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ

– สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เป็นสวนพฤกษศาสตร์

– สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เป็นสวนสาธารณะสำหรับครอบครัวที่ประชาชนเข้ามาออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมร่วมกัน

– สวนจตุจักร เป็นสวนในวรรณคดีและเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้ในวรรณคดีหรือต้นไม้หายาก

นอกจากนี้ กทม. ยังมีแนวคิดรวมพื้นที่สวนสมเด็จย่า 84 พรรษา ให้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานสวนจตุจักรด้วย โดยใช้สะพานลอยคนข้ามบริเวณสวนจตุจักรที่มีอยู่เดิมเป็นทางเชื่อม ซึ่งอยู่ระหว่างปรับปรุงภูมิทัศน์ ปรับทางเดิน – วิ่ง และลานกิจกรรมให้สวยงาม ปรับปรุงรางระบายน้ำ ถมดินปรับระดับ คาดว่าแล้วเสร็จพร้อมกับงานปรับปรุง 3 สวนสาธารณะ เมื่อเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ กทม. จะสามารถรวมพื้นที่ 4 สวนสาธารณะเข้าด้วยกัน กลายเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ

อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมที่  :  https://link.bookkurry.com/bkk_news_issue_282