ฟิลเลอร์ใต้ตา
เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกจะเริ่มมีการทรุดตัวลง ชั้นไขมันบางลง มีการเสื่อมสลายของคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหย่อนคล้อย จุดที่สังเกตได้ชัดที่สุดว่าเริ่มทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากขึ้นคือบริเวณใต้ตา เช่น ร่องใต้ตา ร่องน้ำตา ถุงใต้ตา ขอบตาดำ ซึ่งวิธีแก้ไขปัญหาใต้ตาที่เห็นผลชัดเจนและตรงจุดที่สุด คือการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เพื่อให้เข้าใจการฉีด Filler ใต้ตามากขึ้นว่าช่วยอะไรได้บ้าง เห็นผลมากแค่ไหน เหมาะกับใคร ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี อันตรายไหม มีข้อมูลแนะนำในบทความนี้ครับ
สารบัญ ฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฟิลเลอร์ใต้ตา คือ ?
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับใคร ?
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
- ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ?
- ฟิลเลอร์ใต้ตา เจ็บไหม ?
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา vs การเติมไขมัน
- ฉีดถุงใต้ตา
- ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ?
- ฟิลเลอร์ใต้ตากี่ cc ?
- การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เกิดจากอะไร?
- วิธีฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมกี่วัน ?
- ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้กี่เดือน ?
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ?
- รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฟิลเลอร์ใต้ตาราคา
ฟิลเลอร์ใต้ตา คือ ?
ฟิลเลอร์ใต้ตา คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) มีลักษณะเป็นเนื้อเจล เมื่อฉีดเข้าไปในชั้นผิวจะช่วยทดแทนส่วนที่สึกหรอ เช่น การทรุดตัวของกระดูก คอลลาเจน อีลาสติน ช่วยหนุนผิวที่หย่อนคล้อยให้ยกขึ้น เติมเต็มริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ บริเวณใต้ตา เพิ่มความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นให้ผิว และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต
นอกจากใต้ตาแล้ว ยังสามารถฉีดฟิลเลอร์ในจุดอื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาที่แตกต่างกันได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เช่น ฟิลเลอร์คาง, ฟิลเลอร์ร่องแก้ม, ฟิลเลอร์ปาก, ฟิลเลอร์หน้าผาก, ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์จึงได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขริ้วรอย ร่องลึก ถุงใต้ตา รอยคล้ำใต้ตา ขอบตาดำ เบ้าตาลึก ตาโหล
- ผู้ที่กลัวการผ่าตัด ไม่อยากมีแผลจากการผ่าตัด การฉีดฟิลเลอร์จะไม่ทิ้งรอยแผล
- ผู้ที่ต้องการทำหัตถการที่เห็นผลเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
- ผู้ที่มีปัญหาเบ้าตาลึก ขอบตาดำ จากกรรมพันธ์ุ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาผู้ชาย
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาผู้ชาย ใช้แก้ปัญหาใต้ตาได้ไม่ต่างจากผู้หญิงครับ ส่วนมากจะเป็นปัญหาเบ้าตาลึก ขอบตาดำ ที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม เหนื่อยล้า ไม่สดใส หลังฉีดจะทำให้ใบหน้าดูเด็กลง และสดใสมากขึ้น
ตัวอย่าง รีวิว การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาผู้ชาย
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยในเรื่องการเติมเต็มร่องลึกและลดริ้วรอย โดยไม่ต้องแต่งหน้าหรือใช้คอนซีลเลอร์กลบ และเป็นหัตถการที่สามารถแก้ปัญหาส่วนใหญ่ที่จะเกิดขึ้นบริเวณใต้ตาได้
- ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยลดริ้วรอยใต้ตา รอยเหี่ยวย่นบริเวณหางตา ให้ผิวเต่งตึงขึ้น
- ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ไขปัญหาถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย ให้ผิวเรียบเนียน ยกกระชับ
- ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยลดรอยคล้ำบริเวณใต้ตา ขอบตาดำ ช่วยให้ใต้ตาสว่างขึ้น
- ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาร่องใต้ตา เบ้าตาลึก เติมเต็มผิวให้เรียบเนียนเสมอกัน
ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ?
ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหัตถการที่ปลอดภัยครับ หากฉีดด้วยสารเติมเต็มที่ผ่านอย. อย่างถูกต้อง ไม่ใช่ฟิลเลอร์หิ้ว ฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งฟิลเลอร์ชนิดเดียวที่ปลอดภัยที่สุดและผ่านการรับรอง คือ Hyaluronic Acid ครับ มีการรับรองโดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA)
ถ้าพูดถึงคำว่า Filler ในต่างประเทศจะหมายถึงสารเติมเต็ม ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
- HA (Hyaluronic Acid)
- Collagen จากสัตว์
- Transplanted Fat หรือการฉีดไขมัน
- Biosynthetic polymers ซิลิโคนเหลว
สำหรับในประเทศไทยฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid เท่านั้นที่ผ่านอย. ฉีดแล้วสามารถสลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง ฉีดใหม่ได้เรื่อย ๆ โดยไม่เป็นอันตราย จึงเรียกว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ ส่วนสารในกลุ่มซิลิโคนเหลว หรือสารอื่น ๆ ที่ฉีดแล้วอยู่ถาวร ไม่สลาย จะไม่ได้รับการรับรองจากอย. ไทยครับ
นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง เนื่องจากบริเวณใต้ตามีเส้นเลือดสำคัญที่สามารถเชื่อมไปยังลูกตาได้ หากฉีดฟิลเลอร์แล้วมีการอุดตันเส้นเลือดอาจทำให้เกิดเนื้อตาย หรือตาบอดได้ครับ ทั้งนี้ในปัจจุบันหากใช้ฟิลเลอร์แท้ ก็มีตัวยาที่สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ ทำให้ต่อให้เกิดข้อผิดพลาด แพทย์ก็สามารถฉีดสลายแก้ไขได้ทันทีครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา vs การเติมไขมัน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและการเติมไขมัน มีส่วนที่ช่วยแก้ปัญหาได้คล้าย ๆ กันครับ แต่การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะสามารถช่วยแก้ปัญหาใต้ตาที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา หรือกระดูกหน้าแก้มได้ ซึ่งการฉีดไขมันทำไม่ได้ครับ
โดยสามารถสรุปจุดเด่นของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และการเติมไขมันใต้ตา ได้ดังนี้
ฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดโดยใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid
- ใช้เวลาทำหัตถการไม่นาน ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
- เห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที
- ฟิลเลอร์อยู่ไม่ได้ถาวร แต่เมื่อสลายหมดแล้วสามารถฉีดซ้ำได้
- มีอาการบวมหลังฉีดได้เป็นปกติ จะหายไปเองใน 2-3 วัน
- ฟิลเลอร์เข้าที่ 100% ใน 2 สัปดาห์
ฉีดไขมันใต้ตา
- ใช้ไขมันของตัวเองในการฉีด โดยใช้วิธีดูดไขมันจากจุดอื่นของร่างกายมาผ่านกระบวนการแล้วฉีดเข้าไปบริเวณใต้ตา
- ไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้
- มีแผลในตำแหน่งที่มีการดูดไขมันมาเพื่อฉีด
- มักจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในครั้งแรก ต้องทำซ้ำหลายครั้ง แต่ถ้าปลูกไขมันติดก็อยู่ได้นาน
- อาจเกิดปัญหาผิวไม่เรียบเสมอกัน
ก่อนตัดสินใจว่าจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หรือฉีดไขมันใต้ตา ควรปรึกษาแพทย์ ให้ประเมินปัญหาและสภาพผิว เพื่อแนะนำวิธีที่เหมาะสมกับแต่ละคนครับ
ฉีดถุงใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาได้ โดยใช้เทคนิคพิเศษฉีดถุงใต้ตาด้วยฟิลเลอร์ เพื่อแก้ไขต้นเหตุของการเกิดถุงใต้ตาครับ ถุงใต้ตาจะมีลักษณะเป็นถุงป่องนูนบริเวณใต้ตา ทำให้ไขมันมารวมกันบริเวณใต้ตามากเกินไป เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อายุมากขึ้นทำให้ถุงไขมันใต้ตาและหนังใต้ตาหย่อนคล้อย โรคภูมิแพ้ การระคายเคือง ผิวหนังที่เสื่อมสภาพ ทำให้ถุงไขมันเคลื่อนตัวลงมา เมื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะทำให้ผิวหนังใต้ตาเรียบเนียน ไม่เห็นเป็นถุงใต้ตาหย่อนลงมา ถือเป็นวิธีที่เหมาะกับคนที่ต้องการแก้ปัญหาถุงใต้ตาโดยไม่ต้องผ่าตัด
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ?
ฟิลเลอร์มีหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ผลิตมาเพื่อให้เหมาะกับการฉีดในบริเวณที่แตกต่างกัน โดยฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดใต้ตา มีดังนี้
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Juvederm
- Juvederm Voluma (อยู่ได้นาน 18 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ฟูปานกลาง ยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำและให้ความเป็นธรรมชาติ
- Juvederm Volite (อยู่ได้นาน 8-12) เดือน ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ใช้เติมใต้ตาชั้นตื้น เหมาะกับคนผิวบางแต่ไม่มากเกินไป
- Juvederm Volux (อยู่ได้นาน 18-24) เดือน ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัว สำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Restylane
- Restylane Defyne (อยู่ได้นาน 18 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อเจลแข็งปานกลาง มีความยืดหยุ่นและอุ้มน้ำได้ดี
- Restylane Vital Light (อยู่ได้นาน 6-12 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดมากที่สุด ใช้สำหรับเคสที่ผิวบางๆ
- Restylane Vital (อยู่ได้นาน 12 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับเก็บรายละเอียด ให้ผลเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ
- Restylane Perlane lyft (อยู่ได้นาน 12 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด
- Restylane Classic (อยู่ได้นาน 12 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึก สำหรับคนผิวบาง
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Belotero
- Belotero Volume (อยู่ได้นาน 18 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัว เหมาะฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก
- Belotero Soft (อยู่ได้นาน 6-12 เดือน) ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับฉีดเติมเต็มและเก็บรายละเอียดใต้ตา
นอกจากนี้ยังมีฟิลเลอร์ใต้ตา eptq, neuramis ซึ่งเป็นยี่ห้อฟิลเลอร์จากเกาหลี ที่ผ่านอย. ไทย ซึ่งราคาจะถูกกว่าฟิลเลอร์จากฝั่งยุโรป คนไข้สามารถปรึกษาแพทย์ เลือกยี่ห้อฉีดได้ตามความเหมาะสม ทั้งในเรื่องของปัญหาที่ต้องการแก้ไขและงบประมาณ
สำหรับที่ V Square Clinic ทีมแพทย์จะมีการเดินทางไปถึงโรงงานในประเทศผู้ผลิตฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ เพื่อคัดสรรฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานระดับโลก รวมไปถึงจะมีการทดลองใช้จริงก่อนนำเข้ามาที่คลินิก เพื่อให้มั่นใจว่าทุกเคสจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดครับ
ฟิลเลอร์ใต้ตากี่ cc ?
ฟิลเลอร์ใต้ตากี่ cc ? สำหรับคนที่มีปัญหาใต้ตาไม่ลึกมาก ยังอายุไม่เยอะ ไม่ได้มีการทรุดตัวของกระดูก แต่ต้องการแก้ปัญหาร่องน้ำตา ใต้ตาคล้ำ หรือริ้วรอยเล็กน้อย ใช้ฟิลเลอร์ใต้ตาประมาณ 1-2 CC ก็เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนแล้วครับ แต่ในกรณีที่มีปัญหากระดูกใต้ตาทรุดตัว มีถุงใต้ตา ผิวหย่อนคล้อยมาก ๆ ก็ต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์เพิ่มขึ้นตามความเหมาะสมครับ
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างละเอียด เปรียบเทียบราคาที่เหมาะสม และดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงจากคลินิกนั้น ๆ ในแหล่งที่น่าเชื่อถือ
- เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และควรตรวจสอบรายชื่อ/ข้อมูลแพทย์ ให้มั่นใจว่าไม่ใช่หมอปลอม
- ศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้ยี่ห้อต่าง ๆ
- เมื่อตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้ว ควรงดยาแอสไพริน, NSAIDs เช่น Ibuprofen Diclofenac Ponstan เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำหัตถการ หากเป็นยาที่ต้องทานประจำควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาอยู่ก่อนที่จะหยุดยานั้น ๆ
- หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่กินเป็นประจำอื่น ๆ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งกับแพทย์ก่อนที่จะทำหัตถการ
- ควรงดการแว็กผิว ผลัดเซลล์ผิว การดึงขนหรือโกนขนเป็นเวลา 3 วันก่อนทำหัตถการ
- หากมีคอร์สทำหน้านวดหน้าหรือเลเซอร์ต่าง ๆ ที่ต้องทำเป็นประจำ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วันก่อนทำฟิลเลอร์หรือร้อยไหม เพราะหลังทำต้องเว้นไปอีก 2 อาทิตย์
- ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชม. ก่อนทำ เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายชนิด Cardio การดื่มแอลกอฮอล์
- สามารถแต่งหน้ามาได้ เมื่อถึงคลินิกจะมีการทำความสะอาดบริเวณจุดที่จะฉีดก่อนทำหัตถการ
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- หลังฉีด Filler ใต้ตา อาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
- หากหลังจากฉีดฟิลเลอร์ไปแล้ว 3 วัน มีการบวมมากขึ้น ผิวหนังเปลี่ยนสีหรือมีตุ่มหนอง ให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อประเมินอาการและรับยาทานเพิ่ม
- ควรทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ควรหยุดยาเอง
- อยู่ในที่มีอากาศเย็น ไม่ร้อนจนเกินไป หากจำเป็นควรสวมหมวก กางร่ม หรืออุปกรณ์ป้องกันความร้อนสัมผัสใบหน้า
- งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน แต่สามารถล้างหน้า แต่งหน้าได้ตามปกติ
- งดการนวดหน้า เลเซอร์ หรือหัตถการอื่น ๆ บริเวณใบหน้า เป็นเวลา 14 วัน หากเป็นเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึก RF หรือ Thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือน
- ใน 2-3 คืนแรก ควรนอนโดยใช้หมอนหนุนศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ เพื่อให้ศีรษะอยู่สูงกว่าระดับหน้าอก งดการนอนตะแคง แนะนำให้ใช้หมอนมากันใบหน้าทั้งด้านซ้ายและขวาเพื่อป้องกันการกดทับบริเวณที่ฉีด
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตร เพื่อช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และน้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังฉีด Filler ใต้ตา จะมีอาการบวมทั้งจากเข็มและฟิลเลอร์ เป็นอาการปกติที่จะค่อย ๆ หายไปเองครับ อาจจะมีรอยเข็ม หรือรอยช้ำที่เห็นชัดได้ในคนที่ผิวบางมาก ๆ สามารถแต่งหน้าปกปิดรอยได้ ไม่เป็นอันตราย นอกจากนี้หากหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วรับประทานอาหารบางชนิด เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก อาหารทะเล อาหารหมักดอง ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและทำให้ผิวยิ่งบวมมากขึ้นได้ ควรงดอาหารเหล่านี้อย่างน้อย 3 วัน และหลังจาก 14 วัน สามารถรับประทานได้ตามปกติครับ
ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เกิดจากอะไร ?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- หากใช้ฟิลเลอร์แท้ แพทย์ผู้ทำการฉีดอาจมีประสบการณ์ไม่มากพอ ฉีดฟิลเลอร์ในผิวชั้นตื้นเกินไป หรือใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากเกินไป ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มากองรวมกันเป็นก้อน
- เลือกฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับจุดที่ฉีด เช่น ใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็งฉีดในผิวชั้นตื้น
- ใช้ฟิลเลอร์ปลอม ทำให้ฉีดแล้วเป็นก้อนแข็ง เมื่อเวลาผ่านไปจะเกิดการไหลย้อย
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับหมอกระเป๋า หมอปลอม ที่ไม่มีความรู้เรื่องกายวิภาคเป็นอย่างดี
ทั้งนี้หากมีปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน แต่ฉีดโดยใช้ฟิลเลอร์แท้ สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase:HYAL) จะช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียนเป็นปกติครับ และสามารถฉีดฟิลเลอร์ใหม่ได้โดยไม่มีผลข้างเคียง
วิธีฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา
ในขั้นตอนการฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา สิ่งที่คนไข้ควรมีข้อมูลมาแจ้งแพทย์ ได้แก่
- ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดไปในครั้งแรก เพื่อให้แพทย์สามารถคำนวณปริมาณ Hyaluronidase ที่จะใช้ได้
- ก่อนฉีดสลายต้องมีการสอบถามข้อมูลคนไข้ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ฉีดมา, Serial No., เป็นของแท้หรือไม่, ฉีดตำแหน่งไหน, กี่ CC และฉีดมานานแค่ไหนแล้ว
- เมื่อมีการซักประวัติเรียบร้อยแล้วแพทย์จะฉีดเอนไซม์ Hyaluronidase ในบริเวณที่ต้องการแก้ไข จะช่วยสลาย Hyaluronic Acid ออกไป
- หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ จะออกฤทธิ์ทันทีหลังฉีดไปจนถึง 48 ชั่วโมง อาจมีอาการบวมเข็มเล็กน้อย จะหายได้เองใน 7 วัน
- มีการนัดติดตามผล หากยังสลายไม่หมดก็จะมีการฉีดเพิ่ม
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบวมกี่วัน ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาทันทีจะไม่มีอาการบวมครับ แต่จะเริ่มบวมมากขึ้นใน 2-3 วันแรก ก่อนจะค่อย ๆ ยุบบวมลง โดยฟิลเลอร์จะเข้าที่ 100% ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์
ฟิลเลอร์ใต้ตา เจ็บไหม ?
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะมีการแปะยาชา และในเนื้อฟิลเลอร์ก็จะผสมยาชาอยู่แล้ว ดังนั้นขณะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคนไข้อาจจะรู้สึกตอนกำลังฉีดเนื้อฟิลเลอร์เข้าไปบ้าง จะไม่รู้สึกเจ็บ ไม่ต้องกังวลครับ
ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้กี่เดือน ?
ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้กี่เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ซึ่งระยะเวลาจะไม่เท่ากัน ส่วนมากจะอยู่ได้นาน 6-24 เดือน นอกจากนี้การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ฟิลเลอร์สลายช้า อยู่ได้นานขึ้น ดังนั้นจึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและอยู่ได้นาน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ?
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขว่าเปิดอย่างถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก มีป้ายชื่อสถานพยาบาลติดอยู่ในที่มองเห็นได้ง่าย
- แพทย์ที่ประจำคลินิก สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นแพทย์จริงรับรองจากแพทยสภา
- ฟิลเลอร์ที่ใช้สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ เช็กเลข Lot กับบริษัทนำเข้าได้ และสามารถขอกล่องกลับบ้าน
- ควรดูรีวิวผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับคลินิก ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ ไม่ดูรีวิวที่มาจากคลินิกเพียงอย่างเดียว
- คลินิกควรมีช่องทางการติดต่อที่สะดวก สามารถปรึกษาแพทย์ได้โดยตรง เช่น เบอร์โทร Line@
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ก่อน-หลังทำ ที่ V Square Clinic
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้ ที่ V Square Clinic
ฟิลเลอร์ใต้ตาราคา
ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ซึ่งต่างกันที่คุณสมบัติ ค่าความยืดหยุ่น ความคงตัว การอยู่ได้นาน และเทคโนโลยีการผลิต ทำให้ได้ราคาที่ไม่เท่ากันครับ ส่วนใหญ่ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคามาตรฐานจะอยู่ที่หลักหมื่นขึ้นไป และที่ราคาแต่ละคลินิกไม่เท่ากัน เป็นปัจจัยในเรื่องของประสบการณ์ของแพทย์ที่แต่ละที่ก็จะไม่เท่ากันครับ
สำหรับใครที่สนใจการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ อยากให้ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน หรือหากยังไม่มั่นใจว่าตัวเองเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหรือไม่ ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี สามารถปรึกษาทีมแพทย์ V Square Clinic ได้ทั้งทางออนไลน์และวอร์คอิน เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินและแนะนำก่อนได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
ขอบคุณข้อมูล