
คอลัมน์ : สุขภาพดีกับรามาฯ ผู้เขียน : ทพ.ภูมิพัฒน์ ลีชนะวานิชพันธ์ งานทันตกรรม คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ปัญหา “กลิ่นปาก” อาจดูไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สามารถส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพ ความมั่นใจในตนเอง และการเข้าสังคมได้ สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือยังเป็นสัญญาณบอกโรคที่ซ่อนอยู่ได้ด้วย หากปล่อยทิ้งไว้อาจก่อให้เกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรงได้
สาเหตุของกลิ่นปาก แบ่งได้ 2 ประเภท คือ “สาเหตุภายนอก” เกิดจากโรคที่ไม่เกี่ยวกับช่องปากโดยตรง เช่น ไซนัสอักเสบ คออักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ เกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนต้น หรือระบบทางเดินอาหารมีปัญหา เช่น ลําไส้อุดตัน กรดไหลย้อน
และ “สาเหตุภายใน” เกิดจากปัญหาในช่องปาก เช่น ทำความสะอาดไม่ทั่วถึง มีเศษอาหารติดตามซอกฟัน เหงือกอักเสบ ฟันผุ หรือมะเร็งในช่องปาก
วิธีทดสอบกลิ่นปากทำได้หลายวิธี เช่น ให้คนใกล้ชิดช่วยบอก, ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดตามซอกฟัน เสร็จแล้ววางทิ้งไว้ หรือใช้นิ้วแตะน้ำลายทิ้งไว้สักพักแล้วดม หากมีกลิ่นแสดงว่าอาจมีกลิ่นปาก, ใช้เครื่องวัดกลิ่นปาก
5 ความเชื่อเรื่องกลิ่นปาก
หลายคนคงเคยได้ยินความเชื่อถึงพฤติกรรมบางอย่างที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปาก หรือวิธีแก้ปัญหากลิ่นปาก ความเชื่อเหล่านี้เรื่องไหนจริง เรื่องไหนหลอก
1.มีกลิ่นปากเพราะดื่มน้ำน้อย ความเชื่อนี้จริงบางส่วน เพราะน้ำลายมีความสําคัญต่อการชะล้างสิ่งสกปรกต่าง ๆ รวมถึงเศษอาหารในช่องปาก การดื่มน้ำน้อยทําให้มีน้ำลายน้อยลง เศษอาหารจึงมีแนวโน้มสะสมได้มากขึ้น เกิดการหมักหมม และเป็นสาเหตุหนึ่งของกลิ่นปากได้
2.มีกลิ่นปากเพราะใส่ฟันปลอมผิดขนาด ความเชื่อนี้จริง การใส่ฟันปลอมไม่พอดีกับช่องปาก จึงสามารถขยับได้ เมื่อรับประทานอาหารจะเกิดการสะสมของเศษอาหารใต้ฟันปลอมจนเกิดกลิ่นปาก ผู้ที่ใส่ฟันปลอมมานานแล้วเริ่มรู้สึกว่ามีปัญหานี้ เป็นไปได้ว่าฟันปลอมอาจมีขนาดไม่พอดี ควรมาพบทันตแพทย์เพื่อตรวจวัดขนาดฟันปลอมใหม่
3.มีกลิ่นปากให้บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ 3 เวลา ความเชื่อนี้จริงบางส่วน เพราะน้ำเกลือมีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อโรคได้บางส่วน และช่วยบรรเทาอาการเหงือกอักเสบ แต่การบ้วนปากด้วยน้ำเกลือเพียงอย่างเดียวโดยที่ไม่ได้แปรงฟันเพื่อกำจัดเศษอาหารที่สะสมอยู่ในช่องปากนั้น อาจทำให้กลิ่นปากกลับมาได้ ฉะนั้นควรแปรงฟันควบคู่ไปกับการบ้วนน้ำเกลือ
4.มีกลิ่นปากรับประทานผักสดช่วยได้ ความเชื่อนี้ไม่จริง เพราะเส้นใยในผักสดไม่สามารถช่วยทำความสะอาดฟันได้ หากรับประทานแล้วมีเศษอาหารติดตามซอกฟันแล้วแปรงออกไม่หมด อาจเป็นสาเหตุให้เกิดกลิ่นปากได้
5.มีกลิ่นปากให้เคี้ยวหมากฝรั่ง ความเชื่อนี้จริงบางส่วน การเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นการกระตุ้นให้น้ำลายออกมามากขึ้น ซึ่งช่วยในการชะล้างสิ่งสกปรกที่หมักหมมอยู่ในช่องปาก อย่างไรก็ตาม น้ำลายไม่สามารถชะล้างสิ่งสกปรกตามซอกฟันได้หมด กลิ่นปากก็ยังคงเกิดขึ้นได้แม้จะเคี้ยวหมากฝรั่งแล้วก็ตาม ฉะนั้น ควรกำจัดสิ่งสกปรกด้วยการแปรงฟันให้สะอาดจึงจะสามารถแก้ปัญหากลิ่นปากได้
กลิ่นปาก สัญญาณบอกโรค
สำหรับคนที่มีกลิ่นปาก อาจเป็นไปได้ว่ากำลังมีโรคในช่องปาก เช่น เหงือกอักเสบ หรือฟันผุ แต่หากแปรงฟันสะอาดอยู่แล้ว นี่อาจเป็นสัญญาณของโรคที่ซ่อนอยู่ เช่น ไซนัสอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ หรือโรคร้ายแรงอื่น ๆ ฉะนั้น ผู้ที่มีกลิ่นปากแล้วยังหาสาเหตุไม่ได้ จึงควรรีบมาพบทันตแพทย์เพื่อสาเหตุที่แท้จริง
ดังนั้น วิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันกลิ่นปาก ควรแปรงฟันให้ถูกวิธี แปรงลิ้น และใช้ไหมขัดฟันทุกวัน เพื่อทำความสะอาดตามซอกฟันที่แปรงเข้าไม่ถึง หากกลิ่นปากหายไปแสดงว่าเกิดจากการทำความสะอาดไม่ทั่วถึง แต่หากยังมีกลิ่นปากอยู่ ควรมาพบทันตแพทย์เพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากโรคอื่น ๆ หรือไม่ เช่น เหงือกอักเสบในจุดที่ยังไม่ก่อให้เกิดอาการฟันผุ หรือมีโรคร้ายแรงอื่น ๆ
กลิ่นปากเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ไม่ยาก หากหาสาเหตุเจอ แต่ถ้ายังไม่สามารถแก้ไขได้ ควรรีบมาพบทันตแพทย์เพื่อวินิจฉัยและหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป