ป้องกันโรคติดเชื้อใน Nursery

คอลัมน์ สุขภาพดีกับรามาฯ โดย อ.พญ.โสภิดา บุญสาธร

คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กหลายคน มักจะใส่ใจในเรื่องการเรียน การทำกิจกรรม การเล่นและเรียนรู้ของลูกกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจเพิ่มเติมนั่นคือ การระมัดระวังไม่ให้ติดเชื้อโรค ซึ่งทั้งการรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายเด็ก และการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่น คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองจะมีวิธีป้องกันได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกเข้าเรียนในสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือ nursery โรคติดเชื้อที่พบใน nursery แบ่งได้เป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และโรคติดเชื้อในทางเดินอาหาร โดยโรคติดเชื้อที่พบในทางเดินหายใจที่พบได้บ่อย เช่น โรคไข้หวัด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคติดเชื้อ RSV ส่วนโรคติดเชื้อที่พบในทางเดินอาหาร เช่น โรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า โรคอุจจาระร่วง โรคมือเท้าปาก

โรคติดเชื้อส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นตามฤดูกาลของประเทศไทย เช่นว่า ฤดูร้อนจะพบอาการท้องร่วงระบาด ซึ่งมักมากับอาหารที่ปนเปื้อน ฤดูฝนจะพบโรคมือเท้าปาก ไข้หวัดใหญ่ และตามด้วยโรคติดเชื้อ RSV และฤดูหนาวจะพบไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ฤดูหนาวระบาดได้มาก เชื้อโรคเหล่านี้จะพบได้บ่อยพอกัน และยังพบว่ามีการระบาดที่เปลี่ยนแปลงไปตามช่วงฤดูกาลที่ปรับเปลี่ยนอีกด้วย

การติดเชื้อใน nursery มักเกิดจากการไอจามรดกัน จากของเล่น ภาชนะจานชาม เสื้อผ้าก็สามารถติดกันได้ ซึ่งส่วนมากใน nursery ก็มักจะค่อนข้างดูแลความสะอาดได้ค่อนข้างดีอยู่แล้ว และยังมีการแยกของใช้ส่วนตัวของเด็ก ไม่ให้ปะปนกัน ทำให้พอช่วยได้ส่วนหนึ่ง แต่เรื่องที่ยากคือ การติดเชื้อในระหว่างการเล่นกันของเด็ก ๆ

การแพร่กระจายของเชื้อ แบ่งออกได้เป็น การแพร่กระจายในทางเดินอาหาร และการแพร่กระจายในทางเดินหายใจ ซึ่งการแพร่กระจายของเชื้อในทางเดินอาหารนั้น เกิดจากการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาดปนเชื้อโรคโดยตรง การแพร่กระจายอาจจะเกิดขึ้นผ่านทางอุจจาระ จากผ้าอ้อมที่เปรอะอุจจาระปนเปื้อนเชื้อโรค ทำให้สามารถติดต่อกันได้ทั้งในตัวเด็กเองและพี่เลี้ยงด้วย ส่วนการแพร่กระจายเชื้อในทางเดินหายใจเกิดจากการแพร่กระจายเชื้อในอากาศ ไอจามรดกัน สัมผัสเชื้อที่อยู่ตามของเล่น ของใช้ จากน้ำมูก น้ำลาย เหล่านี้สามารถกระจายได้ง่ายในอากาศ

การป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายในทางเดินหายใจ ต้องไม่ให้เด็กที่รับเชื้อคลุกคลีกับเด็กใน nursery ด้วยการคัดกรองเด็กก่อนเข้ามาเรียนเสมอ ซึ่งกรมอนามัยได้มีแนวทางการป้องกันโรคติดต่อในสถานรับเลี้ยงเด็กออกมาแล้ว nursery แต่ละแห่งสามารถนำไปใช้ให้เข้ากับพื้นที่ได้ การป้องกัน

อีกอย่างคือ เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทราบว่าลูกป่วยควรพาไปพบแพทย์หรือนอนพักอยู่ที่บ้าน และควรตรวจวัดไข้ลูก หากพบว่ามีไข้ มีน้ำมูกแล้ว ไม่ควรพาเด็กไป nursery เพราะการพาเด็กไป nursery อาจทำให้เชื้อแพร่กระจายได้ ตัวอย่างเชื้อที่กรมอนามัยแนะนำหากลูกมีอาการ ได้แก่ ท้องร่วง ตาแดง ปอดบวม ไอมาก อีสุกอีใส เป็นต้น

การล้างมือจะช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อได้ ครูพี่เลี้ยงจะต้องสอนให้เด็กรู้จักล้างมือให้ถูกต้องตามวิธี รวมทั้งการล้างทำความสะอาดของใช้ ของเล่น ต้องล้างน้ำสบู่ ผึ่งไว้ทุกวัน ถ้าเด็กไม่ได้เล่นบ่อยก็อนุโลมให้ล้างสัปดาห์ละครั้ง และต้องทำความสะอาดสถานที่ด้วย หากเป็นพื้นยางก็ควรทำความสะอาดทุกวัน เพราะอาจมีเชื้อที่ปะปนกับน้ำมูก น้ำลายได้ หากนำมือเข้าปากเชื้อก็จะเข้าสู่ร่างกายได้

คำแนะนำสำหรับครูพี่เลี้ยงใน nursery ลำดับแรกจะต้องมีการตรวจคัดกรองก่อนเข้าเรียน ต่อมาก็สนับสนุนให้เด็กใน nursery ได้รับวัคซีนพื้นฐาน และวัคซีนเสริม เช่น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโรต้า ที่ทำให้เกิดท้องเสีย เพราะเด็กที่มา nursery มีความเสี่ยงมากกว่าเด็กที่อยู่ที่บ้าน รวมทั้งครูพี่เลี้ยงเองก็ต้องได้รับวัคซีนป้องกันบางชนิดด้วยเช่นกัน ที่สำคัญใน nursery ต้องมีอากาศถ่ายเทได้ดี และควรล้างเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ หากเป็นเด็กโตขึ้นมาหน่อยก็แนะนำให้ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล ร่วมกับการสวมหน้ากากอนามัย


หมายเหตุ : อ.พญ.โสภิดา บุญสาธร ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล