สุขภาพดีกับรามาฯ อ.พญ.รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด
การปรับตัวในช่วงโควิด-19 อย่างหนึ่งให้เกิดการอยู่บ้านหยุดเชื้อและการรักษาระยะห่างทางสังคม คือการใช้ระบบออนไลน์ในการเรียนและการประชุม ทำให้หลาย ๆ คนเกิดปัญหาเรื่องตา โดยเฉพาะการจ้องมองเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มากจนเกินไป ทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าทางสายตา หรือที่เรียกว่า eye strain บางคนเรียกจำเพาะว่ากลุ่มอาการทางสายตาที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ (computer vision syndrome)
อาการที่พบบ่อย
อาการตาแห้ง ตาล้า ตาพร่ามัว น้ำตาไหลบ่อย ๆ หรือปวดศีรษะโดยเฉพาะรอบกระบอกตา บางคนมีการปวดคอ บ่า ไหล่ หรือไม่สามารถมองเห็นแสงจ้า ๆ ได้ตามปกติ
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
บางคนสงสัยว่าทำไมการใช้สายตาจ้องมองจออิเล็กทรอนิกส์ถึงทำให้ตาล้าได้มากกว่าเวลาอ่านจากหนังสือหรือสิ่งพิมพ์ปกติ แม้จะใช้ระยะเวลาเท่ากัน เนื่องจากการมองหน้าจอจากเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์มีระยะห่าง หรือมุมที่อาจไม่เหมาะสม เทียบกับกระดาษ มีความแตกต่างในพื้นหลังกับตัวอักษรไม่เท่ากับกระดาษ และมีการหลับตาบ่อยน้อยกว่าขณะจ้องจออิเล็กทรอนิกส์
เราจะมีวิธีการป้องกันอาการเมื่อยล้าทางสายตาได้อย่างไรบ้าง
– อย่าจ้องมองจออิเล็กทรอนิกส์ต่อเนื่อง ควรจะพักสายตาสัก 10-20 วินาที โดยมองไปที่อื่น หรือหลับตาบ้างอย่างน้อยทุก 15-20 นาที
– จำกัดการมองหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ในเวลาอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็น นอกเหนือจากการที่เรียนหรือประชุมออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนหรือหน้าที่ เช่น งดหรือลดเวลาการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือการเล่นเกม หันมาอ่านนิตยสารหรือสื่ออื่น ๆ ด้วยกระดาษ หรือใช้การฟังแทน
– ลดการใช้หน้าจอขนาดเล็ก เช่น จากโทรศัพท์มือถือ เลี่ยงมาใช้อุปกรณ์ที่หน้าจอใหญ่กว่า เช่น แท็บเลต หรือคอมพิวเตอร์
– ปรับความสว่างของหน้าจอ รักษาระยะห่างจากจอให้เหมาะสม
– ใช้การตัดแสงฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ
– นั่งในห้องที่มีแสงสว่างเพียงพอ
– ปรับเปลี่ยนท่านั่งให้เหมาะสม และลุกเดินบ่อย ๆ
หมายเหตุ : อ.พญ.รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล