สุขภาพดีกับรามาฯ อ.พญ.เนาวรัตน์ ตั้งบำรุงธรรม
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝุ่น PM 2.5 มีระดับพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบทางเดินหายใจ ตา และผิวหนัง เราจะปรับตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้ เพื่อป้องกันอันตรายต่อสุขภาพ
ฝุ่น PM 2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยมีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือขนาดประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผม โดยฝุ่น PM 2.5 นั้นเนื่องจากมีขนาดเล็กมาก ทำให้หลุดรอดการกรองจากจมูกและสามารถผ่านลงไปถึงถุงลมปอดได้เมื่อเราหายใจเข้าไป ก่อให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินหายใจ และสามารถเข้าไปในระบบไหลเวียนเลือด และกระจายไปทั่วร่างกายได้ นอกจากนี้ในฝุ่น PM 2.5 มักพบสารก่อมะเร็งและโลหะหนักที่เป็นอันตรายเกาะอยู่ด้วย
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
อาการและผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5
ระยะสั้น : ทำให้ระคายเคืองตา ตาแดง คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ อาการภูมิแพ้และหอบหืดกำเริบ ทำให้ปอดอักเสบติดเชื้อง่ายขึ้น ผิวหนังอักเสบมีผื่นคันที่ผิวหนัง
ระยะยาว : การทำงานของปอดแย่ลง เสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปอด ผิวหนังเหี่ยวย่นก่อนวัย
วิธีการรับมือกับ PM 2.5
– ติดตามรายงานสภาพอากาศและระดับ PM 2.5 อย่างสม่ำเสมอ
– ในบ้านหรืออาคารควรใช้เครื่องฟอกอากาศที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้
– สวมหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หรือสวมหน้ากาก N95 เมื่อต้องออกจากบ้านหรืออาคาร
– สวมแว่นกันลม กันฝุ่น สวมเสื้อแขนยาวมิดชิด
– ลดเวลาการอยู่นอกบ้าน/อาคารโดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อ PM 2.5 สูง เช่น เด็ก หญิงตั้งครรภ์ คนชรา ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคภูมิแพ้ โรคปอด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไตเรื้อรัง
– หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง
———————
หมายเหตุ : อ.พญ.เนาวรัตน์ ตั้งบำรุงธรรม ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล