สง่างาม…ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศฯ ซ้อมใหญ่พื้นที่จริงวันแรก (ชมภาพ)

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่ถนนมหาราช ถนนท้ายวัง ถนนสนามไชย ตลอดจนถนนราชดำเนินใน บริเวณข้างมณฑลพิธีท้องสนามหลวง คณะกรรมการอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้จัดการซ้อมใหญ่การเดินริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศเสมือนจริง ณ พื้นที่และตามเวลาหมายกำหนดการจริงครั้งแรก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระวงศานุวงศ์ ราชสกุล องค์กร มูลนิธิ โรงเรียน รวมถึงทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ นักเรียนวชิราวุธวิทยาลัย เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง เจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกว่า 3,000 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยตั้งแต่เวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูจุดคัดกรอง 3 จุด ได้แก่ จุดท่าช้าง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และพระแม่ธรณีบีบมวยผมซึ่งมีประชาชนแต่งกายด้วยชุดสีดำสุภาพทยอยเดินทางมาเข้าจุดคัดกรอง เพื่อเข้าชมความงดงามของริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ โดยต่างพากันนั่งอย่างเป็นระเบียบบริเวณริมฟุธบาทฝั่งตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง ยาวไปจนถึงมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ท่ามกลางสภาพอากาศเย็นสบาย

กระทั่งเวลา 08.05 น. เริ่มดำเนินการซ้อมริ้วขบวนที่ 1 ซึ่งเป็นการเชิญพระโกศทองใหญ่ลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ประดิษฐานบนพระยานมาศสามลำคาน ซึ่งเป็นยานที่มีคานหามขนาดใหญ่ทำด้วยไม้จำหลักลวดลายลงรักปิดทอง มีพนักโดยรอบ 3 ด้าน และมีคานหาม3 คาน จึงเรียกว่าพระยานมาศสามลำคาน อัญเชิญพระโกศทองใหญ่ออกจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ผ่านทางประตูสรีสุนทร ซึ่งเป็นประตูชั้นในและประตูเทวาภิรมย์ เพื่อตั้งริ้วขบวนบนถนนมหาราช ริ้วขบวนที่ 1 ประกอบด้วยทหารกองเกียรติยศ เครื่องราชอิสริยยศ ราชนิกูล ข้าราชบริพาร ริ้วขบวนจะเคลื่อนตามสัญญาณกลอง เคลื่อนไปตามถนนมหาราช เลี้ยวเข้าสู่ถนนท้ายวัง มุ่งไปยังถนนสนามไชย

จากนั้น ริ้วขบวนที่1 จะรวมกับริ้วขบวนที่ 2 ซึ่งตั้งรออยู่บริเวณหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร จากนั้นเชิญพระโกศทองใหญ่เทียบเกรินบันไดนาค ขึ้นประดิษฐานบนบุษบกพระมหาพิชัยราชรถ หมายเลข 9780 เป็นราชรถทรงบุษบกทำด้วยไม้แกะสลักทั้งองค์ลงรักปิดทองประดับกระจกมีเกรินลดหลั่นกัน 5 ชั้น ที่จอดอยู่บริเวณโรงเรียนกรมการรักษาดินแดน เพื่อเคลื่อนริ้วขบวนแห่พระโกศทองใหญ่ซึ่งเป็นริ้วขบวนที่ 2 ประกอบด้วยกองทหารนำ ราชรถพระนำ พระมหาพิชัยราชรถทรงพระบรมโกศ และกองขบวนทหารตาม เคลื่อนริ้วขบวนไปบนถนนสนามไชย เข้าสู่ถนนราชดำเนินใน ผ่านหน้ากระทรวงกลาโหม ศาลหลักเมือง และศาลฏีกา เข้าสู่ท้องสนามหลวง ทั้งนี้ รศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็รประคองพระโกศทองใหญ่ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรม

เมื่อเข้าสู่ถนนท้องสนามหลวงฝั่งหน้าศาลฏีกาเหล่าขบวนทหารขบวนพระบรมราชอิสริยยศ เชิญพระโกศทองใหญ่ลงจากพระมหาพิชัยราชรถ โดยเกรินบันไดนาคประดิษฐานพระโกศทองใหญ่บนราชรถปืนใหญ่ที่ได้จัดสร้างขึ้นใหม่ เพื่อตั้งริ้วขบวนที่ 3 ในราชวัติพระเมรุมาศอัญเชิญพระโกศพระบรมศพ โดยราชรถปืนใหญ่เวียนรอบพระเมรุมาศโดย อุตราวัฎ คือการเวียนซ้าย 3 รอบ โดยมีระยาทาง 260 เมตรต่อรอบ จากนั้นจึงเทียบราชรถปืนใหญ่ที่เกรินบันไดนาคพระเมรุมาศ เชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นประดิษฐาน ณ พระจิตตกาธาน ประกอบพระโกศจันทน์ บนพระเมรุมาศเป็นอันเสร็จพิธีอัญเชิญพระบรมศพออกสู่พระเมรุมาศ

 


ที่มา มติชนออนไลน์