จารึกไว้ในโลกหล้า ร.๙ “สถิติจอมราชัน”

70 ปี 4 เดือน กับอีก 4 วัน คือเวลาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติเป็นกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทย ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ตลอดเวลาการครองราชย์ 25,000 กว่าวัน พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากมาย เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรใต้ร่มบรมโพธิสมภาร ดังพระปฐมบรมราชโองการที่ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”

สิ่งที่พระองค์ทรงทำมาตลอด ไม่ใช่เพียงเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวไทยเท่านั้น แต่ยังประจักษ์ต่อสายตาชาวโลก และทรงได้รับการยกย่องในระดับนานาชาติ และนี่คือสถิติส่วนหนึ่งที่ยืนยันว่าในหลวง ร.9 ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่โลกจะจดจำไปอีกแสนนาน

– ทรงเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย

– ทรงครองราชย์ 70 ปี 4 เดือน 4 วัน เป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ครองราชย์นานที่สุดในโลก เป็นเวลา 70 ปี 4 เดือน 4 วัน มากกว่าสถิติเดิมของพระนางเจ้าวิกตอเรียแห่งอังกฤษที่ครองราชย์ระหว่างปี ค.ศ. 1837-1901 (พ.ศ. 2380-2444) รวมเวลา 63 ปีเศษ

– ทรงเป็นกษัตริย์ที่ปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากที่สุดในโลก เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกร ดังที่ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็น “กษัตริย์นักพัฒนา” มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริรวม 4,685 โครงการ เป็นโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ 3,204 โครงการ ด้านการเกษตร 169 โครงการ ด้านสิ่งแวดล้อม 177 โครงการ ด้านส่งเสริมอาชีพ 341 โครงการ ด้านสาธารณสุข 57 โครงการ ด้านคมนาคม/สื่อสาร 86 โครงการ ด้านสวัสดิการสังคม/การศึกษา 393 โครงการ โครงการพัฒนาแบบบูรณาการและอื่น ๆ 258 โครงการ

– ในพิธีฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2549 เป็นงานที่มีประมุขของประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขรวมตัวกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์โลก จำนวน 25 ประเทศจากทั้งหมด 29 ประเทศทั่วโลกที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมี 13 ประเทศที่ประมุขเสด็จพระราชดำเนินมาด้วยพระองค์เอง และอีก 12 ประเทศที่ประมุขทรงให้พระบรมวงศ์หรือผู้แทนพระองค์ปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทน

– เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลโลก (FIFA) กล่าวถวายพระพรในการเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 มีผู้ชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์หลักพันล้านคน

– ทรงเป็นบุคคลแรกของโลกที่ได้รับรางวัล UNDP Human Development Lifetime Achievement Award จาก UN เมื่อปี ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) เป็นรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ มอบโดยโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nation Development Programme) ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เนื่องจาก UNDP เล็งเห็นถึงพระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์

– ทรงเป็นบุคคลแรกของโลกที่ได้รับรางวัลผู้นำโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญาจากองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization) แห่งสหประชาชาติ เมื่อปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) เนื่องจากองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกได้ประจักษ์ถึงพระราชกรณียกิจที่ทรงให้ความสำคัญกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและการประดิษฐ์คิดค้นเพื่อการพัฒนาประเทศ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เช่น กังหันน้ำชัยพัฒนา เทคโนโลยีการผลิตฝนเทียม อีกทั้งทรงจดสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ไว้อีกมากมาย

– เมื่อปี พ.ศ. 2555 องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้จัดตั้งให้วันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นวันดินโลก (World Soil Day) หลังจากที่มีมติเสนอให้วันที่ 5 ธันวาคมเป็นวันเฉลิมฉลองความสำคัญของดิน โดยการนำของราชอาณาจักรไทย ภายใต้กรอบความร่วมมือ “Global Soil Partnership”

– ทรงได้รับ 10 รางวัลจากงาน Brussels Eureka ซึ่งเป็นงานแสดงสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของโลก ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม จัดโดย The Belgian Chamber of Inventors สมาคมส่งเสริมและคุ้มครองนักประดิษฐ์เบลเยียม ซึ่งมีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลก โดยในปี 2543 สิ่งประดิษฐ์เครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย หรือกังหันน้ำชัยพัฒนา ได้รับ 5 รางวัล ต่อมาปี 2544 ทรงได้รับรางวัลอีก 5 รางวัล จากผลงานประดิษฐ์คิดค้นทฤษฎีใหม่ ฝนหลวง และไบโอดีเซล

– ทรงมีพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีอย่างแท้จริง เห็นได้จากผลงานทางดนตรีที่ทรงพระราชนิพนธ์เพลงไว้มากถึง 48 บทเพลง

– ทรงมีพระอัจฉริยภาพด้านกีฬาหลายชนิด และยังทรงส่งเสริมกีฬา โดยเป็นองค์อุปถัมภ์สมาคมกีฬา และทรงรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 5, 6, 8 และกีฬาแหลมทอง (ปัจจุบันคือกีฬาซีเกมส์) ครั้งที่ 4, 8 และ 13 ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ อีกทั้งยังทรงเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันเรือใบในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 เมื่อปี พ.ศ. 2510 ผลการแข่งขันในครั้งนั้นพระองค์และพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญาฯ (พระอิสริยยศในขณะนั้น) ทรงคว้าเหรียญทองร่วมกัน

– ทรงเป็นกษัตริย์ผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย การเสด็จสวรรคตของพระองค์นำความโศกาอาดูรมาสู่ปวงชนชาวไทยทั้งในและต่างประเทศ มีการแสดงความอาลัยทั่วทุกมุมโลก และหลังจากที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวังตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2559 จนถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2560 นับเป็นเวลา 337 วัน มีประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพทั้งหมด 12,739,531 คน