ก.แรงงาน เทิดพระเกียรติในหลวงร.9 “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย”

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2513 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธีเปิดงานแนะแนวอาชีพและแข่งขันฝีมือของสโมสรโรตารี กรุงเทพฯใต้ ณ ลุมพินีสถาน และมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับความเป็นช่างของคนไทยตอนหนึ่งว่า “ช่างทุกประเภท เป็นกลไกสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตของบ้านเมืองและของคนทุกคนเพราะตลอดชีวิตของคนเรา เราต้องอาศัยและใช้บริการสิ่งต่างๆ ที่ได้มาจากฝีมือของช่างอยู่ทุกวี่ทุกวัน ผู้เป็นช่างจึงสมควรได้รับความเอาใจใส่สนับสนุนจากทุกๆ ฝ่ายยิ่งในสมัยปัจจุบัน วิทยาการทุกอย่างเจริญก้าวหน้ายิ่งจำเป็นต้องส่งเสริมมากเป็นพิเศษเพื่อให้ได้ช่างที่มีความสามารถสูง ให้มีสิ่งใช้สอยที่มีคุณคุณภาพดีและเพียงพอกับความต้องการ”

นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงาน กล่าวว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสนพระราชหฤทัยในงานช่างตั้งแต่ยังทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เนื่องจากมีบันทึกว่าหากพระองค์ทรงอยากได้ของเล่นชิ้นใด ต้องทรงเก็บสตางค์ซื้อเองหรือทรงประดิษฐ์ขึ้นมาเอง โดยในครั้งทรงพระเยาว์นั้น พระองค์ได้ทรงประดิษฐ์ของเล่นด้วยพระองค์เอง อาทิ เครื่องร่อน เรือรบจำลอง และรถลากไม้ และแม้ภายหลังจากที่ได้เสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติแล้ว ยังคงสนพระราชหฤทัยในงานช่างอยู่เสมอ ดังงานช่างชิ้นหนึ่งที่แสดงถึงพระปรีชา คือ “ผลงานการออกแบบและต่อเรือ” เนื่องจากการที่พระองค์ ทรงสนพระราชหฤทัยในกีฬาเรือใบเป็นอย่างยิ่ง ประกอบกับทรงพระปรีชาสามารถทางการช่าง ทำให้ทรงมีผลงานการออกแบบและต่อเรือใบที่ดีเลิศ โดยต้องอาศัยความรู้พื้นฐานในงานช่างไม้ การเพาะไม้ ช่างสี การออกแบบ การเขียนแบบ โดยทรงชนะเลิศการแข่งขันกีฬาเรือใบในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 พุทธศักราช 2510 ณ ประเทศไทย ด้วยเรือที่ทรงต่อขึ้นด้วยพระองค์เอง จึงเป็นที่ประจักษ์ว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระปรีชาชาญงานช่างอย่างแท้จริง

นายสุทธิ กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน จึงนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทูลเกล้าฯถวายพระราชสมัญญา “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” โดยกำหนดให้วันที่ 2 มีนาคมของทุกปีเป็น “วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ” กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ภายใต้การนำพลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีบัญชาให้น้อมนำพระราชดำรัสและพระราชสมัญญามาเป็นหลักการดำเนินงานให้ทุกหน่วยงานได้เห็นถึงความสำคัญและร่วมกันพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีมาตรฐาน เพื่อพัฒนาคน พัฒนาชาติต่อไป

ด้านนางสาวณัชชา แซ่โง้ว หรือน้องถิงถิง เจ้าของเหรียญเงิน สาขาประกอบอาหาร จากการแข่งขันแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ครั้งที่ 44 (World Skills Abu Dhabi 2017) ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ได้รับการบ่มเพาะจากการยึดถือ “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” เป็นแบบอย่าง เปิดเผยว่าชีวิตของตนเองได้ยึดถือในหลวง รัชกาลที่ 9 เป็นแบบอย่างมาโดยตลอด แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเพียงใดก็คิดถึงพระองค์ท่าน โดยเฉพาะการเก็บตัวฝึกซ้อมก็มีท้อบ้าง แต่คิดว่าท่านทรงงานหนักเพื่อพวกเราชาวไทยทุกคน จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจที่ดีไม่ให้เกิดความท้อถอยและมุมานะในการเก็บตัวฝึกซ้อมต่อไป และในช่วงของการแข่งขันมีการทำอาหารยุโรปก็แอบหวั่นใจ ซึ่งประเทศอื่นๆ จะได้เปรียบเรา เพราะมีความคุ้นเคยในรสชาติและวัตถุดิบที่ใช้อยู่แล้ว กลัวจะทำผลงานได้ไม่ดี แต่ด้วยความตั้งใจเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ที่ต้องการคว้าเหรียญรางวัลเทิดพระเกียรติเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” จึงพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด ซึ่งผลที่ออกมาเกินกว่าที่คาดหวังไว้ คว้าเหรียญเงินอย่างที่ตั้งใจอีกด้วย