ส่งเสด็จฯ สู่พระวิมาน

เช้าตรู่วันที่ 26 ตุลาคม 2560 เริ่มงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พิธีอัญเชิญพระบรมโกศโดยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศจากพระบรมมหาราชวังไปยังพระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง

พสกนิกรทุกหมู่เหล่าทั่วประเทศต่างเดินทางมาร่วมพระราชพิธีและร่วมส่งเสด็จฯ พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งครั้งสุดท้าย ให้ใกล้ที่สุด ถึงแม้บางคนจะไม่ได้เห็นริ้วขบวนก็ตาม

ภาพที่ได้เห็นกันช่วง 2-3 วันก่อนงานพระราชพิธี คือเหล่าพสกนิกรเดินทางมาจับจองพื้นที่เพื่อให้เข้าใกล้พื้นที่จัดงานให้มากที่สุด แม้แดดจะร้อนเพียงใดหรือต้องเปียกฝน ก็ไม่มีใครท้อถอย ทุกคนต่างเฝ้ารอเวลาที่จะได้ร่วมส่งเสด็จฯ เป็นครั้งสุดท้าย

เวลา 07.00 น. ท้องฟ้าปลอดโปร่ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ เฝ้าฯ รอรับเสด็จ

เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ถึง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระบรมศพ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ทรงทอดผ้าไตร ก่อนอัญเชิญพระบรมโกศ พระราชาคณะ 30 รูป สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลื้องพระโกศทองใหญ่เชิญพระลองลงจากพระแท่นสุวรรณเบญจดลไปประดิษฐานที่พระยานมาศสามลำคาน ที่ประตูกำแพงแก้ว พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จตามไปส่งที่ชาลาพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทมุขเหนือ อัญเชิญพระบรมโกศด้วยพระยานมาศสามลำคานออกจากพระบรมมหาราชวัง

ถวายนพปฎลมหาเศวตฉัตรคันดาลกางกั้น แล้วยาตราขบวนพระบรมราชอิสริยยศไปยังพระมหาพิชัยราชรถ หน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศด้วย

เมื่อขบวนพระบรมราชอิสริยยศถึงยังพระมหาพิชัยราชรถหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จไปยังพลับพลายกหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ทรงทอดผ้าไตร 20 ไตร ที่ท้ายเกรินบันไดนาคพระมหาพิชัยราชรถ

พระสงฆ์สดับปกรณ์เที่ยวละ 5 รูป อัญเชิญพระบรมโกศขึ้นประดิษฐานในบุษบกพระมหาพิชัยราชรถ ยาตราขบวนแห่อัญเชิญพระบรมโกศไปยังพระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชดำเนินและทรงพระดำเนินตาม

เมื่อริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศแห่อัญเชิญพระบรมโกศเข้าสู่ท้องสนามหลวง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับรอที่พลับพลายก นอกราชวัติพระเมรุมาศ เมื่อเทียบพระมหาพิชัยราชรถ

อัญเชิญพระบรมโกศลงจากพระมหาพิชัยราชรถโดยเกรินบันไดนาค ประดิษฐานพระบรมโกศบนราชรถปืนใหญ่ เพื่อตั้งขบวนพระบรมราชอิสริยยศสำหรับเวียนพระเมรุมาศ เสร็จแล้ว

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จตามพระบรมโกศเวียนพระเมรุมาศโดยอุตราวัฏ (เวียนซ้าย) ครบ 3 รอบแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จไปประทับ ณ พระที่นั่งทรงธรรม

จากนั้นอัญเชิญพระบรมโกศขึ้นประดิษฐาน ณ พระจิตกาธาน ปิดพระฉากและพระวิสูตร ประกอบพระโกศจันทน์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว

เปิดพระฉากพระวิสูตร สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพระเมรุมาศ เสด็จลงจากพระเมรุมาศ เสด็จขึ้นผ่านพระที่นั่งทรงธรรมไปประทับรถยนต์พระที่นั่งหลังพระที่นั่งทรงธรรม เสด็จพระราชดำเนินกลับ

เวลา 16.30 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มายังพระที่นั่งทรงธรรม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสำหรับพระบรมศพทรงธรรมที่พระเมรุมาศ สมเด็จพระสังฆราชถวายพระธรรมเทศนาจบ

พระราชาคณะ 50 รูป สวดศราทธพรตถวายไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ และทรงทอดผ้าไตร ถวายพระเทศน์ และพระสงฆ์ที่สวดศราทธพรต สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ออกจากพระที่นั่งทรงธรรม เสด็จไปประทับที่มุขหน้าพระที่นั่งทรงธรรม ผู้แทนจิตอาสาเชิญดอกไม้จันทน์ 9 พาน ผ่านพระที่นั่งทรงธรรม ถวายความเคารพแล้วเดินออกจากมณฑลพิธี

เวลา 17.30 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพระเมรุมาศถวายพระเพลิงพระบรมศพ ชาวพนักงานประโคมกระทั่งมโหระทึก สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ และปี่พาทย์ ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ ถวายความเคารพ เป่าแตรนอน และยิงปืนเล็กยาว 9 นัด พร้อมกับทหารปืนใหญ่ยิงปืนใหญ่ถวายพระเกียรติ 21 นัด เสด็จไปประทับมุข

หน้าพระที่นั่งทรงธรรม จากนั้นพระราชทานพระราชานุญาตให้สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระราชาคณะ พระบรมวงศานุวงศ์ พระประมุข ประมุข พระราชวงศ์ ผู้แทนรัฐบาลต่างประเทศ ฯลฯ ขึ้นถวายพระเพลิงพระบรมศพตามลำดับ

หลังจากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปฏิสันถารกับพระประมุข ประมุข พระราชวงศ์ และผู้แทนรัฐบาลต่างประเทศ แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ

เวลา 20.30 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มายังพระที่นั่งทรงธรรม พระสงฆ์สวดมาติกา ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ 30 รูปสดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ออกจากพระที่นั่งทรงธรรม เสด็จขึ้นพระเมรุมาศ ปิดพระฉาก ปิดพระวิสูตร เพื่อเตรียมการถวายพระเพลิงพระบรมศพ

เวลา 22.00 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จไปประทับมุขหน้าพระที่นั่งทรงธรรม เจ้าพนักงานปฏิบัติการถวายพระเพลิงพระบรมศพเสร็จแล้ว ทรงทอดผ้าไตรที่พระจิตกาธาน พระสงฆ์ 10 รูปสดับปกรณ์ เสร็จแล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ

เป็นการร่วมส่งเสด็จพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักเคารพและเทิดทูน สู่พระวิมานชั้นฟ้า อย่างสมพระเกียรติยิ่ง