สมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดนิทรรศการงานพระราชพิธีฯ รับสั่งให้ดูแลความเรียบร้อยปชช.

เมื่อเวลา 06.53 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดนิทรรศการ “งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” พร้อมด้วยคุณสิริกิติยา เจนเซน พระธิดาในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ณ บริเวณท้องสนามหลวง เขตพระนคร โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พลเอกธนศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการฯ เฝ้าฯ รับเสด็จ จากนั้น รศ.นราพร จันทร์โอชา ภริยานายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯ ถวายพวงมาลัย ต่อจากนั้นเสด็จเข้าบริเวณมณฑลพิธี ประทับพระราชอาสน์ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร การนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะครูโรงเรียนจิตรลดา และคณะทูตานุทูต 48 ประเทศ เข้าชมนิทรรศการด้วย

ต่อจากนั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงาน จากนั้นเสด็จฯ ไปทรงตัดแถบแพรเปิดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จขึ้นพระที่นั่งทรงธรรม ทอดพระเนตรนิทรรศการพระผู้ทรงเป็นนิรันดร์ ซึ่งแสดงพระราชประวัติต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จากนั้นเสด็จไปทอดพระเนตรนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จฯไปยังทับเกษตร ทอดพระเนตรนิทรรศการ การสัมผัสของผู้พิการทางสายตา แล้วเสด็จฯไปยังศาลาลูกขุนที่ 1 ทอดพระเนตรนิทรรศการการจัดสร้างพระโกศจันทน์ และพระหีบจันทน์ รวมถึงพระจิตกาธาน ซึ่งมีการสาธิตการแทงหยวกให้กับผู้เข้าชม

ต่อจากนั้นเสด็จฯ ทอดพระเนตรบนพระเมรุมาศชั้นที่ 1 และเสด็จฯ ไปยังศาลาลูกขุน 2 ก่อนเสด็จฯ ไปยังแปลงหมายเลข ๙ ซึ่งอยู่บริเวณภายนอกรั้วราชวัติ โดยมีประชาชนที่มารอเข้าชมนิทรรศการที่เต็นท์จำนวนกว่า 5,500 คน เปล่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้อง และเสด็จพระราชดำเนินกลับ

นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ภายหลังจากที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการโดยละเอียด ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ทรงพอพระราชหฤทัย โดยทรงกำชับให้ดูแลเรื่องความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความปลอดภัยในการดูนิทรรศการของประชาชนอย่างสุภาพ สำรวม เพื่อให้นิทรรศการยังคงสมบูรณ์จนวันที่ 30 พฤศจิกายน ทั้งนี้ คณะผู้จัดนิทรรศการฯ ได้ปรับการเข้าชมโดยจำกัดพื้นที่ไว้เพียงด้านล่างพระเมรุมาศเพื่อให้สมพระเกียรติ จากเดิมที่จะให้ขึ้นชมที่ชั้น 1 และ 2 และอาจจะมีการปรับเปลี่ยนประติมากรรมที่ให้ชมในศาลาลูกขุน เพราะยังมีประติมากรรมที่ยังไม่ได้จัดแสดงอีกมาก เนื่องจากพื้นที่มีจำกัด เมื่อถามถึงการถ่ายรูปเชลฟี่ว่าสามารถทำได้หรือไม่ อธิบดีกรมศิลปากรกล่าวว่า ถ่ายรูปได้ตามความเหมาะสม ทุกคนเข้ามาต้องรู้ว่าอะไรเหมาะสมไม่เหมาะสม แต่ขอให้ถ่ายรูปอย่างสุภาพสำรวม

ทั้งนี้ นิทรรศการจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-30 พฤศจิกายน เปิดให้เข้าชมเวลา 07.00-22.00 น. ของทุกวัน รอบละ 5,500 คน และใช้เวลา 45 นาที-1ชั่วโมง ผู้ที่จะมาชมนิทรรศการต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อย และต้องผ่านจุดคัดกรอง บริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ ท่าช้าง หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และหลังกระทรวงกลาโหม

อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการจะได้รับแจก แผ่นพับนำชมนิทรรศการ ที่จัดพิมพ์ทั้งหมด 3 ล้านฉบับ ประกอบด้วยภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน และโปสเตอร์ที่ระลึกภาพพระเมรุมาศ 9 แบบ จำนวน 3 ล้านแผ่น

 

ที่มา  มติชนออนไลน์