“พล.อ.ธนะศักดิ์” เผย 5 วัน มีปชช.ชมนิทรรศการงานพระชราชพิธีฯกว่า 2 แสนคน

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 6 พฤศจิกายน ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นประธานประชุมคณะกรรมการจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีฯ ในการประเมินสถานการณ์การเปิดให้เข้าชมนิทรรศการงานพระราชพิธีฯ โดยมี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม จากนั้น พล.อ. ธนศักดิ์นำคณะกรรมการฯตรวจเยี่ยมการจัดนิทรรศการ

พล.อ.ธนศักดิ์ กล่าวภายหลังประชุมว่า ภาพรวมสรุปผลการจัดนิทรรศการ 5 วันที่ผ่านมา ทุกคนพอใจในระบบที่วางไว้ และยังไม่พบปัญหาอะไรตามที่สังคมมีดราม่าออกมา อาทิ

ไม่มีกระถางแตก รูปหล่อเทวดาก็ยังครบสมบูรณ์ดี ทั้งนี้ ที่ประชุมยังเน้นย้ำมาตรการการอำนวยความสะดวกและการดูแลความเป็นปลอดภัยประชาชนเป็นอันดับที่ 1 พร้อมรับฟังรายงานสถิติประชาชนเข้าชมนิทรรศการตั้งแต่วันที่ 2-6 พฤศจิกายน มีไม่ต่ำกว่า 2 แสนคน ก็ถือเป็นสถิติที่น่าพอใจ และหากในสัปดาห์หน้าหรือเปิดนิทรรศการครบ 10 วัน หากยอดประชาชนยังทะลุ 2 แสนคนใน 5 วันอย่างนี้และไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนคน ตนจะทำหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูล สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอพระบรมราชานุญาต ให้ขยายวันเปิดให้ประชาชนเข้าชมนิทรรศการอีก จากกำหนดเดิมถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน โดยประมาณสัปดาห์หน้าจะรู้ว่าจะต้องทำหนังสือหรือไม่อย่างไร

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า หลังจากการปรับเส้นทางเดินชมนิทรรศการที่ผ่านมา สามารถทำยอดประชาชนเข้าชมนิทรรศการเฉลี่ย 6,000 คนต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าไม่ค่อยหนาแน่น เพราะทยอยปล่อยและออกอยู่ตลอด ฉะนั้นประชาชนที่มานั่งรอที่เต็นท์รอคอย นั่งไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ขยับมาด้านหน้าแล้ว ส่วนข้อเรียกร้องประชาชนอยากได้เวลาเข้าชมมากกว่า 1 ชั่วโมง จริงๆเราก็ไม่ได้เข้มงวดมาก หากภายในพื้นที่ไม่แน่น เราก็จะถ้อยทีถ้อยอาศัยอยากให้ได้เข้าชมนานๆ ไม่ใช่ครบ 60 นาที แล้วจะให้ออกเลย

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.)ร่วมกับ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สอบถามความประทับใจของประชาชนที่ชมนิทรรศการ วันที่ 4-5 พฤศจิกายน จำนวน 2,164 คน เป็นหญิง ร้อยละ 72.74 และชาย ร้อยละ 27.26 พบว่า อันดับที่ 1 ร้อยละ 93.02 ประทับใจพระเมรุมาศ และอาคารประกอบ รองลงมาอันดับที่ 2 ร้อยละ 85.54 ประทับใจนิทรรศการศาลาลูกขุน ซึ่งประชาชนที่เข้าชมศาลาลูกขุนทั้ง 6 หลัง พบว่ามีความประทับใจและได้รับความรู้มากที่สุด ได้แก่ นิทรรศการสมมติเทวพิมาน: สถาปัตยกรรมพระเมรุมาศ รองลงมา ประติมาสร้างสรรค์:ประติมากรรมประดับพระเมรุมาศ และตระการวิจิตรศิลปกรรม : งานประณีตศิลป์ในพระราชพิธี เป็นต้น อันดับที่ 3 ร้อยละ 84.38 นิทรรศการพระที่นั่งทรงธรรม “พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์”

อันดับที่ 4 ร้อยละ 76.48 ภูมิทัศน์ด้านหน้าพระเมรุมาศอันเนื่องมาจากโครงการพระราชดำริในหลวง รัชกาลที่ 9 อาทิ พันธุ์ข้าวพระราชทาน หญ้าแฝก ต้นยางนา มะม่วงมหาชนก กังหันชัยพัฒนา ฝายน้ำล้น และคันนาข้าวเลขเก้าไทย อันดับที่ 5 ร้อยละ 65.25 บริเวณทับเกษตร นำสัมผัสพระสุเมรุ สำหรับผู้พิการ นอกจากนี้พบว่ามีความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชนในการเข้าชมนิทรรศการในเรื่องต่างๆ ดังนี้ ประชาชนเห็นว่าจัดนิทรรศการจัดได้ดียิ่งใหญ่สมพระเกียรติประทับใจมากและเป็นบุญที่ได้เข้าชม ควรขยายระยะเวลาในการเปิดให้เข้าชมนิทรรศการ หรือขยายเวลาถึงสิ้นปี2560 ต้องการให้เปิดชมด้านบนพระเมรุมาศ ควรมีล่ามภาษาต่างประเทศ และควรเพิ่มเจ้าหน้าที่บรรยายในแต่ละจุดให้ครอบคลุมมากขึ้น

ขณะเดียวกันยังได้สอบถามประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการว่าศาสตร์พระราชาของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ประชาชนคิดจะนำไปสืบสานหรือประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไร ร้อยละ 90 ระบุว่าจะน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รู้จักพอเพียง พอมีพอกิน ประหยัดอดออม ไปใช้ในชีวิตประจำวัน และร้อยละ 10 จะน้อมนำศาสตร์พระราชาด้านการทำความดี เป็นคนดีของสังคม การรู้จักหน้าที่ ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ความรัก ความสามัคคี ความซื่อสัตย์ ความเพียร ขยัน อดทน การให้อภัยและการนำเกษตรทฤษฎีใหม่มาใช้ในชีวิตประจำวัน

“ทั้งหมดนี้ก็เป็นแนวทางที่เราจะสามารถทำให้ประชาชนสะดวกสบายในการเข้าชมนิทรรศการ ซึ่งยังสามารถปรับแนวทางได้อีก อย่างไรก็ดี ขอบใจประชาชนทุกท่านที่ช่วยกันถนอมสิ่งของ เพราะในอนาคตของเหล่านี้จะไปอยู่พิพิธภัณฑ์เป็นประวัติศาสตร์ของไทยและโลกต่อไป” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว

 

ที่มา  มติชนออนไลน์