
หมายกำหนดการ พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่หมายกำหนดการ พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดย รัฐบาลได้ใช้ชื่อพระราชพิธีภาษาไทยว่า “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567”
ส่วนภาษาอังกฤษ ใช้ชื่อ “The Celebration on the Auspicious of His Majesty the King’s 6th Cycle Birthday Anniversary 28th July 2024” โดยให้เป็นไปตามโบราณราชประเพณีให้สมพระเกียรติ และเหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้ ประกอบด้วย
พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
ทักษิณานุปทาน
วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2567 เจ้าพนักงานเตรียมการพระราชกุศลทักษิณานุปทาน ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง เชิญพระโกศพระบรมอัฐิและพระอัฐิสมเด็จ พระบรมราชบุพการี คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า สมเด็จพระศรีสุลาลัย (พระบรมราชชนนีในรัชกาลที่ 3) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ขึ้นประดิษฐาน ณ พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และเชิญพระพุทธรูปประจำพระชนมวารคู่ พระบรมอัฐิและพระอัฐิประดิษฐานในพระที่นั่งบุษบกมาลา ประกอบด้วยเครื่องบรมอิสริยราชูปโภค พร้อมสรรพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน โดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง เวลา 17 นาฬิกา เสด็จพระราชดำเนินเข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทางพระทวารเทเวศรรักษา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารคู่ พระบรมอัฐิและพระอัฐิแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะถวายบังคมพระบรมอัฐิและพระอัฐิ พระสงฆ์ 27 รูป สวดพระพุทธมนต์ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม
สมเด็จพระราชาคณะถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ แล้วทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ที่สวดพระพุทธมนต์ 27 รูป พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการและประชาชน เข้ากราบถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ที่ปราสาทพระเทพบิดร ตั้งแต่เวลา 8 นาฬิกา ถึงเวลา 12 นาฬิกา
เสด็จออกมหาสมาคม รับการถวายพระพรชัยมงคล ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง
วันอาทิตย์ที่ 28 กรกภาคม 2567 เจ้าพนักงานเตรียมการตกแต่งพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ณ ท้องพระโรง เจ้าพนักงานเชิญพระมหาพิชัยมงกุฎประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ มหาดเล็กเชิญเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องชัตติยราชูปโภคยืนข้างพระราชบัลลังก์ แวดล้อมด้วยต้นไม้ ทอง เงิน
พร้อมติดตั้งพระวิสูตร เป็นที่สำหรับเสด็จออกมหาสมาคมเพื่อรับการถวายพระพรชัยมงคล ที่หน้าพระวิสูตรพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยด้านพระบรมวงศานุวงศ์เข้าเฝ้าฯ ตั้งแท่นพร้อมเสาบัววางพาน ดอกไม้ธูปเทียนแพสำหรับสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ถวายด้านหน้าพระวิสูตร ตั้งพระแท่นบัวสำหรับวางพระเต้าปทุมนิมิตทอง นาก เงิน บรรจุน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์
ถัดลงไปตั้งเสาบัวสำหรับวางพานดอกไม้ธูปเทียนแพสำหรับนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ถวายตามลำดับ ถัดมาด้านหลังเป็นแถวคณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต สมาชิกรัฐภา ข้าราชการตุลาการ ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน ผู้แทนศาสนาอื่น ๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ตามตำแหน่ง พระตำรวจหลวง 10 คู่ยืนเฝ้าฯ และหัวหน้าพระตำรวจหลวงถือพุ่มดอกไม้ทอง ส่วนที่ สนามหญ้าหน้าศาลาสหทัยสมาคม ราษฎรทุกหมู่เหล่าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล เวลา 6 นาฬิกา 35 นาที เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยเชิญพระเต้าปทุมนิมิตทอง นาก เงิน
บรรจุน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักรจัดทำแล้วส่งให้กระทรวงมหาดไทย ประมวลนำไปประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ที่พระอุโบสถวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 แล้วนั้นออกจากพระอุโบสถ ตั้งขบวนอิสริยยศ มีผู้แทนกรุงเทพมหานคร และ 76 จังหวัด เชิญพุ่มทองพุ่มเงินถวายราชสักการะไว้พร้อมที่หน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
ด้านถนนสนามไชย เวลา 7 นาฬิกา 30 นาที ขบวนแห่เชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ออกจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ไปตามถนนสนามไชย เลี้ยวช้ายถนนหน้าพระลาน เข้าพระบรมมหาราชวังทางประตู วิเศษไชยศรี ประตูพิมานไชยศรี ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง เจ้าพนักงาน พระราชพิธีเชิญพระเต้าปทุมนิมิตทอง นาก เงิน บรรจุน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นประดิษฐานที่ พระแท่นบัว พานธูปเทียนแพเชิญไปตั้งที่เสาบัวหน้าที่ยืนเฝ้าฯ ของนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และประธานศาลฎีกา ส่วนพุ่มทองพุ่มเงินของแต่ละจังหวัดนำไปตั้งเป็นการถวายราชสักการะ ณ อัฒจันทร์ซึ่งจัดไว้แนวกำแพงพระบรมมหาราชวังด้านทิศเหนือ
เวลา 9 นาฬิกา 30 นาที พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการตุลาการ ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน ผู้แทนศาสนาอื่น ๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพร้อมในท้องพระโรงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
เวลา 9 นาฬิกา 50 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง เข้าทางประตูศักดิ์ไชยสิทธิ์ ประตูราชสำราญ รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่ประตูกำแพงแก้วพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ด้านตะวันออก
เวลา 10 นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยทางพระทวารเทวราชมเหศวร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับ พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ บนพระราชบัลลังก์ภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เจ้าพนักงาน รัวกรับและเปิดพระวิสูตร พระตำรวจหลวงชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณ เจ้าพนักงานประโคมกระทั่งแตร มโหระทึก กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
ขณะนั้นทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ 21 นัด พระสงฆ์ทั่วราชอาณาจักรเจริญชัยมงคลคาถา ย่ำฆ้องกลองระฆัง พร้อมกับการประกอบพิธีกรรมของศาสนาอื่น ๆ ครั้นสุดเสียงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีแล้ว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณา ถวายพระพรชัยมงคลแทนพระบรมวงศานุวงศ์ นายกรัฐมนตรี ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า ประธานรัฐสภา ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนสมาชิกรัฐสภา
ประธานศาลฎีกา ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนข้าราชการตุลาการ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ จบแล้ว เจ้าพนักงานรัวกรับและปิดพระวิสูตร ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายความเคารพ พระตำรวจหลวงชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณ เจ้าพนักงาน ประโคมกระทั่งแตร มโหระทึก กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จขึ้น พระที่นั่งไพศาลทักษิณทางพระทวารเทวราชมเหศวรไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต การแต่งกาย แต่งเครื่องแบบเต็มยศ สายสะพายมหาจักรี สายสร้อยจุลจอมเกล้า ผู้เข้าเฝ้า ฯ แต่งเครื่องแบบเต็มยศ สายสะพายสูงสุด สายสร้อยจุลจอมเกล้า
เวลาบ่าย เจ้าพนักงานเตรียมการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตั้งตู้เทียนเท่าพระองค์ เทียนพระมหามงคล อาสนะสงฆ์สำหรับพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ บัตรเทวดานพเคราะห์ และเครื่องนมัสการ
ส่วนที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เจ้าพนักงานเตรียมการตั้งแต่งเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ ประจำรัชกาลที่ 9 พระพุทธรูปประจำพระชนมวาร รัชกาลที่ 9 พระกรัณฑ์ดวงพระบรมราชสมภพ รัชกาลปัจจุบันประดิษฐาน ณ พระแท่นพระราชบัลลังก์พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร พร้อมด้วย เครื่องมงคลพระราชพิธี และตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์อภิบาลและองค์แทรกพระชนมพรรษา พร้อมด้วยตู้เทียนเท่าพระองค์ เทียนพระมหามงคล ดอกไม้ธูปเทียนและเครื่องนมัสการไว้พร้อม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน โดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวังเข้าทางประตู วิเศษไชยศรี เทียบรถยนต์พระที่นั่งที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เวลา 17 นาฬิกา เสด็จพระราชดำเนินไปยังชานหน้าพระอุโบสถ ทรงประเคนสัญญาบัตร พัดยศสมณศักดิ์และทรงประเคนพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ แด่บรรพชิตจีนและญวน จากนั้นบรรพชิตจีนและญวนถวายพระพร
แล้วเสด็จเข้า พระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 แด่พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์
แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนพระมหามงคล เทียนเท่าพระองค์ แล้วทรงจุดธูปเทียน บูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ประทับพระราชอาสน์ พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ทูลเกล้าฯ ถวายใบสมิต น้ำเทพมนตร์ และเทวรูปพระศิวลึงค์ทองคำ แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนที่โต๊ะ หน้าอาสนะสงฆ์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ ทรงจุดเทียนที่บัตรเทวดานพเคราะห์ โหรหลวงบูชาเทวดานพเคราะห์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จลงชานหน้า พระอุโบสถ ข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้สูงอายุฝ้ายหน้า – ฝ่ายใน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานราชสังคหวัตถุ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปประทับ รถยนต์พระที่นั่งที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ไปเทียบที่หน้าพระทวารเทเวศรักษา เสด็จเข้า พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้อาลักษณ์ กองอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอ่านประกาศพระบรมราชโองการสถาปนาพระอิสริยยศฐานันดรศักดิ์ พระอนุวงศ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานน้ำพระมหาสังข์ ใบมะตูม ทรงเจิมแล้ว พระราชทานพระสุพรรณบัฏ เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าชั้นปฐมจุลจอมเกล้า และเหรียญรัตนาภรณ์ ชั้นที่ 2 พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เจ้าพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร และดุริยางค์ จบแล้ว
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์ กองอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรีอ่านประกาศพระบรมราชโองการสถาปนาสมณศักดิ์พระสงฆ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนหิรัญบัฏ สัญญาบัตร พัดยศ แด่พระสงฆ์ซึ่งได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ใหม่ตามลำดับ
พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เจ้าพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร และดุริยางค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานสัญญาบัตรแก่พระครูพราหมณ์ประจำพระราชสำนัก พระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ถวายอนุโมทนา สมเด็จพระราชาคณะถวายอดิเรก เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา นิมนต์ พระสงฆ์ 73 รูป ที่จะเจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ
28 กรกฎาคม 2567 เข้ารับพระราชทานพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ แล้วขึ้นนั่งอาสนะสงฆ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนพระมหามงคล เทียนเท่าพระองค์และธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปองค์อภิบาลและองค์แทรกพระชนมพรรษา แล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ ทรงศีล ระหว่างพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณทางพระทวารเทวราชมเหศวร ทรงจุดเทียนพระมหามงคลบูชา พระสยามเทวาธิราช แล้วเสด็จลงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
จบแล้ว ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่พระทวารเทเวศรรักษา เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
การแต่งกาย แต่งเครื่องแบบเต็มยศ สายสะพายจุลจอมเกล้า ผู้เข้าเฝ้า ฯ แต่งเครื่องแบบเต็มยศ สายสะพายสูงสุด
ในวันนี้ตั้งแต่เวลา 8 นาฬิกา ถึงเวลา 12 นาฬิกา สำนักพระราชวังได้จัดที่สำหรับลงพระนาม และลงนามถวายพระพรไว้ที่ในพระบรมมหาราชวัง
อนึ่ง เนื่องในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการและประชาชน เข้ากราบถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ที่ปราสาทพระเทพบิดร ตั้งแต่เวลา 8 นาฬิกา ถึงเวลา 12 นาฬิกา
การพระราชกุศลเลี้ยงพระ เทศน์มงคลวิเศษ
วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง เข้าทางประตูศักดิ์ไชยสิทธิ์ ประตูราชสำราญ รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่ประตูกำแพงแก้ว พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ด้านตะวันออก
เวลา 10 นาฬิกา เสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระสยามเทวาธิราช แล้วเสด็จลงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยทางพระทวารเทวราชมเหศวร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปองค์อภิบาลและองค์แทรกพระชนมพรรษา แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ
พระสงฆ์ถวายพรพระ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนปิ่นโตภัตตาหารแด่ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก นอกนั้นทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้พระราชวงศ์ องคมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ประเคนตามลำดับแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม สมเด็จพระราชาคณะ ถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนามงคลวิเศษภัณฑ์ 1 จบแล้ว พระสงฆ์ถวายพระพร คาถาพิเศษ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ แล้วทรงประเคนผ้าไตรและย่ามที่ระลึก แด่สมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะ 78 รูป ที่เจริญพระพุทธมนต์ การพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และพระสงฆ์ที่ เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่นั่งที่พระทวารเทเวศรรักษา เสด็จพระราชดำเนินกลับ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
เจ้าพนักงานตั้งบายศรีแก้ว ทอง เงิน พราหมณ์เบิกแว่น โหรหลวงและข้าราชการ รับแว่นเวียนเทียนสมโภชดวงพระบรมราชสมภพ การแต่งกาย แต่งเครื่องแบบเต็มยศ สายสะพายจุลจอมเกล้า ผู้เข้าเฝ้า ฯ แต่งเครื่องแบบเต็มยศ สายสะพายจุลจอมเกล้า หรือมงกุฎไทย ในวันนี้ตั้งแต่เวลา 8 นาฬิกา ถึงเวลา 12 นาฬิกา สำนักพระราชวังได้จัดที่สำหรับลงพระนาม และลงนามถวายพระพรไว้ที่ในพระบรมมหาราชวัง
อนึ่ง เนื่องในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการและ ประชาชน เข้ากราบถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ที่ปราสาทพระเทพบิดร ตั้งแต่เวลา 8 นาฬิกา ถึงเวลา 12 นาฬิกา
คณะทูตานุทูตและผู้แทนฝ่ายกงสุล เฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล
วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เข้าทางประตูศักดิ์ไชยสิทธิ์ ประตูราชสำราญ รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่อัฒจันทร์เสือ
เวลา 17 นาฬิกา เสด็จออกท้องพระโรงกลาง พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท กองทหาร เกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี คณะทูตานุทูตต่างประเทศและผู้แทนฝ่ายกงสุลถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ ได้เวลาสมควรเสด็จพระราชดำเนินผ่านและมีพระราชปฏิสันถารกับ คณะทูตานุทูตต่างประเทศและผู้แทนฝ่ายกงสุล แล้วเสด็จลงมุขหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ประทับรถยนต์พระที่นั่ง ออกทางประตูวิเศษไชยศรี เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี การแต่งกาย แต่งเครื่องแบบเต็มยศ สายสะพายมหาจักรี ผู้เข้าเฝ้า ฯ แต่งเครื่องแบบเต็มยศ สายสะพายสูงสุด
พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อให้ พสกนิกรได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล ในการนี้ กองทัพเรือ สำนักพระราชวัง และ กรมศิลปากร ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ร่วมกันดำเนินการซ่อมเรือพระที่นั่งและเรือในริ้วขบวน พร้อมทั้งได้ฝึกซ้อมฝีพายไว้เรียบร้อยแล้ว
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ตามริ้วขบวน มีเรือจำนวน 52 ลำ จัดเป็น 5 ริ้ว 3 สาย โดยประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ และจัดเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์เป็นเรือพระที่นั่งรอง เรือพระที่นั่งอนันตนาคราชเป็นเรือเชิญผ้าพระกฐิน พร้อมด้วยเรือรูปสัตว์แสนยากร ตามราชประเพณี
วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2567 สำนักพระราชวังและเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ จัดตกแต่ง สะพานฉนวนประจำท่าวาสุกรี ท่าวัดอรุณราชวราราม และบริเวณท้องน้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นเส้นทาง และเตรียมกำลังพลไว้พร้อมทุกตำแหน่งหน้าที่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เทียบสะพานฉนวนท่าวาสุกรี เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เป็นเรือพระที่นั่งรอง
เวลา 15 นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังท่าวาสุกรี ณ ที่นั้น องคมนตรี นายกรัฐมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เฝ้าฯ รับเสด็จ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะ ผู้บัญชาการขบวนเสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทกราบบังคมทูลพระกรุณารายงานจำนวนเรือและกำลังพล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ขณะนั้นกองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้ควบคุมเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์กราบบังคมทูลพระกรุณารายงานบัญชีกำลังพลประจำเรือ นายเรือ พระที่นั่งสุพรรณหงส์กราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเคลื่อนขบวนพยุหยาตรา
เมื่อพร้อมแล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เคลื่อนขบวนพยุหยาตราทางชลมารคออกจากท่าวาสุกรี ไปตามชลวิถีท้องน้ำเจ้าพระยา เจ้าพนักงานประโคมกระทั่งมโหระทึก สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปีและ กลองชนะประจำเรือพระราชพิธีประโคมขึ้นพร้อมกัน ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเคลื่อนไปตามลำดับ
กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ชธงชัยเฉลิมพล เมื่อเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชถึงวัดอรุณราชวราราม เทียบเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชที่สะพาน ฉนวนน้ำหน้าพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญผ้าพระกฐินจากบุษบกไปยังพระอุโบสถแล้ว เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เข้าเทียบท่าฉนวนน้ำหน้าวัดอรุณราชวราราม ตรงพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จขึ้นจากเรือพระที่นั่ง
กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระอุโบสถ เสด็จเข้า พระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผ้าไตรจากเจ้าพนักงานพระราชพิธี เสด็จฯ ไปถวาย ผ้าพระกฐิน ณ ที่ชุมนุมสงฆ์ตามพิธีกรรมราชประเพณีเสร็จแล้ว เสด็จออกจากพระอุโบสถไปถวาย ราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย แล้วประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
การแต่งกาย แต่งเครื่องแบบเต็มยศ สายสะพายนพรัตน์ ผู้เข้าเฝ้า ฯ แต่งเครื่องแบบเต็มยศ สายสะพายสูงสุด
พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งจากสนามเฮลิคอปเตอร์พระลานพระราชวังดุสิต ไปยัง สนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราววิทยาลัยการอาชีพสระบุรี อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน โดยรถยนต์พระที่นั่งจากสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราววิทยาลัยการอาชีพสระบุรี ไปยังวัดพระพุทธบาท อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
เวลา 17 นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระอุโบสถ เสด็จเข้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผ้าไตร จากเจ้าพนักงานพระราชพิธี ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้า ทรงถวายต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน พระพุทธปฏิมา พระประธานพระอุโบสถ เสด็จฯ ไปถวายผ้าพระกฐิน ณ ที่ชุมนุมสงฆ์ตามพิธีกรรมราชประเพณี
เสร็จแล้ว เสด็จออกจากพระอุโบสถขึ้นพระมณฑปรอยพระพุทธบาท ทรงสักการะพระมกุฏพันธนเจดีย์ พระบรมสารีริกธาตุ จากนั้นเสด็จเข้าพระมณฑปรอยพระพุทธบาท ทรงสักการะรอยพระพุทธบาทแล้ว ประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราววิทยาลัยการอาชีพสระบุรี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับเฮลิคอปเตอร์ พระที่นั่งจากสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราววิทยาลัยการอาชีพสระบุรี เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
การแต่งกาย แต่งเครื่องแบบเต็มยศ สายสะพายมหาจักรี ผู้เข้าเฝ้า ฯ แต่งเครื่องแบบเต็มยศ สายสะพายสูงสุด
พิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ พุทธศักราช 2567
เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เหล่าทัพโดย กองบัญชาการทหารสูงสุด กระทรวงกลาโหม ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณจึงกราบบังคมทูลพระกรุณาเชิญเสด็จพระราชดำเนินในพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ เป็นครั้งแรกในรัชกาล
วันอังคารที่ 3 ธันวาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน โดยรถยนต์พระที่นั่งออกจากพระที่นั่งอัมพรสถานทางประตูภูธรลีลาศ ไปยังพระลานพระราชวังดุสิต รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนไปตามพระลานพระราชวังดุสิตหน้าแถวทหารรักษาพระองค์ ทรงตรวจพล สวนสนาม รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่หน้าพลับพลา ประทับพระราชอาสน์ หน่วยทหารรักษาพระองค์ เดินแถวในรูปขบวนสวนสนาม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปประทับยืนที่มุขหน้าพลับพลา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี องค์ผู้บัญชาการกองผสมสวนสนาม เดินแถวสวนสนามผ่าน พลับพลาที่ประทับแล้ว เสด็จขึ้นมุขหน้าพลับพลา หน่วยทหารรักษาพระองค์สวนสนามแล้ว กลับประจำที่เดิม ครบทุกหน่วย ประทับพระราชอาสน์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลพระกรุณา ถวายพระพรชัยมงคล
จบแล้ว เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกล่าวนำถวายสัตย์ ปฏิญาณตน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท เสด็จลงจากพลับพลาไปประทับ รถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
การแต่งกาย แต่งเครื่องแบบเต็มยศ สายสะพายรามาธิบดี ผู้เข้าเฝ้า ฯ แต่งเครื่องแบบเต็มยศ สายสะพายสูงสุด