Chester’s ไม่ทอดทิ้ง-ไม่ทอดซ้ำ สู่เชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพยั่งยืน

เชสเตอร์ เปิด Flagship Store ใจกลางสยามสแควร์ ด้วยคอนเซ็ปต์ Good Food Good Mood โดนใจคนรุ่นใหม่ พร้อมเปิดเผยแนวทางรักษ์โลก ไม่ทอดทิ้ง-ไม่ทอดซ้ำ สู่เชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพยั่งยืน (SAF)

วันที่ 18 ตุลาคม 2567 ปัจจุบัน ธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ที่มีมูลค่าตลาดในประเทศไทยอยู่ที่ 45,000 ลบ. และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยปัจจัยสนับสนุนจากไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบทานอาหารนอกบ้าน ประกอบกับการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

เชสเตอร์ ธุรกิจอาหารฟาสต์ฟู้ด ก้าวเข้าสู่ปีที่ 36 เปิด Flagship Store ใจกลางสยาม ด้วยคอนเซ็ปต์ Good Food Good Mood โดนใจคนรุ่นใหม่ รับมือตลาดที่เติบโตด้วยกลยุทธ์เชิงรุก พัฒนาเมนูใหม่ เพิ่มตัวเลือกแก่ครอบครัว คนรุ่นใหม่ และเมนู Grab and Go ตอบโจทย์ความสะดวกรวดเร็วกึ่งรักษ์โลก ขยายสาขาใหม่ 23 สาขา มากที่สุดในรอบ 16 ปี คาดรายได้เติบโตประมาณ 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน

นาวสาวลลนา บุญงามศรี กรรมการผู้จัดการ เชสเตอร์ฟู้ด เปิดเผยว่า ณ ตอนนี้สิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องให้ความสำคัญ และทางบริษัทได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด โดยได้ปรับการให้บริการโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับบางจากทำโครงการ ‘ทอดไม่ทิ้ง’ โดยนำน้ำมันพืชที่ใช้แล้วจากทุกสาขาทั่วประเทศไปเป็นวัตถุดิบเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพยั่งยืน (SAF) เป็นการช่วยโลกร้อน รักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัว

และยังมีอีกโครงการหนึ่งคือ โครงการ ‘ทอดไม่ซ้ำ’ ไม่นำน้ำมันพืชมาทอดอาหารซ้ำ โดยร่วมมือกับกรมอนามัย เพราะต้องการควบคุมมาตรฐาน เมื่อมีค่าโพลาร์ หรือ Total Polar Material (TPM) เกิดกำหนดเมื่อไหร่ก็จะเปลี่ยนทันที ไม่นำมาทอดซ้ำเนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีดังเดิม

“เป็นสองโครงการที่มีประโยชน์มาก เพราะว่า โครงการไม่ทอดซ้ำนั้นดีต่อผู้บริโภค ดีต่อสุขภาพ ส่วนโครงการทอดไม่ทิ้งก็ดีต่อสิ่งแวดล้อม“ ลลนา กล่าวย้ำ

อีกประเด็นหนึ่งนอกเหนือจากเรื่องของน้ำมันคือเรื่องภาชนะและบรรจุภัณฑ์ โดยในร้านทั้งหมดจะใช้ภาชนะใช้ซ้ำ ใช้จาน ชาม ช้อนส้อม แก้วน้ำจริง ๆ เพื่อลดปริมาณขยะ และใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ

สำหรับการจัดการขยะทางอาหาร ก็มีการพยายามที่จะลดและแก้ปัญหา เนื่องจากเกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของอาหาร โดยที่ผ่านมาได้มีการวางแผนในการบริการจัดการให้สอดคล้องกับยอดขายเพื่อให้เหลืออาหารขยะน้อยที่สุด และเพื่อคงคุณภาพอาหารให้ดีที่สุด