เบทาโกร จัดงาน “BETAGRO SD DAY 2024” เน้นแนวคิด “Sustainable Food Through Better Actions” รวมพลังคนในองค์กรสานต่อ 5 ยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืน พร้อมเปิดตัวสัญลักษณ์ Betagro Saijai สะท้อนถึงการสร้างความยั่งยืนด้านอาหาร ดึง “ท็อป-พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร” ร่วมสร้างแรงบันดาลใจที่เริ่มต้นได้ด้วยตัวเรา
นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า วิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรุนแรงทั่วโลกและโรคอุบัติใหม่ ล้วนมีผลต่อการดำเนินธุรกิจและพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลก ทั้งส่งผลกระทบต่อระบบการผลิตอาหารในปัจจุบันด้วย
ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจอาหารและเกษตรอุตสาหกรรมครบวงจรที่ส่งออกไปกว่า 20 ประเทศทั่วโลก จึงให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมาตลอด 57 ปี ซึ่งปีนี้ได้จัดงาน BETAGRO SD DAY 2024 ภายใต้แนวคิด “Sustainable Food Through Better Actions” เพื่อรวมพลังคนในองค์กรสร้างการเปลี่ยนแปลง และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ความยั่งยืนขององค์กร
พร้อมเปิดตัว “เบทาโกร ใส่ใจ” หรือ BETAGRO Saijai สัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงตัวตนเบทาโกรที่มุ่งมั่นเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน และไม่ใช่แค่การผลิตอาหารให้เพียงพอ แต่เน้นอาหารคุณภาพ ปลอดภัย และเข้าถึงผู้คนได้ทุกกลุ่ม
นายไพฑูรย์ จิรานันตรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่ กลุ่มงานพัฒนาประสิทธิภาพ การผลิต และซัพพลายเชน เบทาโกร กล่าวเสริมว่า บริษัทได้ดำเนินตามแนวทางด้านความยั่งยืน ภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์หลัก คือ
1. คุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหาร (Food Quality and Safety) ณ เดือนสิงหาคมสามารถลดการใช้ยาปฏิชีวนะต้านจุลชีพสำหรับสัตว์ลงได้ 15% จากเป้าหมายลดลง 50% (เทียบกับปี 2564) ภายในปี 2570 นอกจากนี้ ยังประเมินเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ ตามมาตรฐานสินค้าเกษตร (มกษ.) 9062-2565 ซึ่งคืบหน้าแล้ว 65% จากเป้าหมาย 100% ภายในปี 2570
2. การจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Management) มุ่งนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ ปัจจุบันลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ 8.4% จากเป้าหมาย 20% (เทียบกับปี 2565) ภายในปี 2573 และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2593
3. การพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน (Sustainable Packaging) เน้นออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้เกิดความคุ้มค่า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า 97.5% จากเป้าหมาย 100% ในปี 2573 และลดการใช้ทรัพยากรบรรจุภัณฑ์ได้ 1,160 ตัน
4. อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการปฏิบัติงานเพื่อให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี (Occupational Health and Safety) เพราะพนักงานเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า เบทาโกรจึงดูแลพนักงานให้มีคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดี ภายใต้สถานที่ทำงานและกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย พร้อมมุ่งสู่อุบัติการณ์เป็นศูนย์ (Zero Incident) ด้วยการดำเนินการตามระบบจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของเบทาโกร ที่ประยุกต์แนวทางจากการจัดการความปลอดภัยกระบวนการผลิต (PSM) ซึ่งจากปี 2552 จนถึงปัจจุบัน อัตราการเกิดอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงานของพนักงาน ลดลงได้ 67% และมุ่งมั่นสู่ Zero Incident ใน ปี 2569 ต่อไป
และ 5. การพัฒนาชุมชน (Community Development) เพราะเบทาโกรเชื่อว่าการที่ธุรกิจจะเติบโตอย่างยั่งยืนได้นั้น ชุมชนและสังคมต้องเติบโตไปพร้อมกัน บริษัทจึงมุ่งพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่องแบบองค์รวม ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ สุขภาพ สิ่งแวดล้อม สังคม และการศึกษา เพื่อสนับสนุนชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม
โดยปัจจุบันสามารถส่งเสริมความเป็นอยู่และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับชุมชนรอบสถานประกอบการ ด้วยโครงการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบองค์รวมให้กับชุมชน 14,468 ครัวเรือน จากเป้าหมาย 15,000 ครัวเรือนภายในปี 2567 และจะเพิ่มจำนวนครัวเรือนที่ได้รับการพัฒนาจากโครงการและกิจกรรมเป็น 20,000 ครัวเรือน ในปี 2568
งานนี้ เบทาโกรได้เชิญ “ท็อป-พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร” มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างความยั่งยืนให้ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่เริ่มต้นได้ด้วยตัวเรา