รวมใจภักดิ์รักษ์ทะเลไทยใสสะอาด เฉลิมพระเกียรติฯ สมดุลธรรมชาติ สร้างเศรษฐกิจยั่งยืน

เป็นที่รู้กันดีว่า การท่องเที่ยวต้องควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางทะเลอย่างอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ แหล่งท่องเที่ยวและเศรษฐกิจหมุนเวียนสำคัญของประเทศ

มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับ กรมอุทยานแห่งชาติฯ มูลนิธิอนุรักษ์พันธุกรรมพืชสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ กองทัพเรือ จ.กระบี่ และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ จึงร่วมใจจัดโครงการ “รวมใจภักดิ์รักษ์ทะเลไทยใสสะอาด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่” นับเป็นวาระสำคัญยิ่งที่พสกนิกรชาวไทยได้ร่วมโครงการเฉลิมพระเกียรติ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ให้สถิตอยู่ในความทรงจำของประชาชนตลอดไป

โดยดำเนินการปล่อยทุ่นบนเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ต.111 บริเวณหน้าอ่าวมาหยา เพื่อให้เรือท่องเที่ยวผูกเรือไว้ได้โดยไม่ต้องทิ้งสมอ เป็นการแก้ปัญหาปะการังถูกทำลายอย่างยั่งยืน รวมถึงการติดตามการติดตั้งทุ่นจอดเรือ ทุ่นไข่ปลาการเก็บขยะใต้ทะเล กิจกรรมปลูกต้นไม้บริเวณอ่าว อันเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมพลังที่จะช่วยอนุรักษ์ทะเลไทย โดยมีพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานกรรมการ มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นประธาน

พร้อมด้วย นายชิดชนก สุขมงคล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, พลเรือโทสุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3, นายพรชัย จุฑามาศ มูลนิธิอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.), นายอังกูร ศีลาเทวกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่, นายสมพันธ์ จารุมิลินท รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด และประธานกรรมการดำเนินงานโครงการ รวมใจภักดิ์รักษ์ทะเลไทยใสสะอาด เฉลิมพระเกียรติฯ มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เข้าร่วมพิธี อาทิ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ณ บริเวณหาดนพรัตน์ธารา ในอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่

นายสมพันธ์เปิดเผยว่า ทุ่นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปะการังไม่ถูกทำลาย เนื่องจากกระบี่มีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ และมีความต้องการให้จอดใกล้แหล่งดำน้ำ-แหล่งปะการัง เมื่อปราศจากทุ่นที่เพียงพออาจมีผลกระทบต่อแนวปะการังบริเวณนั้นได้ ซึ่งยากต่อการฟื้นฟูและใช้เวลากว่าหลายร้อยปี

ADVERTISMENT

ในวาระนี้มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้ทำพิธีมอบทุ่น 72 ทุ่นให้แก่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้แก่ ทุ่นผูกเรือ ทุ่นแจ้งเตือนลดความเร็ว เพื่อเพิ่มความปลอดภัยทางเรือ โดยกองทัพจะนำไปติดตั้งเพื่อรักษาแนวปะการังไม่ให้ถูกทำลายจากการทิ้งสมอเรือต่อไป

“การสร้างสมดุลระหว่างการท่องเที่ยวกับการอนุรักษ์เป็นสิ่งจำเป็นยิ่ง เพราะมีผลกับเศรษฐกิจท้องถิ่น ชุมชน และป้องกันความเสียหายอันจะเกิดกับทรัพยากร เป็นการปลุกจิตสํานึกให้ประชาชนและเยาวชนเห็นความสําคัญของการอนุรักษ์แนวปะการังและท้องทะเลไทย พร้อมร่วมสํานึกและเทิดทูนในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทย อันนําไปสู่การอนุรักษ์ฟื้นฟูและใช้ประโยชน์ทรัพยากรในทะเลไทยอย่างยั่งยืนตลอดไป”

ADVERTISMENT

นายชิดชนกกล่าวว่า อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ฯ มีความสำคัญในฐานะพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลอันโดดเด่น มีพื้นที่รวม 242,437 ไร่ หรือ 387 ตารางกิโลเมตร ประกอบกับชายหาดมีความงดงาม มีทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใส อุดมสมบูรณ์ด้วยปะการังสีสดใส และสิ่งมีชีวิตทางทะเลที่มีคุณค่า

อุทยานฯแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทในการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ และสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นจากการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โครงการวางทุ่นผูกเรือ บริเวณเกาะพีพีเล เป็นทุ่นจอดเรือสีแดงขนาดกลาง จำนวน 72 ลูก และวางทุ่นไข่ปลา 500 ลูก ซึ่งเป็นการช่วยทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลได้เป็นอย่างดี สามารถเป็นทุ่นจอดเรือให้กับเรือนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในบริเวณนั้น ๆ ได้

“หากเรือมาทอดสมอบริเวณที่มีปะการังก็จะไปทำลายทรัพยากรใต้ทะเล โครงการนี้นอกจากจะสร้างความตระหนักรู้ในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลแล้ว ยังร่วมกันอนุรักษ์ท้องทะเล พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวคู่ไปกับความยั่งยืนด้วย”