
EGCO Group โดย มูลนิธิไทยรักษ์ป่า ส่งมอบ “เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาหัวนาค” จ.ชัยภูมิ เป็นแหล่งเรียนรู้นิเวศวิทยาถิ่นอีสาน ชูไฮไลท์หินร้อยล้านปี
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group โดย มูลนิธิไทยรักษ์ป่า พัฒนา “เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผาหัวนาค” ระยะทาง 2.66 กิโลเมตร พร้อม Trail Head ป้ายสื่อความหมายธรรมชาติ และศาลานิทรรศการ ส่งมอบ แก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งเรียนรู้นิเวศวิทยาและธรณีวิทยาถิ่นอีสานของอุทยานแห่งชาติภูแลนคา จ.ชัยภูมิ ที่มีมาตรฐาน ความแข็งแรงและปลอดภัย
เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงคุณค่าของป่าและประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาของเขาหินทรายอายุกว่า 125 ล้านปี จนเกิด จิตสำนึกอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้ยั่งยืนในทุกพื้นที่ โดยพิธีส่งมอบเส้นทางฯ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 โดยมี นายสมบัติ ไตรรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ร่วมเป็นสักขีพยาน
ดร.จิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group และประธานกรรมการมูลนิธิไทยรักษ์ป่า เปิดเผยว่า “จากความเชื่อที่ว่า “ต้นทางดี จะก่อกำเนิดผลลัพธ์ปลายทางที่ดี” EGCO Group ให้ความสำคัญกับการร่วมดูแลและพัฒนา ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนตั้งแต่ต้นทาง โดยได้ก่อตั้งและสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิไทยรักษ์ป่า องค์กร สาธารณกุศลเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าต้นน้ำที่สำคัญของประเทศ มากว่า 22 ปี
หนึ่งในภารกิจของมูลนิธิฯ คือ การพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ได้มาตรฐาน เพื่อเป็นห้องเรียนธรรมชาติ ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าถึง สัมผัส และเรียนรู้คุณค่าของป่าต้นน้ำและธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เกิดความตระหนัก และจิตสำนึกในการร่วมแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน”
มูลนิธิฯ และอุทยานแห่งชาติภูแลนคา เล็งเห็นถึงศักยภาพของพื้นที่ผาหัวนาค ในการเป็นอีกหนึ่งเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่สามารถเดินป่าท่องเที่ยวได้ง่ายและสะดวก ควบคู่กับการเป็นแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศที่สะท้อนคุณค่าของ ทรัพยากรธรรมชาติและประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาของพื้นที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะป่าบนพลาญหินอายุกว่า 125 ล้านปี ซึ่งล้วนแต่มีสังคมพืชที่แตกต่างกัน
“ในปี 2567 EGCO Group และมูลนิธิไทยรักษ์ป่า จึงพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติผาหัวนาค ระยะทาง 2.66 กิโลเมตร โดยออกแบบให้มีมาตรฐาน แข็งแรง เดินง่าย และปลอดภัย ด้วยจุดมุ่งหมายให้นักท่องเที่ยวได้เข้าถึง เข้าใจ เรียนรู้ ธรรมชาติและสภาพภูมิศาสตร์ที่หลากหลายและมีคุณค่าเฉพาะตัวอย่างใกล้ชิด ผ่านป้ายสื่อความหมายธรรมชาติ ตลอดแนวเส้นทางฯ โดยได้จัดทำ Trail Head บริเวณทางเข้าเส้นทาง ป้ายสื่อความหมายธรรมชาติ 14 จุด และป้ายให้ ความรู้เรื่องพืชพรรณ 5 จุด รวมถึงได้สร้างศาลา “เฮือนเพิ่งตะเว็น” ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการบอกเล่าที่มาและสะท้อนคุณค่า ของเส้นทางฯ และเป็นที่พักปลายทางให้นักท่องเที่ยว ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของพื้นที่ราบเกษตรสมบูรณ์และภูเขียวอีกด้วย
นอกจากนี้ เส้นทางฯ ยังถูกออกแบบให้ครอบคลุมเส้นทางลาดตระเวนและแนวกันไฟป่า ด้วยเจตนาที่ว่า หากพื้นที่มีการใช้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว จะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดไฟป่าในพื้นที่ได้อีกทางหนึ่ง และใน อนาคตเรามีแผนที่จะอบรมและส่งเสริมให้ชุมชนและเยาวชนเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่นนำเที่ยวเส้นทางฯ นี้ เพื่อสร้าง การมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ธรรมชาติในพื้นที่อย่างยั่งยืน” ดร.จิราพร กล่าว
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า “กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สนับสนุนและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน ความร่วมมือระหว่างกรมอุทยานฯ EGCO Group และมูลนิธิไทยรักษ์ป่า เพื่อพัฒนา และปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติในพื้นที่อุทยานแห่งชาติต่าง ๆ ให้มีความปลอดภัย แข็งแรง และสะดวกสำหรับการ ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน และภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับที่ 4 ระหว่างปี 2564 – 2569 นั้น
ถือได้ว่า EGCO Group และมูลนิธิไทยรักษ์ป่าเป็นตัวอย่างของภาคเอกชน ที่มีส่วนร่วม ขับเคลื่อนภารกิจของกรมอุทยานฯ ที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์ ส่งเสริม และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ดำเนิน ไปได้อย่างราบรื่น”
นอกจากอุทยานแห่งชาติภูแลนคาแล้ว มูลนิธิไทยรักษ์ป่ายังได้ร่วมพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติอื่นๆ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนนท์ 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางฯ ยอดดอย (ปี 2561) เส้นทางฯ กิ่วแม่ปาน (ปี 2562) เส้นทางฯ อ่างกา (ปี 2564) เส้นทางฯ ผาดอกเสี้ยว (ปี 2567) อุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย 1 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางฯ น้ำตกมณฑาธาร (ปี 2558) รวมถึง ในจังหวัดนครศรีธรรมราช อุทยานแห่งชาติเขาหลวง 4 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางฯ น้ำตกพรหมโลก น้ำตกกะโรม น้ำตกอ้าย เขียว (ปี 2560) และเส้นทางฯ น้ำตกกรุงชิง (ปี 2565)
เส้นทางการท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติผาหัวนาค
“ผาหัวนาค” ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ และเป็นส่วนหนึ่งของ มอหินขาว ผาหัวนาค พื้นที่ที่ดูธรรมดาแต่มีความพิเศษ สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างหิน ดิน และป่า บอกเล่าความเป็นมาของผืนป่าต้นน้ำ ที่เชื่อมโยงกันอย่างน่าอัศจรรย์และมีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศและสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ หิน พลาญหินทรายอายุกว่าร้อยล้านปี เป็นจุดเริ่มต้นของระบบนิเวศที่นี่ ดิน หินทราย เมื่อผุกร่อนกลายเป็นดินทราย และเมื่อผสมกับอินทรียวัตถุจะกลายเป็นแหล่งอาหารของพืชพรรณ พรรณไม้ พืชพรรณที่ปรับตัวและเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่งเพื่อฟื้นฟูและรักษาธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ร่วมกัน
เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาหัวนาค มีระยะทาง 2.66 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง ผ่านแนวสันเขารูปอีโต้ (Cuesta) บริเวณผาหัวนาค ซึ่งเป็นหินทรายอายุกว่า 125 ล้านปี ตลอดแนวทางเดินจะทอดผ่านพลาญหินทราย สลับกับช่วงที่เป็นดินร่วนปนทราย
มีพืชพรรณที่แตกต่างกัน โดยต้นทาง (Trail Head) และปลายทาง (Trail End) อยู่ใกล้กัน สำหรับ Trail Head อยู่ใกล้กับ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวผาหัวนาค อุทยานแห่งชาติภูแลนคา และ Trail End จะบรรจบกับจุดชมวิวระเบียงหม่อง เพิ่งตะเวน ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของพื้นที่ราบเกษตรสมบูรณ์และภูเขียว
การออกแบบเส้นทางศึกษาธรรมชาติผาหัวนาค
1. ออกแบบเส้นทางฯ โดยให้ความสำคัญกับเรื่องมาตรฐานความแข็งแรง ปลอดภัย และได้ติดตั้งเสานำทาง พร้อมเชือกกั้นตามแนวหน้าผา รวมทั้งติดตั้งระบบ SOS ในบริเวณที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
2. จัดทำ Trail Head ป้ายหน้าทางเข้าเส้นทาง
3. จัดทำป้ายสื่อความหมายธรรมชาติ 14 จุด และป้ายให้ความรู้เรื่องพืชพรรณ 5 จุด ตลอดเส้นทาง
4. สร้างศาลา “เฮือนเพิ่งตะเว็น” เพื่อจัดแสดงนิทรรศการบอกเล่าที่มาและสะท้อนคุณค่าของเส้นทางฯ และ เป็นที่พักปลายทางให้นักท่องเที่ยว ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของพื้นที่ราบเกษตรสมบูรณ์และภูเขียว
เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาหัวนาค พร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินในเส้นทางฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป โดยเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการ นักท่องเที่ยว โทร. 093 093 9193