
ส่อง ‘ค่าแรงขั้นต่ำ’ 10 ประเทศอาเซียน เป็นอย่างไรบ้าง ขณะที่กับประเทศไทยเองก็กำลังจับตาการประชุมบอร์ดไตรภาคีขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท/วัน
เป็นอีกครั้งสำหรับการตั้งความหวังในการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้ตามทันสภาวะเงินเฟ้อที่เราคนไทยกำลังเผชิญ จากการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดไตรภาคี) ในวันที่ 23 ธันวาคม 2567 หลังจากที่มีแววจะปรับขึ้นอยู่หลายครา ทำให้ประชาชนต้องประสบกับข้าวของที่ราคาแพงขึ้น แต่ค่าแรงที่ได้ยังคงเท่าเดิม
ขณะเดียวกันการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำก็อาจส่งผลกระทบต่อภาคเอกชน เนื่องจากจะเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิต 5 อุตสาหกรรมหลัก อาทิ อาหาร, สิ่งทอ, ยาง, อิเล็กทรอนิกส์ และรถยนต์ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กและรายย่อย จนอาจต้องย้ายฐานการผลิต และเลือกจ้างแรงงานต่างด้าว
ขณะที่เรากำลังลุ้นค่าแรงขั้นต่ำที่อาจจะเพิ่มขึ้น แล้วสถานการณ์ค่าแรงขั้นต่ำของอีก 9 ประเทศอาเซียน เป็นอย่างไร ?
ไทย
ปัจจุบันค่าแรงขั้นต่ำของไทยอยู่ที่ 330-370 บาท/วัน โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา โดยแต่ละจังหวัดก็จะมีค่าแรงขั้นต่ำที่แตกต่างกัน อาทิ กรุงเทพมหานคร ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 363 บาท/วัน, ภูเก็ต ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 373 บาท/วัน ส่วนนราธิวาส, ปัตตานี และยะลา ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 330 บาท/วัน
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีเป้าหมายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท/วัน ทั่วประเทศภายในปีแรกของรัฐบาลชุดนี้ และค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท/วัน และบังคับใช้ทั่วประเทศภายในปี 2570
– เป้าหมาย 400 บาท/วัน ทั่วประเทศภายในปีแรกที่เป็นรัฐบาล 600 บาท/วัน ทั่วประเทศภายในปี 70

เวียดนาม
สำหรับค่าแรงขั้นต่ำของเวียดนามแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.ค่าแรงขั้นต่ำทั่วไป 2,340,000 ด่องเวียดนาม (93 ดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณ 3,152.17 บาท เฉลี่ยวันละ 105 บาท ใช้คำนวณสำหรับพนักงานในองค์กรและรัฐวิสาหกิจ 2.ค่าแรงขั้นต่ำระดับภูมิภาคสำหรับพนักงานในองค์กรที่ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจตามเขตพื้นที่ที่รัฐบาลกำหนด ได้แก่
เขต 1 ได้รับเงินเดือน 4,960,000 ด่องเวียดนาม (196 ดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณ 6,681.52 บาท เฉลี่ยวันละ 223 บาท
เขต 2 ได้รับเงินเดือน 4,410,000 ด่องเวียดนาม (175 ดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณ 5,939.74 บาท เฉลี่ยวันละ 198 บาท
เขต 3 ได้รับเงินเดือน 3,860,000 ด่องเวียดนาม (153 ดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณ 5,198.96 บาท เฉลี่ยวันละ 173 บาท
เขต 4 ได้รับเงินเดือน 3,450,000 ด่องเวียดนาม (137 ดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณ 4,646.74 บาท เฉลี่ยวันละ 155 บาท
ฟิลิปปินส์
ค่าแรงขั้นต่ำของฟิลิปปินส์อยู่ที่ 610 เปโซฟิลิปปินส์ หรือประมาณ 356.43 บาท/วัน จากค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ยในปี 1989 เคยอยู่ที่ 354.32 เปโซฟิลิปปินส์/วัน หรือประมาณ 207.03 บาท/วัน อย่างไรก็ตามค่าแรงขั้นต่ำจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค และประเภทของการจ้างงาน ดังนี้
ภูมิภาค | ค่าแรงขั้นต่ำ/วัน (บาท) |
เมโทรมะนิลา | 376.79 |
เขตคาลาบาร์โซน | 245.76 |
เขตลูซอนกลาง | 233.67 |
เขตเซนทรัลวิซายา | 236 |
เขตตังไวนางซัมบวงกา | 236 |
เขตมินดาเนาเหนือ | 236 |
เขตดาเวา | 236 |
เขตโซกซาร์เจน | 236 |
เขตคารากา | 236 |
เขตปกครองตนเองในมินดาเนามุสลิม | 236 |
เขตหุบเขาคากายัน | 233.67 |
เขตอีโลกอส | 233.67 |
เขตบีเกล | 233.67 |
มาเลเซีย
ค่าแรงขั้นต่ำของมาเลเซียอยู่ที่เดือนละ 1,500 ริงกิต หรือประมาณ 11,790 บาท เฉลี่ยวันละ 393 บาท ปรับขึ้นจาก 1,200 ริงกิต หรือประมาณ 9,141.26 บาท เมื่อปี 2565
อินโดนีเซีย
สำหรับค่าแรงขั้นต่ำของอินโดนีเซียไม่ได้กำหนดในเรตราคาเดียวกันทั้งประเทศ แต่มีการกำหนดขึ้นในระดับจังหวัดหรืออำเภอ เพื่อกระจายอำเภอและสะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่หลากหลายในแต่ละภูมิภาค โดยในเขตเมืองหลวงอย่างจาการ์ตา มีค่าแรงขั้นต่ำเดือนละ 4,901,798 รูเปียห์ (325 ดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณ 11,960 บาท เฉลี่ยวันละ 398.66 บาท
ส่วนเขตที่ได้ค่าแรงขั้นต่ำน้อยที่สุดคือ เขตชวากลาง มีค่าแรงขั้นต่ำเดือนละ 2,102,750 รูเปียห์ (130 ดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณ 4,784 บาท เฉลี่ยวันละ 159 บาท
กัมพูชา
กัมพูชาได้ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า และผลิตภัณฑ์การเดินทางสำหรับปี 2025 ตามมติของสภาแห่งชาติว่าด้วยค่าจ้างขั้นต่ำ (NCMW) ซึ่งเป็นองค์กรไตรภาคีที่มีตัวแทนเท่าเทียมกันจากสหภาพแรงงาน สมาคมนายจ้าง และรัฐบาล ผ่านประกาศ 211
กัมพูชาได้ปรับค่าแรงขั้นต่ำสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องหุ่งห่ม รองเท้า และผลิตภัณฑ์สำหรับการเดินทางในปีหน้า ตามมติของสภาแห่งชาติว่าด้วยค่าแรงขั้นต่ำ (NCMW) และมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2568
เงินเดือนขั้นต่ำสำหรับพนักงานประจำ 208 ดอลลาร์สหรัฐ (เดิม 204 ดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณ 7,117 บาท เฉลี่ย 237 บาท/วัน
เงินเดือนขั้นต่ำสำหรับพนักงานประจำ 206 ดอลลาร์สหรัฐ (เดิม 204 ดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณ 7,049 บาท เฉลี่ย 235 บาท/วัน
เมียนมา
ตั้งแต่ปี 2561 ค่าแรงขั้นต่ำของเมียนมาถูกกำหนดไว้ที่ 4,800 จ๊าตเมียนมา ต่อมาในเดือนกันยายน 2566 ได้มีการเพิ่มเงิน 1,000 จ๊าตเมียนมา/วัน สำหรับพนักงานรัฐ และเดือนต่อมาในปีเดือนกันก็มีการขยายวงเงินค่าแรงขั้นต่ำนี้ให้กับบริษัทเอกชนที่มีพนักงานมากกว่า 10 คน ทำให้ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเป็น 5,800 จ๊าตเมียนมา หรือประมาณ 94.48 บาท
ล่าสุดตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ค่าแรงขั้นต่ำของเมียนมาเพิ่มขึ้นเป็น 6,800 จ๊าตเมียนมา/วัน หรือประมาณ 110.76 บาท
ลาว
ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2566 สำนักนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอนุมัติขึ้นค่าแรงขั้นต่ำสำหรับผู้ใช้แรงงานจาก 1,300,000 กีบ เพิ่มขึ้นเป็น 1,600,000 กีบ/เดือน หรือประมาณ 2,512.56 บาท เฉลี่ยวันละ 83.752 บาท
นับเป็นการปรับขึ้นค่าแรงครั้งที่ 3 หลังจากปรับครั้งล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 เพื่อต่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อ และค่าเงินกีบที่อ่อนลงอย่างต่อเนื่อง โดยมตินี้ครอบคลุมธุรกิจทุกประเภท
สิงคโปร์ & บรูไน
สำหรับสิงคโปร์และบรูไนเป็น 2 ประเทศที่ไม่มีการกำหนดอัตราค่าแรงขั้นต่ำ โดยนายจ้างจะกำหนดค่าแรงขั้นต่ำตามข้อตกลงการเจรจาต่อรองร่วม (CBA) ที่เกี่ยวข้องกับระเบียบข้อบังคับของสหภาพแรงงานในอุตสาหกรรมของตนเอง
ด้านสิงคโปร์เน้นย้ำถึง “เงินเริ่มต้นที่สมเหตุสมผล” โดยมี Living Wage อยู่ที่ 2,170 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อเดือน และมีค่าแรงขั้นต่ำของพนักงานในแต่ละอุตสาหกรรมแตกต่างกันออกไป
ในปีนี้ สิงคโปร์ได้มีการทยอยปรับขึ้นค่าแรง อาทิ เงินเดือนขั้นต่ำของพนักงานภาครัฐเริ่มที่ 1,500-2,800 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 41,130-103,040 บาท ขณะเดียวกันเงินเดือนขั้นต่ำของพนักงานทำความสะอาดอยู่ที่ 1,570-2,410 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 43,049-66,082 บาท
ขณะที่ กรมแรงงานบรูไน มีการจ้างงานใหม่ว่าด้วยค่าแรงขั้นต่ำปี 2566 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2566 กำหนดให้ปรับขึ้นค่าแรงเป็นระยะ ๆ เป็นการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในภาคการธนาคารและการเงิน และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
อ้างอิงข้อมูลจาก ASEAN Briefing , atlasxm , recuitgo , gutsyhr , tradingeconomics , veitnam briefing และ velocityglobal