
กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ลุยเพิ่ม 13 อาชีพ มีค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ ได้ค่าจ้างสูงสุดวันละ 800 บาท
เดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน ได้ดำเนินการพัฒนายกระดับทักษะฝีมือแรงงานให้มีมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับของตลาดแรงงานทั้งในและต่างประเทศ โดยร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งสภาอุตสาหกรรมฯ องค์กรวิชาชีพ สถาบันการศึกษา ในการร่วมกันกำหนดเพื่อจัดทำมาตรฐานฝีมือแรงงานในแต่ละสาขาอาชีพของประเทศไทย ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการพัฒนาฝีมือแรงงานทุกมิติ
สามารถผลิตแรงงานรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี AI ระบบ Automation และ Digital Transformation ส่งผลดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและสังคม
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะรัฐมนตรีรับทราบประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 14) ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งจะมีผลใช้บังคับ 90 วัน หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา
อาชีพที่จะต้องได้ค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือใหม่ เพิ่มเติมอีก 13 สาขา
- พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยว (รถทัวร์) ระดับ 1 อัตราค่าจ้าง 600 บาทต่อวัน
- ช่างซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า ระดับ 2 อัตราค่าจ้าง 600 บาทต่อวัน
- ผู้บังคับรถปั้นจั่นตีนตะขาบ ระดับ 1 อัตราค่าจ้าง 620 บาทต่อวัน
- ผู้บังคับรถปั้นจั่นล้อยาง ระดับ 1 อัตราค่าจ้าง 620 บาทต่อวัน
- ผู้บังคับปั้นจั่นติดรถบรรทุก ระดับ 1 อัตราค่าจ้าง 560 บาทต่อวัน
- พนักงานขับรถบรรทุก ระดับ 1 อัตราค่าจ้าง 485 บาทต่อวัน
- ช่างเทคนิคเครื่องปรับอากาศสำหรับห้องสะอาด ระดับ 1 อัตราค่าจ้าง 720 บาทต่อวัน/ระดับ 2 อัตราค่าจ้าง 800 บาทต่อวัน
- ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ระดับ 1 อัตราค่าจ้าง 500 บาทต่อวัน
- ช่างไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรม การจัดงานประชุมการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลและการแสดงสินค้า ระดับ 2 อัตราค่าจ้าง 600 บาทต่อวัน
- นักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (ภาษาซี) ระดับ 1 อัตราค่าจ้าง 700 บาทต่อวัน
- นักดูแลและบริหารระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ระดับ 2 อัตราค่าจ้าง 770 บาทต่อวัน
- ช่างควบคุมหุ่นยนต์อุตสาหกรรม ระดับ 1 อัตราค่าจ้าง 605 บาทต่อวัน
- ผู้ฝึกสอนมวยไทย ระดับ 1 อัตราค่าจ้าง 565 บาทต่อวัน
เดชากล่าวต่อว่า การกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแต่ละสาขาเกิดจากหลายปัจจัย อาทิ เป็นสาขาอาชีพที่ตลาดแรงงานต้องการ เป็นสาขาที่ต้องมีทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หรืออาจเกิดจากมีข้อพิพาทเรื่องอัตราค่าจ้าง รวมถึงเป็นสาขาที่กำลังแรงงานที่มีอยู่ในสาขาอาชีพนั้นควรจะพัฒนาทักษะฝีมืออยู่เสมอ
“จากประกาศเพิ่มเติมอีก 13 สาขา ทำให้มีอาชีพที่ได้รับค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือทั้งสิ้น 141 สาขา เป็นการขยายขอบเขตให้ครอบคลุมอาชีพที่ใช้ทักษะฝีมือมากขึ้น กระตุ้นให้แรงงานได้รับค่าจ้างตามฝีมือ ส่วนสถานประกอบกิจการก็มีพนักงานที่มีทักษะตรงกับความต้องการ ลดความสูญเสียในการผลิตได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพ ส่วนประชาชนได้รับการบริการที่ดีมีมาตรฐานด้วย” อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับแรงงานหรือพนักงานในสถานประกอบกิจการที่ต้องการค่าจ้างดังกล่าว สามารถเข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานกับหน่วยงานของกรม ได้แก่ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน รวมถึงศูนย์ทดสอบ เอกชนและสถาบันการศึกษาที่ได้รับรองจากกรม มากกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ