พงศ์กวิน ดัน 5 นโยบาย ยกระดับค่าจ้าง-ทักษะ AI-ดูแลแรงงานนอกระบบ-ต่างด้าว

รมว.แรงงาน มอบนโยบายวันแรก ผลักดัน 5 นโยบาย ยกระดับทักษะ-ค่าจ้าง-สิทธิประโยชน์ หนุนรายได้ต่อวันเพิ่ม วางกรอบแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย ลดแย่งอาชีพ-งานคนไทย

นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า มีความพร้อม และจะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ประชาชนและแรงงานไทย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะแรงงานคือกลไกหลักของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

ที่ผ่านมา ทำงานภาคเอกชนมาก่อน เข้าใจทั้งในมุมของนายจ้างและลูกจ้าง เข้าใจความท้าทายของแรงงานทั้งในระบบและนอกระบบ และเชื่อว่าด้วยประสบการณ์ที่มี จะสามารถนำมาปรับใช้ในการกำหนดนโยบายที่ตอบโจทย์ได้จริงครับ

นายพงศ์กวินเผยต่อถึงกรณีแรงงานกัมพูชาที่ขณะนี้ได้ทยอยกลับประเทศ ซึ่งอาจส่งผลต่อการขาดแคลนแรงงาน ที่เป็นส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจ รวมถึงอาจมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการบางราย โดยทุกฝ่ายได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาแนวทางการปรับสัดส่วนแรงงานแต่ละสัญชาติให้สมดุล เพื่อให้สัดส่วนแรงงานต่างด้าวแต่ละสัญชาติมีความเหมาะสม โดยจะเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ในการนำแรงงานจากนอกกลุ่ม CLMV (เมียนมา ลาว เวียดนาม) เข้ามาเสริม โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมที่ใช้ทักษะเฉพาะ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ยังจะขับเคลื่อน 5 นโยบาย เพื่อให้แรงงานไทยมีชีวิตให้เป็นอยู่ที่ดีขึ้นและมีรายได้สูงขึ้น ประกอบด้วย

1. พัฒนาหลักสูตร AI เพื่อยกระดับทักษะแรงงานไทย ให้สอดคล้องกับภาคการผลิตและบริการ พร้อมดึงแรงงานทุกกลุ่มเข้าสู่กระบวนการฝึกทักษะ และใช้กลไก พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานฯ กระตุ้นภาคเอกชนร่วมพัฒนาทักษะแรงงานให้ทันต่อความต้องการของตลาด

ADVERTISMENT

2. ผลักดันกฎหมายแรงงานใหม่ครอบคลุมแรงงานนอกระบบ กว่า 21 ล้านคนเพื่อเข้าสู่กระบวนการนิติบัญญัติ ซึ่งกระทรวงจะต้องดูแลแรงงานทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมศึกษารูปแบบการทำงานใหม่ เพื่อพัฒนากฎหมายและระบบประกันสังคมให้ทันสมัยมากขึ้น

3. Learn to Earn เยาวชนช่วงอายุ 15-18 ปี ในปัจจุบันมีความสามารถรอบด้าน จึงต้องส่งเสริมเพื่อนำไปสู่การหารายได้เสริมระหว่างเรียน และยังเป็นการเสริมประสบการณ์ สร้างทักษะ และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

ซึ่งขณะนี้ยังมีกฎหมายคุ้มครองที่ชัดเจน อนุญาตให้ทำงานได้ แต่ต้องเป็นการทำงานที่ไม่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและสภาพจิตใจ และต้องไม่มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อเยาวชน จึงมอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม และผู้ประกอบการ ในการสนับสนุนและส่งเสริมเยาวชน เพื่อผลักดันให้นโยบายดังกล่าวเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

4. ยกระดับรายได้แรงงาน สู่โอกาสทางเศรษฐกิจ ข้อมูลของสำนักงานประกันสังคม ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม จำนวนประมาณ 24 ล้านคน ที่แม้ว่าปีนี้ได้มีการปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำแล้วถึง 2 รอบ ทำให้แรงงานในบางพื้นที่และบางสาขาอาชีพ ได้รับค่าจ้างในอัตราวันละ 400 บาท แต่ก็ยังมีผู้ประกันตนอีก 2.3 ล้านคน ซึ่งเป็นแรงงานไทย 1.8 ล้านคน ที่ยังได้รับค่าจ้างไม่ถึงวันละ 400 บาท

สะท้อนให้เห็นว่าแรงงานกว่า 90% มีรายได้เกิน 400 บาทต่อวันแล้ว สำหรับกลุ่มที่เหลือได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานเร่งยกระดับรายได้ของแรงงานกลุ่มนี้โดยด่วน ซึ่งในระยะแรกจะฝึกอบรมพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่แรงงานกลุ่มนี้

ไม่ว่าจะเป็นการ Up-Skill Re-Skill เพื่อให้แรงงานกลุ่มนี้มีทักษะฝีมือได้มาตรฐานที่จะเข้าสู่ระบบค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน ทำให้ได้รับค่าจ้างสูงขึ้นเกินกว่าวันละ 400 บาท ท้้งนี้ กระทรวงพร้อมพัฒนากลไกค่าจ้างขั้นต่ำและโครงสร้างค่าจ้างให้มีประสิทธิภาพในระยะยาว

5. จัดระเบียบแรงงานต่างด้าวในไทย เนื่องจากมีส่วนในการขับเคลื่อนภาคการผลิตและภาคบริการของประเทศ แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้มีการใช้แรงงานต่างด้าวโดยขาดการควบคุม ดังนั้นจึงจะเร่งจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในประเทศไทยอย่างเร่งด่วน

โดยเร่งประชาสัมพันธ์ให้แรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยในปัจจุบัน เข้าสู่กระบวนการขออนุญาต หรือผ่อนผันให้ทำงานในประเทศไทย ตามที่กฎหมายกำหนดให้ครบถ้วนตามจำนวน และบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบทำงาน และการทำงานที่เป็นการแย่งอาชีพคนไทย