ลิกซิลเผยเทรนด์ใหม่ บ้านอนุรักษ์น้ำ ลดพลาสติก ออกแบบเพื่อคนสูงวัย

สุขภัณฑ์ลิกซิล

การทำงานจากบ้าน (work from home) ยังคงเป็นเรื่องปกติสำหรับหลาย ๆ คน ทำให้คนให้ความสำคัญกับการออกแบบบ้านและหาโซลูชันที่สะดวกสบายมากขึ้น แต่ความกังวลในเรื่องภาวะโลกร้อน และราคาของวัสดุก่อสร้างพุ่งสูงขึ้น ทำให้เทรนด์ใหม่ ๆ ด้านที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นตามเช่นกัน

“อันทวน เบแซร์ เดส์ ออรส์” (Antoine Besseyre des Horts) ลีดเดอร์ (VP) ประจำลิกซิล โกลบอล ดีไซน์ ภูมิภาคเอเชีย และนักออกแบบชาวฝรั่งเศสที่มีรางวัลการันตีฝีมือ และในฐานะที่เป็นลีดเดอร์ของลิกซิล โกลบอล ดีไซน์ ประจำภูมิภาคเอเชีย เขาได้ร่วมเปลี่ยนกลยุทธ์ของแบรนด์ American Standard, GROHE และ INAX ให้เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมในเอเชียแปซิฟิก ล่าสุดเขาแชร์เทรนด์อสังหาริมทรัพย์และการออกแบบตกแต่งภายในบ้านมาแรงของปี 2566

ซึ่งเป็นปีที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญในด้านโซลูชันและเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับแก้ปัญหาในบ้าน อาทิ โซลูชันในการลดปริมาณการใช้น้ำ ลดการปล่อยคาร์บอน รวมไปถึงโซลูชันในการลดภาระค่าสาธารณูปโภค โดยระบุว่า จะมีนวัตกรรมความยั่งยืน 3 หัวข้อที่จะก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจสำคัญในการออกแบบตกแต่งภายในในปี 2566 ดังนี้

อนุรักษ์น้ำ ลดใช้พลาสติก

ความยั่งยืนกลายมาเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ สำหรับหลายคน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยผลิตภัณฑ์สำหรับบ้านจะถูกออกแบบเพื่อให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น และไม่ลดทอนประสบการณ์ที่ผู้ใช้จะได้รับ

โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อการตกแต่งภายในจะผ่านการใช้วัสดุรีไซเคิลมากขึ้น และออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีอายุการใช้งานยาวนาน พร้อมคำนึงถึงการนำไปรีไซเคิลได้ในอนาคต นอกจากนี้ ยังจะได้เห็นนวัตกรรมที่จะเข้ามาช่วยลดการใช้พลาสติกและน้ำอย่างต่อเนื่อง

ADVERTISMENT

ยกตัวอย่าง ประเทศสิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีการใช้พลาสติกและน้ำภายในครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น โดยทั่วประเทศ คนใช้น้ำปริมาณ 158 ลิตรต่อวันต่อคน และใช้ขวด PET จำนวน 467 ล้านขวดในแต่ละปี แต่สิงคโปร์เลือกใช้ส่วนโถสุขภัณฑ์ ฝักบัว และก๊อกน้ำที่ใช้ทรัพยากรน้ำน้อยลง และลดการใช้พลาสติกเป็นส่วนประกอบมากขึ้น เพราะห้องน้ำเป็นแหล่งการใช้น้ำหลัก ๆ ภายในบ้าน

สอดคล้องกับลิกซิล ที่ออกแบบมี GROHE Blue มาปฏิวัติระบบน้ำ เพราะสามารถกรอง ทำความเย็น และเติมคาร์บอนลงในน้ำได้โดยตรง จึงมีส่วนช่วยในการลดการใช้ขวดน้ำพลาสติกได้มากถึง 800 ขวด ลดการใช้น้ำ และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ในกระบวนการสร้างโซลูชันที่มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

ADVERTISMENT

โฟกัส inclusion และกลุ่มประชากรสูงวัย

แม้ว่า inclusivity หรือการให้ความสำคัญกับทุกคนจะเป็นคำที่ใช้กันมานานหลายต่อหลายปี ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ทำงานที่เปิดกว้าง (inclusive workplace) การศึกษาสำหรับทุกคน (inclusive education) การใช้ภาษากลางเพื่อความเท่าเทียม (inclusive language) ฯลฯ แต่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเรื่องของการออกแบบพื้นที่ทางกายภาพที่ให้ความสำคัญกับทุกคนเท่าใดนัก และประเด็นนี้มักไม่ค่อยมีการนำมาพิจารณาเมื่อพูดถึงเรื่องของความหลากหลายและการเปิดกว้าง

อย่างไรก็ตาม ในปี 2566 นี้ เราเริ่มที่จะเห็นแนวโน้มในการผสานรวมการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับทุกคนเข้ากับสิ่งก่อสร้างที่มีอยู่และสิ่งที่สร้างขึ้นมาใหม่ ผลิตภัณฑ์ที่มาช่วยรับประกันว่าสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นจะเอื้อประโยชน์และพร้อมรองรับทุกคนโดยไม่คำนึงถึงปัจจัยใด ๆ จะกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น

โดยจะเห็นถึงการเปิดกว้างเมื่อเป็นเรื่องของประชากรสูงวัย เมื่อผู้คนมีอายุมากขึ้น พวกเขาจะเดินภายในบ้านที่มีโครงสร้างเดิม ๆ ได้ลำบากขึ้น และนักออกแบบก็จะต้องคำนึงถึงเรื่องนี้เป็นสำคัญ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ข้อมูลขององค์การสหประชาชาติชี้ให้เห็นว่า ประชากรสูงวัยมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด

โดยเริ่มตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปี 2593 ยกตัวอย่างเช่น อ่างอาบน้ำนับเป็นพื้นที่ที่นักออกแบบจะรังสรรค์ประโยชน์ได้อย่างมากสำหรับประชากรสูงวัย ขอบของอ่างอาบน้ำที่มีขนาดกว้างขึ้นจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้สะดวก ในขณะที่อ่างแบบวอล์กอินช่วยให้สามารถเข้าใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นและป้องกันการลื่นล้ม

แนวโน้มของการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับทุกคนจะครอบคลุมสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ และมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เราได้เห็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงจากผลิตภัณฑ์ที่แสดงให้เห็นถึงฐานะไปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเรียบง่ายและใช้งานได้จริงมากขึ้น

ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังคงความสวยงาม ความมีสไตล์ และมาพร้อมกับการใช้งานที่ง่ายและตรงไปตรงมามากกว่าเดิม เพื่อรองรับผู้ใช้ที่มีความหลากหลาย นักออกแบบและสถาปนิกควรคำนึงถึงเทรนด์นี้เอาไว้เสมอหากพวกเขาต้องการที่จะเป็นผู้นำในเรื่องของการออกแบบ

เทคโนโลยีที่เรียบง่ายและใช้งานได้จริง

เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเทรนด์ในปี 2566 ทั้งเรื่องของความยั่งยืน การออกแบบที่ให้ความสำคัญกับทุกคน และการทำให้บ้านมีสไตล์และมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะในระหว่างนี้หลายคนคงต้องทำงานจากที่บ้านกันต่อไป ทำให้คนให้ความสำคัญกับการออกแบบที่อยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม เราจะไม่เห็นนวัตกรรมชิ้นใดชิ้นหนึ่งที่จะมาช่วยสอดรับทุกความต้องการ หรือ one-size-fits-all ในการออกแบบภายในใด ๆ เพราะการผสานรวมเทคโนโลยีของนักออกแบบจะเป็นไปตามความต้องการของผู้บริโภคและสภาพแวดล้อมโดยรอบมากขึ้นเรื่อย ๆ

ตัวอย่างเช่น ก๊อกน้ำแบบไร้สัมผัสและระบบชำระล้างที่ช่วยลดการสัมผัสของผู้ใช้จะยังคงมีการนำมาใช้ในพื้นที่สาธารณะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านสุขอนามัยและลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงภายในบ้าน เรื่องความปลอดภัยดังกล่าวไม่ได้เป็นข้อกังวลเท่าใดนัก การผสานรวมเทคโนโลยีเข้ากับบ้านจะเป็นเรื่องของความสะดวกสบายมากกว่า แต่เราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับระบบฝักบัว Smart Control ของ GROHE ซึ่งใช้นวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งฝักบัวได้ตามต้องการ และควบคุมอุณหภูมิและปริมาณการใช้น้ำได้อย่างง่ายดาย

โดยสรุปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนำเทรนด์ การใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือการให้ความสำคัญกับความยั่งยืน นักออกแบบ ช่างก่อสร้าง และสถาปนิกล้วนมีอิทธิพลที่จะผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในการออกแบบที่ครอบคลุม การอนุรักษ์น้ำ และความยั่งยืน แต่ที่สำคัญกว่านั้น ผู้ที่มองการออกแบบจากมุมของความเข้าอกเข้าใจ ความถี่ถ้วน และมีวิจารณญาณ จะมีความโดดเด่นกว่าคนอื่น เพราะตัวเขาเองนั้นกำลังเปลี่ยนชีวิตของผู้คนจำนวนมากให้มีชีวิตที่ดีขึ้น

สุขภัณฑ์ลิกซิล