สตีเบล เอลทรอน สร้างบุคลากรเพื่อนวัตกรรมยั่งยืน

ยุพา ทัศศรี-โรลันด์ เฮิน
ยุพา ทัศศรี-โรลันด์ เฮิน

สตีเบล เอลทรอน (STIEBEL ELTRON) บริษัทชั้นนำจากประเทศเยอรมนี ผู้ผลิตเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำน้ำร้อน เครื่องกรองน้ำ ตู้กดน้ำดื่ม ฮีตปั๊ม ปั๊มน้ำ และเครื่องเป่ามือที่โฟกัสชัดเจนเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ตลอดจนขั้นตอนการผลิต ทั้งยังมีการทดสอบอย่างเข้มงวด เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีความทนทานเพียงพอสำหรับการใช้งานอย่างยาวนาน

โดยล่าสุดบริษัทแสดงจุดยืนสำหรับปี 2566 ด้วยการมุ่งหน้าดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนผ่านการบริหารจัดการวัฒนธรรมองค์กร การจัดสรรสวัสดิการ และการพัฒนาศักยภาพให้แก่พนักงาน รวมถึงระบบการจัดการทรัพยากรบุคคล ตลอดจนโอกาสในการเติบโตของบุคลากรทั้งในปัจจุบันและอนาคต

โรลันด์ เฮิน
โรลันด์ เฮิน

“โรลันด์ เฮิน” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด กล่าวว่า จุดเริ่มต้นธุรกิจของสตีเบล เอลทรอน เป็นธุรกิจครอบครัว ก่อตั้งโดย “ดร.ธีโอดอร์ สตีเบล” ในประเทศเยอรมนี เมื่อปี 2467 ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงานต่ำ มีความปลอดภัย และความสะดวกยิ่งขึ้น

จากนั้นสตีเบล เอลทรอน เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นแบรนด์ระดับโกลบอล มีโรงงานผลิตในเยอรมนี 4 แห่ง และโรงงานผลิตในประเทศอื่น ๆ อีก 4 แห่ง โดยมีประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น ที่ก่อตั้งเมื่อ 25 ปีที่แล้ว

“ปัจจัยความสำเร็จของ สตีเบล เอลทรอน ที่ชัดเจนคือ มีความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี เน้นคุณภาพ และสร้างนวัตกรรม ปัจจุบันเราเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ที่มีผลิตภัณฑ์ในตลาดโลกที่เน้นเทคโนโลยีสีเขียว และทุ่มเทให้กับการวิจัยอย่างมาก โดยทุกครั้งที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จะลงทุนกว่า 30% กับการประกันคุณภาพ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสินค้าได้มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างสูงสุด”

นอกจากนั้น บริษัทยังให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านพลังงานสู่ระบบพลังงานที่ยั่งยืน และคาร์บอนต่ำ โดยส่งเสริมการลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งเป็นพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป เพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก และฟื้นฟูโลกจากภาวะโลกร้อนที่กำลังเกิดขึ้น

ADVERTISMENT

ด้วยเหตุนี้ บริษัทแม่จึงก่อตั้ง energy campus ที่สำนักงานใหญ่ในเมือง Holzminden ประเทศเยอรมนี เพื่อมอบความรู้สู่โลกอนาคต โดยมีหน้าที่นำเสนอโครงการหลักสำหรับการผลิตสินค้าที่ยั่งยืนและประหยัดพลังงาน ทั้งยังเป็นศูนย์ฝึกอบรมด้านสถาปัตยกรรมและเทคโนโลยี ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมาสื่อสาร แลกเปลี่ยนความรู้ และถ่ายทอดความเชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง

“โรลันด์” กล่าวด้วยว่า พนักงานคือปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้บริษัทเติบโต ตอนนี้สตีเบล เอลทรอน มีพนักงาน 5,400 ทั่วโลก สำหรับประเทศไทยมีพนักงาน 658 คน ที่เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน ผมมาที่นี่เมื่อ 25 ปีที่แล้ว เริ่มธุรกิจด้วยตัวเองกับพนักงานเพียง 2-3 คน

ADVERTISMENT

จากจุดเล็ก ๆ เราเติบโตและเป็นที่ยอมรับในตลาดแรงงานเพิ่มขึ้น ในฐานะที่ผมเป็นคนต่างชาติที่ทำงานร่วมกับคนไทย ผมจะให้ความสำคัญกับการเปิดใจรับฟัง เรียนรู้จากข้อผิดพลาด และปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมไทย

“ส่วนการหาคนมาร่วมงาน ทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และการสัมภาษณ์ไม่ได้ทำให้เราเห็นความสามารถของคนที่แท้จริง ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการมองหาคนที่อาจไม่ได้เก่งที่สุดในด้าน hard skills แต่ต้องเป็นคนที่มี soft skills คือมีความสามารถด้านอารมณ์ พัฒนาตนเอง ความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะการสื่อสาร และทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น”

เรามีแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดบริษัทลูกในประเทศที่เวียดนามเมื่อปี 2565 และกำลังจะลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตฮีตปั๊มในไทย จากแต่เดิมที่มีฐานผลิตฮีตปั๊มอยู่ที่เยอรมนีและสวีเดน เพราะขณะนี้ตลาดต่างประเทศมีความต้องการฮีตปั๊มอย่างมาก โดยเฉพาะออสเตรเลีย การที่มีโรงงานในไทยจะช่วยให้เราส่งออกไปออสเตรเลียง่ายขึ้น

นอกจากนั้น เราจะพยายามนำนวัตกรรมฮีตปั๊มเข้าถึงผู้ใช้ตามบ้านในประเทศไทยด้วย ซึ่งการเติบโตของบริษัททำให้ต้องการคนเพิ่มขึ้น และเราจะพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการทำงานมากขึ้น

ยุพา ทัศศรี
ยุพา ทัศศรี

“ยุพา ทัศศรี” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด กล่าวเสริมว่า สตีเบล เอลทรอน เอเซีย เริ่มจากการเช่าสำนักงานเล็ก ๆ ในกรุงเทพฯ จนกระทั่งมีพนักงานเพิ่มขึ้นเป็น 50 คน ก่อนที่จะย้ายไปที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ในปี 2549

ซึ่งพนักงานทุกคนย้ายตามกันมาทั้งหมด เพราะพนักงานมีความผูกพันกับองค์กรค่อนข้างสูง โดยส่วนใหญ่มีอายุการทำงานประมาณ 10 ปี อัตราการลาออกสำหรับพนักงานทั่วไปอยู่ที่ 1.2% ส่วนพนักงานขายประมาณ 0.5%

“เราให้ความยืดหยุ่นในด้านการจ้างงานกับพนักงาน เช่น พนักงานขาย เราให้โอกาสพวกเขาออกไปขายสินค้ากับบริษัทอื่น ๆ ในช่วงฤดูร้อน เช่น เครื่องปรับอากาศ และกลับมาทำงานกับเราใหม่ในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ยอดขายเครื่องทำน้ำอุ่นสูงที่สุด

นอกจากนั้น เรามีสวัสดิการที่รองรับความสะดวกสบายให้พนักงาน เช่น รถรับ-ส่งระหว่างกรุงเทพฯ และอยุธยา มีหอพักให้พนักงานที่มีภูมิลำเนาจากต่างจังหวัด มีการให้ความช่วยเหลือเมื่อพนักงานประสบความลำบาก”

“ทั้งยังมีแรงจูงใจสำหรับพนักงานที่อยู่ครบ 5 ปี, 10 ปี, 15 ปี จะได้รับโบนัส 5,000, 10,000 และ 30,000 บาท ที่สำคัญ เราไม่เคยปลดพนักงาน หรือลดเงินเดือน แม้กระทั่งช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง น้ำท่วมครั้งใหญ่ หรือโรคระบาดโควิด-19 และเราปรับตัวให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่ด้วย เพื่อดึงดูดพวกเขาเข้าองค์กร โดยมีการทำงานแบบไฮบริด สามารถเลือกเวลาการเข้างานได้

ทั้งยังให้ความสำคัญกับความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เพศ เชื้อชาติ สีผิว ที่สำคัญยังเปิดรับคนพิการเข้ามาทำงาน โดยจัดสรรให้ทำงานตามความสามารถ เพื่อสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียมในการสร้างรายได้ให้กับคนกลุ่มนี้”

“ยุพา” กล่าวด้วยว่า บริษัทเสนองานที่ท้าทายและโอกาสในการพัฒนาส่วนบุคคลให้กับพนักงาน โดยเป้าหมายคือการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงาน และช่วยให้พวกเขาสร้างเส้นทางอาชีพในระยะยาว บริษัทจึงลงทุนในการฝึกอบรมขั้นสูงและการพัฒนาทักษะส่วนบุคคล

ทั้งหมดนี้คือวิธีการสร้างอนาคตองค์กรด้วยความยั่งยืนของ “สตีเบล เอลทรอน” ที่มีวัฒนธรรมการดูแลคนที่แข็งแกร่ง จนทำให้คนช่วยผลักดันองค์กรเติบโตและยั่งยืน