CareerAddict หนึ่งในแหล่งข้อมูลด้านอาชีพออนไลน์ชั้นนำของโลกในปัจจุบัน โดยให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญแก่ผู้อ่าน 14 ล้านคนต่อปี ได้เผยแพร่ข้อมูล 20 ประเทศที่มีเงินเดือนเฉลี่ยสูงสุด ปี 2023 ตามข้อมูลล่าสุดที่รวบรวมโดยธนาคารโลก (World Bank) ดังนี้
(อัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้คำนวณในบทความนี้ คือ 33.74 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ)
อันดับ 1 ลักเซมเบิร์ก
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 191,101 บาท
ลักเซมเบิร์ก ประเทศเล็ก ๆ เป็นประเทศที่มีรายได้ต่อหัวสูงที่สุด โดยมีแพทย์ ทันตแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และผู้บริหารระดับ C ที่ล้วนมีเงินเดือนหกหลัก โดยเฉลี่ยแล้วคนที่ทำงานในลักเซมเบิร์กมีรายได้ระหว่าง 94,371-297,856 ต่อเดือน ในขณะเดียวกัน ลักเซมเบิร์กยังเป็นประเทศที่ติดอันดับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก เนื่องจากมีมาตรฐานการครองชีพที่สูง
อันดับ 2 สวิตเซอร์แลนด์
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 179,334 บาท
สวิตเซอร์แลนด์ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์ เทือกเขาแอลป์ที่งดงาม ช็อกโกแลต ชีสแสนอร่อย และนาฬิกาหรู สวิตเซอร์แลนด์ยังมีชื่อเสียงในด้านเงินเดือนที่สูงอีกด้วย แต่ขณะเดียวกันก็มีชื่อเสียงในด้านค่าครองชีพที่สูงเช่นกัน
แท้จริงแล้วค่าใช้จ่ายรายเดือนของคนโสดเฉลี่ยอยู่ที่ 1,451.90 ฟรังก์สวิส (52,617 บาท) ในขณะที่อพาร์ตเมนต์แบบ 1 ห้องนอนนอกใจกลางเมืองจะมีค่าเช่าประมาณ 1,257.71 ฟรังก์สวิส (45,561 บาท) ต่อเดือน
อันดับ 3 นอร์เวย์
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 150,646 บาท
นอร์เวย์เป็นประเทศที่มีเงินเดือนเฉลี่ยสูงที่สุดในแถบสแกนดิเนเวีย และมีรายได้ต่อหัวสูงเป็นอันดับ 4 ของโลก (จากข้อมูลของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ)
นอกจากนี้ ยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ดีที่สุดสำหรับการอยู่อาศัย ตามรายงานการพัฒนามนุษย์ขององค์การสหประชาชาติ ในขณะเดียวกัน พนักงานที่ทำงานทางไกลควรพิจารณาที่จะย้ายมาทำงานที่นี่ เนื่องจากประเทศนี้มีโครงการวีซ่าทำงานทางไกลที่ดี
อันดับ 4 สหรัฐอเมริกา
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 149,943 บาท
ผู้คนจากทั่วโลกยังคงย้ายไปที่สหรัฐอเมริกาด้วยความหวังว่าจะก้าวหน้าในอาชีพการงาน ด้วยบริษัทชั้นนำของโลกหลายแห่งที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นี่ รวมถึง Google และ Amazon จึงมีความต้องการผู้หางานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยี การดูแลสุขภาพ และการเงิน สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเพิ่มงาน 8.3 ล้านตำแหน่งภายในปี 2574
อันดับ 5 เดนมาร์ก
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 148,079 บาท
ในฐานะบ้านเกิดของเลโก้ ลิตเติล เมอร์เมด และฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซ็น เดนมาร์กมีหลายสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่าเดนมาร์กเป็น 1 ใน 5 อันดับแรกของประเทศที่มีรายได้ต่อหัวสูงที่สุดในโลก
นอกจากนี้ ยังมีตลาดงานที่แข็งแรงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีความต้องการแรงงานในภาคธุรกิจ วิทยาศาสตร์ อาหารและเครื่องดื่ม กฎหมาย และการก่อสร้างสูง
อันดับ 6 ไอซ์แลนด์
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 124,701 บาท
ไอซ์แลนด์เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยม ไม่เพียงแต่ในแง่ของเงินเดือนเท่านั้น แต่ยังมีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำอีกด้วย ดัชนีสันติภาพสากลโลก (PDF) ปี 2565 จัดอันดับให้ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ค่าจ้างในไอซ์แลนด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยสถิติของไอซ์แลนด์รายงานว่าเพิ่มขึ้น 5.2% ระหว่างเดือนมกราคมถึงธันวาคม 2565
อันดับ 7 สวีเดน
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 125,265 บาท
ไม่ใช่เพียงเงินเดือนสูง แต่สวีเดนมีหน่วยงานภาครัฐขนาดใหญ่ โดยทั่วไปงานภาคเอกชนจะได้รับเงินเดือนมากกว่าภาครัฐ แต่ที่สวีเดนเงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนในภาคเอกชนคือ SEK 36,000 (125,479 บาท) และภาครัฐ SEK 36,000 (118,866 บาท) งานที่ได้ค่าตอบแทนดีที่สุดบางงานในสวีเดน ได้แก่ ทนายความ นักบิน และศัลยแพทย์
อันดับ 8 เนเธอร์แลนด์
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 118,922 บาท
นอกจากกังหันลมและทุ่งดอกทิวลิปแล้ว เนเธอร์แลนด์ยังขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่น่าทำงานที่สุดแห่งหนึ่ง โดยมีตลาดงานที่ดีและอัตราการว่างงานต่ำ ในความเป็นจริง มีตำแหน่งงานว่างมากกว่าผู้หางานที่สามารถจ้างงานได้ทันที ณ สิ้นปี 2564 ตามข้อมูลของ EURES ระบุว่า เนเธอร์แลนด์มีความต้องการอย่างมากในด้านการศึกษา อีคอมเมิร์ซ และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ
อันดับ 9 สิงคโปร์
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 118,228 บาท
ในฐานะประเทศในเอเชียเพียงประเทศเดียวที่ติด 10 อันดับแรก ค่าจ้างรายเดือนเฉลี่ยของสิงคโปร์ต่อพนักงานประจำอยู่ที่ 5,847 ดอลลาร์สิงคโปร์ (149,974 บาท) แม้ว่าประเทศนี้จะมีอัตราค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูง แต่ก็มีอัตราการว่างงานที่ต่ำที่สุดแห่งหนึ่งในโลก (2.1%)
และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี การเงิน วิศวกรรม และการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศัลยแพทย์ได้รับเงินเดือนสูงสุดในสิงคโปร์ เฉลี่ย 12,339 ดอลลาร์สิงคโปร์ (316,327 บาท) ต่อเดือน
อันดับ 10 ไอร์แลนด์
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 116,591 บาท
แม้ว่าไอร์แลนด์จะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีวันหยุดนักขัตฤกษ์น้อยที่สุด แต่พนักงานจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งการลาหยุดตามกฎหมายโดยได้รับค่าจ้าง 4 สัปดาห์ การลาเพื่อผู้ดูแล 104 สัปดาห์ และลาคลอดบุตรสูงสุด 26 สัปดาห์ งานที่มีรายได้สูงในไอร์แลนด์ ได้แก่ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาซอฟต์แวร์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย และผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ
อันดับ 11 ออสเตรเลีย
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 113,032 บาท
ออสเตรเลียมีชื่อเสียงในด้านธรรมชาติ ชายหาดที่สวยงาม และการส่งออกดนตรี เช่น Kylie Minogue และ Sia ออสเตรเลียมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและมั่นคงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสในการทำงานมากมายในออสเตรเลีย ด้วยเงินเดือนเฉลี่ย 35.04 เหรียญออสเตรเลีย (841 บาท) ต่อชั่วโมง
อันดับ 12 ฟินแลนด์
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 112,371 บาท
ฟินแลนด์ยังเป็นที่รู้จักกันในนามประเทศที่มีทะเลสาบนับพัน ฟินแลนด์เป็นหนึ่งในตลาดงานที่แข็งแรงที่สุดในโลก และมีภาคบริการที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ งานในโรงแรมและการจัดเลี้ยง การพาณิชย์ การขนส่งและโลจิสติกส์ รวมถึงการดูแลสุขภาพเป็นที่ต้องการสูงเป็นพิเศษ โดยมีเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 43,761 ถึง 768,394 บาทต่อเดือน
อันดับ 13 กาตาร์
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 111,013 บาท
ด้วยอัตราการว่างงานต่ำที่สุดในโลก (0.3%) ตามข้อมูลของ World Bank กาตาร์มีการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีบริษัทจำนวนมากย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังประเทศในตะวันออกกลาง ซึ่งส่งผลให้มีความต้องการแรงงานสูงในเกือบทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณควรพิจารณาย้ายไปกาตาร์หากคุณทำงานในภาคการดูแลสุขภาพ การก่อสร้าง หรือน้ำมันและก๊าซ
อันดับ 14 ออสเตรีย
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 109,219 บาท
พระราชวังที่หรูหราในออสเตรียเป็นที่รู้จักดีจากคนทั่วโลก และเป็นประเทศผู้ผลิตคีตกวีเพลงคลาสสิกที่โด่งดังที่สุดในโลก เช่น Mozart และ Haydn ออสเตรียเป็นประเทศที่ต้องการคนทำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยี ธุรกิจ การเงิน การดูแลสุขภาพ และวิทยาศาสตร์ โดยเฉลี่ยแล้วเงินเดือนอยู่ที่ 2,000 ยูโร ถึง 6,500 ยูโรขึ้นไป (73,351 ถึง 238,406 บาทขึ้นไป) ต่อเดือน
อันดับ 15 เยอรมนี
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 108,041 บาท
ด้วยเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เงินเดือนสุทธิรายเดือนเฉลี่ยของประเทศที่ €2,636 (96,453 บาท) การทำงานในเยอรมนีสร้างรายได้มากกว่าค่าเฉลี่ยของยุโรป ในขณะเดียวกัน เงินเดือนสูงสุดในประเทศมักจะจ่ายให้กับแพทย์ ทนายความ ผู้บริหารธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี
อันดับ 16 อิสราเอล
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 105,564 บาท
หลังจากอัตราค่าจ้างตกต่ำในช่วงกลางปี 2565 ในปี 2566 เงินเดือนก็กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งในอิสราเอล โดยเพิ่มขึ้น 4.7% ระหว่างเดือนกันยายน 2564 ถึงกันยายน 2565 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีได้ค่าจ้างที่มากขึ้น (9.9%) ในขณะที่มีงานเพิ่มขึ้น 10% ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ทำให้อิสราเอลเป็นจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักพัฒนา นักวิเคราะห์คอมพิวเตอร์ และนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล
อันดับ 17 เบลเยียม
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 102,651 บาท
เบลเยียมมีชื่อเสียงระดับโลกในด้านการผลิตเบียร์ ช็อกโกแลต วิศวกรรม เครื่องมือวิทยาศาสตร์ สิ่งทอ และยานยนต์ เบลเยียมมีมาตรฐานการครองชีพและการศึกษาสูง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากทำงานต่างประเทศ ในขณะเดียวกัน เงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนมักจะสูงที่สุดในเมืองหลวงของประเทศอย่างบรัสเซลส์ ที่ 4,381 ยูโร (160,703 บาท)
อันดับ 18 สหราชอาณาจักร
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 101,917 บาท
แม้ว่าการออกจาก EU ของสหราชอาณาจักรในปี 2563 ทำให้อัตราการเติบโตของอัตราค่าจ้างลดลงทั่วประเทศ แต่อัตราค่าจ้างก็ได้เพิ่มขึ้นสูงถึง 11% สำหรับตำแหน่งงานว่างที่ในภาคส่วนที่มีอัตราเงินเดือนต่ำ เช่น การก่อสร้าง การต้อนรับ และการทำความสะอาดระหว่างปี 2562 ถึง 2564 และแม้จะมีค่าครองชีพที่เหมาะสม แต่วิกฤตการณ์ทางการเงินในปัจจุบันของสหราชอาณาจักรทำให้การแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งงานนั้นรุนแรงกว่าปกติมาก
อันดับ 19 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 99,932 บาท
ในฐานะศูนย์กลางธุรกิจของตะวันออกกลาง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับมืออาชีพในอุตสาหกรรมการให้คำปรึกษา บริการทางการเงิน การก่อสร้างและวิศวกรรม ในขณะเดียวกัน พนักงานประจำที่ทำงานครบ 1 ปี ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมใด มีสิทธิลาพักผ่อนประจำปี 30 วันโดยได้รับค่าจ้าง แต่สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการทำงานในยูเออีคือ ไม่เสียภาษีเงินได้
อันดับ 20 แคนาดา
เงินเดือนเฉลี่ย (ประมาณ) 98,479 บาท
ในฐานะแหล่งกำเนิดของน้ำเชื่อมเมเปิล ฮอกกี้น้ำแข็งร่วมสมัย และผู้ชนะรางวัลแกรมมี่ 5 สมัย คือ เซลีน ดิออน แคนาดามีเงินเดือนเฉลี่ยสูงสุดที่อันดับ 20 การทำงานในแคนาดาให้มากกว่ารายได้ที่สบาย แม้ว่ารวมถึงระบบการรักษาพยาบาลชั้นนำ การลาที่ได้รับค่าจ้าง และวันหยุดที่รวมถึงการลาเพื่อพ่อแม่และมารดา
- เครือข่ายแรงงานขอ “ปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 712 บ.” ทั่วประเทศ จากเดิม 492 บ.
- วันแรงงานแห่งชาติ กับ 7 ข้อเรียกร้อง แก้ประกันสังคม-รับอนุสัญญา ILO
- ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เคาะแล้ว สูงสุด 354 บาท มีผล 1 ต.ค. 2565
- ปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 492 บาททั่วประเทศ ผู้นำแรงงานเร่งรัฐดำเนินการ
- ปรับค่าแรง 492 บาท ตอบโจทย์สินค้าแพง ค่าครองชีพขึ้นราคาหรือไม่
- เปิด 14 ข้อเรียกร้องวันแรงงานปี’65 จ่ายค่าจ้างเป็นธรรม-คุมราคาสินค้า