
การวิจัยเชิงสำรวจโดยไอแอลโอ ระบุแรงงานข้ามชาติที่ทำงานบ้านในสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย มีสภาพการทำงานที่ย่ำแย่ พร้อมชี้ให้เห็นว่างานบ้านเป็นงานที่จำเป็นต้องใช้ทักษะ
วันที่ 16 มิถุนายน 2566 รายงานวิจัยฉบับใหม่โดยองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) หัวข้อ การศึกษาเผยให้เห็นการใช้แรงงานบังคับกับแรงงานข้ามชาติที่ทำงานบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุว่า มีการปฎิเสธไม่ให้สิทธิแรงงานและการคุ้มครองทางสังคมกับแรงงานข้ามชาติ นำไปสู่การแสวงหาประโยชน์และการบังคับใช้แรงงานในตลาดแรงงานที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ข้อค้นพบจากการศึกษานี้ยังชี้ให้เห็นว่า แรงงงานทำงานบ้านจำเป็นต้องใช้ทักษะต่าง ๆ ในการทำงาน และเสนอให้มีการยอมรับทักษะโดยสะท้อนในรูปการกำหนดค่าจ้าง และชั่วโมงการทำงาน เช่นเดียวกับงานประเภทอื่น ๆ
การสำรวจนี้ ILO ได้สัมภาษณ์แรงงานทำงานบ้านจำนวน 1,201 คน ระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2565 ในประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ผลการสำรวจพบว่า แรงงานข้ามชาติที่ทำงานบ้านซึ่งเป็นผู้ตอบแบบสำรวจในประเทศมาเลเซียมีสภาพการจ้างงานที่เข้าข่ายคำนิยามเชิงสถิติของ ILO ว่าด้วย “แรงงานบังคับ” ร้อยละ 29 ขณะที่แรงงานทำงานบ้านซึ่งเป็นผู้ตอบแบบสำรวจในประเทศสิงคโปร์ที่เข้าข่ายนิยามนี้มีจำนวนร้อยละ 7 และสำหรับประเทศไทยมีจำนวนร้อยละ 4
ทั้งนี้ ตัวชี้วัดที่แสดงถึงความไม่สมัครใจในการทำงาน ได้แก่
- การที่แรงงานไม่สามารถลาออกจากงานได้
- ต้องทำงานเกินกว่าที่ตกลงไว้
- ต้องทำงานโดยไม่ได้รับค่าล่วงเวลา และอื่น ๆ
ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานและการให้ค่าจ้างต่ำเป็นการปฎิบัติที่ทำกันทั่วไปกับแรงงานข้ามชาติที่ทำงานบ้านในทุกประเทศที่สำรวจ ในทั้ง 3 ประเทศ พบว่าโดยเฉลี่ยแล้วแรงงานทำงานบ้านผู้ตอบแบบสำรวจทำงานเกินกว่าชั่วโมงการทำงานที่กำหนดไว้ในกฎหมายสำหรับแรงงานประเภทอื่น ๆ และเมื่อพิจารณาเทียบกับชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์ตามมาตรฐานสากลแล้ว ไม่มีแรงงานทำงานบ้านผู้ตอบแบบสอบถามรายใดในการสำรวจได้รับค่าจ้างตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
“แอนนา เองบลอม” (Anna Engblom) หัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิชาการ โครงการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิแรงงานข้ามชาติ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (TRIANGLE in ASEAN Programme) กล่าวว่า งานบ้านเป็นงานที่สำคัญที่สุดงานหนึ่งในสังคม แต่กลับได้รับการคุ้มครองน้อยที่สุด ซึ่งไม่ควรถูกยอมรับได้อีกต่อไป

งานบ้านเป็นงานไร้ทักษะ ?
นอกจากนั้น การศึกษานี้ได้ท้าทายวาทกรรมที่ว่า “งานบ้านเป็นงานทีไร้ทักษะ” หรือมีทักษะต่ำ โดยพบว่าแรงงานทำงานบ้านต้องใช้ทักษะแรงงานระดับกลางอย่างสม่ำเสมอในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำงานให้การดูแล ทักษะเหล่านี้ถือเป็นทักษะระดับ 2 ตามการจัดประเภทอาชีพตามมาตรฐานสากล (ISCO) ซึ่งต้องใช้ทักษะทางเทคนิคมากขึ้น
และต้องใช้ทักษะในเชิงบูรณาการ เช่น ทักษะการสื่อสารและความสามารถในการพูดภาษาท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม ระดับทักษะเหล่านี้ไม่ได้รับการยอมรับเพื่อประกอบการพิจารณากำหนดค่าจ้างหรือกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับสภาพการทำงานอื่น ๆ ของแรงงานทำงานบ้าน
“แรงงานทำงานบ้านต้องได้รับการยอมรับว่าเป็นลูกจ้างที่มีทักษะ โดยต้องสะท้อนออกมาในรูปของค่าจ้างและสภาพการจ้างงาน เช่นเดียวกัน ช่องทางการย้ายถิ่นควรยอมรับความเป็นงานมีทักษะของงานบ้านด้วย บ่อยครั้งที่แรงงานข้ามชาติทำงานบ้านถูกจองจำให้ให้อยู่กับการจ้างงานที่มีข้อจำกัดคับแคบ การเปิดโอกาสให้แรงงานสามารถเปลี่ยนนายจ้างหรือเจรจาต่อรองเงื่อนไขสภาพการทำงานที่ดีขึ้น ดังเช่นแรงงานข้ามชาติที่มีทักษะ ในงานอื่น ๆ สามารถทำได้ จะทำให้โอกาสที่จะทำให้แรงงานถูกแสวงหาประโยชน์ลดลงอย่างมาก” เองบลอมกล่าวเสริม
แม่บ้านถูกจำกัดสิทธิ ร่วมสหภาพแรงงาน
ข้อค้นพบเพิ่มเติมจากการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า อัตราการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมของแรงงานข้ามชาติอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่จะซ้ำเติมการโดดเดี่ยวของแรงงาน และความเปราะบางต่อการถูกบังคับใช้แรงงาน
หลายรัฐยังจำกัดสิทธิของแรงงานทำงานบ้านในการรวมตัวและการเจรจาต่อรองร่วม ด้วยอุปสรรคทางกฎหมายและทางสังคมแรงงานทำงานบ้านยังคงถูกจำกัดความสามารถในการจัดตั้งสหภาพแรงงาน และในบางกรณี ไม่สามารถเข้าร่วมสหภาพแรงงานในประเทศที่ทำการศึกษา
ข้อเสนอแนะจากการศึกษานี้ยกตัวอย่างการให้สัตยาบันและการปฏิบัติตามอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศว่าด้วยแรงงานทำงานบ้าน พ.ศ. 2554 (ฉบับที่ 189) อนุสัญญาว่าด้วยแรงงานบังคับ พ.ศ. 2472 (ฉบับที่ 29) และพิธีสาร พ.ศ. 2557 ส่วนเสริมอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศว่าด้วยแรงงานบังคับ ฉบับที่ 29 พ.ศ. 2472 เพื่อประกันว่าแรงงานทำงานบ้านจะต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิ
ซึ่งอย่างน้อยที่สุดแล้ว จะต้องเท่าเทียมกับแรงงานประเภทอื่น ๆ ทั้งในเชิงกฎหมายและในภาคปฏิบัติ กรณีการบังคับใช้แรงงานควรต้องมีการดำเนินคดีอาญา และการเปลี่ยนแปลงนโยบายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีแรงงงานบังคับขึ้น ควรมีการสำรวจโอกาสที่จะทำให้ทักษะของแรงงานทำงานบ้านได้รับการยอมรับ และช่องทางการย้ายถิ่นควรมีความยืดหยุ่น เข้าถึงได้ และให้สิทธิตามหลักสากล
รายงานวิจัยเชิงสำรวจ ทักษะ ลักษณะการทำงาน และความเสี่ยงต่อการถูกบังคับใช้แรงงานของแรงงานข้ามชาติที่ทำงานบ้านในภูมิภาคอาเซียน จัดทำโดยโครงการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิแรงงานข้ามชาติ (TRIANGLE In ASEAN Programme) ได้รับการสนับสนุนโดยกระทรวงการต่างประเทศและการค้าออสเตรเลีย และกระทรวงการต่างประเทศ รัฐบาลแคนาดา (Global Affairs Canada)