
SX2023 มหกรรมความยั่งยืนที่ใหญ่สุดระดับอาเซียน ที่คนไทยควรไปเช็คอิน ชวนถอดรหัสการ “ลงมือทำ” เพื่อสร้าง “สมดุลที่ดี เพื่อโลกที่ดีกว่า”
วันที่ 3 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า งานมหกรรมความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน SUSTAINABILITY EXPO 2023 หรือ SX2023 เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจัดขึ้นต่อเนื่องปีนี้เป็นครั้งที่ 4 ภายใต้ธีม “ลงมือทำ” เพื่อร่วมสร้าง “สมดุลที่ดี เพื่อโลกทีดีกว่า” Good Balance, Better World ตั้งแต่วันนี้ – 8 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ที่มามหกรรมระดับอาเซียน
SUSTAINABILITY EXPO เริ่มก่อตั้งในปี 2563 เป็นการผนึกกำลังระหว่าง 5 องค์กรธุรกิจชั้นนำ ได้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด หรือ เอสซีจี, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), และ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มสู่มหกรรมด้านความยั่งยืนระดับภูมิภาค ที่นำเสนอโมเดลธุรกิจ B2C2B (Business-to-Consumer-to-Business) ซึ่งยึดผู้บริโภคเป็นแกนกลางในการดำเนินการเพื่อความยั่งยืน โดยเชื่อมโยงระหว่างองค์กรธุรกิจกับผู้บริโภค และผู้บริโภคจะเชื่อมโยงกลับสู่ภาคธุรกิจ
และยังได้ขยายเครือข่ายความร่วมมือไปยังองค์กรเอกชนที่มีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับประเทศและระดับโลก อาทิ ธนาคารออมสิน, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน),บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน),
มหาวิทยาลัยมหิดล, โรงพยาบาลเมดพาร์ค, บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ จำกัด, บริษัท เท็กซ์ไทล์ แกลลอรี่ จำกัด, บริษัท ไทย เบเวอร์เรจ แคน จำกัด, บริษัท ฮีโน่มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท รอยซ์ ยูนิเวอร์แซล จำกัด เป็นต้น
หัวใจหลักของการจัดงาน
“พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (sufficiency for sustainability) คือหัวใจหลักของการจัดงาน SX2023 จากการน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (sufficiency economy philosophy: SEP) ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางในการจัดงานด้านความยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก
ผนวกกับหลักเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ The Sustainable Development Goals (SDGs) มาสู่การปฏิบัติจริง ให้เกิดเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือ โดยมีเป้าหมายแห่งการปฏิบัติและเปลี่ยนแปลงร่วมกัน
ปีนี้ SX2023 พาผู้มาเยือนไปเกาะติดเทรนด์ยั่งยืนของโลกในทุกมิติ ทั้งที่เป็นเรื่องใกล้ตัว และสัมผัสโลกแห่งอนาคต โดยจัดเต็มไปด้วยกิจกรรม และสาระมากมายให้ร่วมสนุก และเพลิดเพลินไปกับความรู้รอบตัว ทั้งเรื่่องอาหาร สุขภาพ การใช้ชีวิตประจำวัน ไปจนถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ พลังงาน ความหลากหลายทางชีวภาพ บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ฯลฯ
รวมทั้งมีโมเดลต้นแบบด้านความยั่งยืนมิติต่าง ๆ ของภาคธุรกิจ ที่จะมาร่วมพลังเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับโลกใบนี้ให้น่าอยู่อย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
มหกรรมที่จะเป็นโอกาส
พิธีเปิดงาน SX2023 อย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ (2 ตุลาคม 2566) โดยมี “ฐาปน สิริวัฒนภักดี” ประธานอำนวยการ SX2023 และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวเปิดงาน และ “ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล” กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ปาฐกถาพิเศษ “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ Decade of Action”

“ฐาปน” กล่าวว่า งาน SX ริเริ่มมาจากงานที่มือชื่อว่า TSX (Thailand Sustainability Expo) เมื่อ 4 ปีที่แล้ว และได้ความกรุณาจาก “ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล” ในทุก ๆ ปี ในการบอกเล่า ถ่ายทอดเรื่องราวแนวทางการทำงานภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
“ผมเชื่อมั่นว่าผู้บริหารระดับสูงภาคเอกชน มีส่วนสำคัญในการบริหารความยั่งยืนภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และยังมีองค์กรอีกมากมายที่ได้น้อมนำมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติตลอดระยะเวลาหลาย 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น Index S&P Global ทั้งกว่า 12 บริษัทที่จดทะเบียนอยู่ภายใต้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทุกองค์กรให้ความสนใจและความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน
งาน SX2023 ทำให้ทุกคน ไม่ว่าจะภาคธุรกิจ ประชาชน คนทำงานเศรษฐกิจฐานราก นักเรียน นิสิตและนักศึกษา ได้เชื่อมต่อกัน ใกล้ชิดกันมากขึ้น และสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อ Good Balance, Better World”
งาน Sustainability Expo 2023 หรือ SX2023 ถือเป็นมหกรรมด้านความยั่งยืนที่จะเป็นโอกาส และเวทีกลางให้ทุกภาคส่วนได้มาร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยน เรียนรู้เรื่องความยั่งยืนร่วมกัน และขอขอบพระคุณในความร่วมไม้ร่วมมือ ที่เราเดินกันมาบนเส้นทางแห่งการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 4
ที่พร้อมสร้างสรรค์ และแบ่งปันคุณค่า เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนตระหนักรู้ และร่วมกัน ‘ลงมือทำ’ (Decade of Action) ให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก (SDGs) ภายในปี 2573 มาร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดี เพื่อโลกของเราให้น่าอยู่อย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

“ดร.สุเมธ” กล่าวว่า ขณะนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปทุกส่วน ดังนั้น เราต้องกลับมาดูพื้นฐานในชีวิต สิ่งที่น่ากลัวก็คือ มนุษย์ เพราะมนุษย์เป็นผู้สร้าง และมนุษย์เองก็เป็นผู้ทำลาย จากการสร้างขยะ สร้างมลพิษ และของเสียสู่โลก
“เราสามารถแก้ไขโดยใช้แนวทางที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงให้ความสำคัญคือ สอนให้เราพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน โดยควบคู่ไปกับความรู้ และคุณธรรม เพราะเป็นหลักปรัชญาที่ได้ชี้แนวทางการดำรงชีวิตไว้แล้ว โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทั้งจากภายในและภายนอก เพื่อให้เกิดความสมดุลและยั่งยืนได้อย่างแท้จริง”
8+2 โซน เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจ
งาน SX2023 เป็นงานเอ็กซ์โปเกี่ยวกับความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน บนพื้นที่จัดงานรวมกว่า 70,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย 8 โซน และ 2 พื้นที่กิจกรรม ดังนี้
1) โซน SEP หัวใจของความยั่งยืน
ตามหาความหมายที่แท้จริงของ SEP (SX Prologue) เปิดมิติคู่ขนานระหว่างโลกไร้สมดุลกับโลกแห่งสมดุลที่ดี ในรูปแบบ immersive multi media ที่ผสานความร่วมมือนำเสนอผลงานจากศิลปิน BAB ศิลปิน BAB 2018 คือ สนิทัศน์ ประดิษฐ์ทัศนีย์ (บีน) ผู้ใกล้ชิดและเข้าใจธรรมชาติ ผนวกกลุ่มสร้างแสงและเสียงร่วมสมัยร่วมกับภาพมหัศจรรย์บนพื้นโลก จาก NAT GEO
ถ่ายทอดผ่านแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งถือเป็นหัวใจของงาน สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญความเกี่ยวเนื่องระหว่างองค์ประกอบและนโยบายต่าง ๆ ด้านความยั่งยืน ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ
ข้อมูลและกิจกรรมในโซนนี้จะเป็นการกระตุ้นความคิด พร้อม ๆ กับสร้างแรงบันดาลใจ ชวนให้บุคคลและองค์กรต่าง ๆ ได้ร่วมกันหาทางออกที่จะสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยองค์รวมทั่วโลก อันจะนำมาซึ่งความสมดุลในการใช้ชีวิตของบุคคล การดำเนินงานขององค์กร และของโลก
2) โซน Better Me
เน้นย้ำให้ตระหนักรู้ว่า ทุกสิ่งที่จะดีขึ้นได้..เริ่มที่ตัวเรา ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ และการปรับมุมคิดในการใช้ชีวิตต่างวัยที่อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยมีโซน Good Health & Well Being Indoor Park ภายใต้กรอบคิดว่า “เราทุกคนสามารถกอบกู้โลกได้”
พร้อมทั้งอัพเดทเทรนด์สุขภาพ และสุดยอดนวัตกรรมทางการแพทย์ในรูปแบบของ application และ AI ที่ดีต่อเรา ดีต่อโลกในหลากหลายมิติที่สายรักสุขภาพไม่ควรพลาด พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม สู่แนวทางการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้จริง ใน 3 มิติ ได้แก่
2.1) สุขภาพกายเราดี สุขภาพโลกของเราดี (healthy life – healthy earth): พบกับนวัตกรรมการผลิตอาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืนและรักษาโลก เช็คความแข็งแรงของกายใจ ด้วยกิจกรรมที่จัดเต็มให้คนทุกเพศ ทุกวัยได้ท้าทายทั้งความสามารถและการสำรวจตนเอง โดยเฉพาะโรคที่ฮิตติดเทรนด์คนทำงาน ที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างไม่รู้ตัวอย่างโรคซึมเศร้า และออฟฟิศซินโดรม รวมถึงเทคโนโลยีการคัดกรองมะเร็งด้วยหุ่นยนต์ดินสอ
2.2) สังคมสูงวัย อยู่อย่างไรให้เป็นสุข (aging society): การวางแผนก่อนเกษียณ รวมทั้งการใช้ชีวิตอย่างมีสุขร่วมกันในสังคมต่างวัย พบกับกิจกรรมจำลองสถาณการณ์การเป็นผู้สูงอายุเพื่อเข้าใจและรู้จักการดูแลผู้สูงวัยอย่างถูกวิธี
2.3) การเรียนรู้ตลอดชีวิต (life long learning): นำเสนอโครงการและแนวคิดที่น่าสนใจที่ส่งเสริมการพัฒนาเยาวชน คนรุ่นใหม่ ตลอดจนการส่งเสริมแนวคิดด้านธุรกิจเพื่อสังคมสำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่ ที่มีต้นแบบเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้นำไปปรับใช้ในแผนของตนอง
3) โซน Better Living
นำเสนอกิจกรรมและโครงการที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือขององค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ที่ดำเนินการเพื่อส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม และสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (circular rconomy) และการยกระดับคุณภาพชีวิตที่เกิดจากการพัฒนาอย่างยั่งยืน
และการนำแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปใช้ตลอดกระบวนการผลิต ห่วงโซ่มูลค่า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์หรือ net zero ผ่านการนำเสนอในแง่มุมที่น่าสนใจและใกล้ตัว ในรูปแบบ Sustainable Living 24/7 Lifestyle ภายใต้ 4 แกนหลัก ได้แก่
3.1) การดูแลน้ำ (water stewardship): แนวทางในการดูแลบริหารจัดการน้ำ อันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเติบโตด้านเศรษฐกิจ
3.2) การลดคาร์บอน (decarbonization): หลากหลายมิติที่จะช่วยลดคาร์บอนพลังงานทางเลือกจากธรรมชาติที่หลากหลาย
3.3) ความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity): สะท้อนผลลัพธ์ของความยั่งยืนผ่านความหลากหลายทางชีวภาพที่เกิดขึ้นจากนโยบายความยั่งยืนของหลายหน่วยงาน องค์กรชั้นนำ
3.4) การจัดการของเสีย (waste management): ขยะทุกชิ้นมีที่ไป พบนวัตกรรมการบริหารจัดการขยะ ที่สามารถเพิ่มมูลค่า และแปรเปลี่ยนให้เป็นประโยชน์ ในมิติต่าง ๆ
รวมถึงมุมจัดแสดงเพื่อการเรียนรู้เรื่องการจัดการและวงจรที่ควรจะเป็นของบรรจุภัณฑ์ เคล็ดลับการใช้ชีวิตแบบ eco-living สะท้อนมุมมองในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเราเพื่อสิ่งแวดล้อม
4) โซน Better Community
เล่าเรื่องราวของสังคมที่รวมทุกคนไว้เป็นส่วนหนึ่ง ในการช่วยเหลือกันและกัน เพื่อสร้างความเท่าเทียม การเชื่อมโยงคน เชื่อมโยงเครือข่ายที่ทำหน้าที่สร้าง “ความปกติสุข” ในสังคมที่มีความหลากหลาย ผ่านมุมมองด้านต่าง ๆ
อาทิ ที่อยู่อาศัยเพื่อคนด้อยโอกาส พื้นที่สีเขียวในเมืองที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อความเป็นอยู่ของทั้งคน การปรับเมืองเพื่อการใช้ชีวิตของคนและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ การแก้ปัญหาคนไร้สัญชาติ การเปิดตลาดงานเพื่อตอบความต้องการที่แท้จริงของแต่ละบุคคล
รวมถึงการนำเสนอแนวทางการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตของแต่ละคน โดยเฉพาะความรับผิดชอบต่อสังคม ที่จะต้องมีการรวมตัวกัน การสืบสาน รักษา ต่อยอด มรดกทางวัฒนธรรม ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมถึงต้นแบบของการพัฒนาชุมชนให้เกิดความยั่งยืน ทั้งชุมชน เมือง และภูมิภาค
5) Better World
พบกับ SX Landmark และ Arts Exhibition ซึ่งรวบรวมงานศิลป์สะท้อนมุมมองความยั่งยืนในหลากหลายรูปแบบ อาทิ Nat Geo สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย และผลงานนานาชาติ 10 ประเทศ ASEAN ที่ยังไม่เคยจัดแสดงที่ใด จากโครงการ ASEAN SX PHOTO CONTEST และโครงการ Trash to Treasure เปลี่ยนขยะเป็นงานศิลป์ทรงคุณค่า พร้อมทั้งกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถมาร่วมแชร์ช่วงเวลาดีดีร่วมกัน
6) โซน Food Festival
เทศกาลอาหารเพื่อโลกจากเชฟชื่อดัง พบกับธีม Thai Street Food Museum ที่จำลองจุดแลนด์มาร์คชื่อดังร่วมสมัยในกรุงเทพฯ เมืองเก่าภูเก็ต และหัวเมืองสำคัญของไทยมาไว้ในหนึ่งเดียว พร้อมเสิร์ฟอาหารเลิศรสที่ดีต่อคุณ ดีต่อไทย ดีต่อโลก กับแนว zero-waste cooking เรียนรู้การจัดการขยะอาหารเพื่อความยั่งยืนแบบเต็มรูปแบบ
7) โซน SX Marketplace
รวบรวมร้านค้าจากดีไซเนอร์รักษ์โลก สินค้านวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม ต้นไม้สวย Garden and Farm สินค้าตกแต่งบ้านและสินค้าชุมชนกว่า 200 ร้านค้า ช็อปสินค้างานคราฟโดนใจเพื่อชุมชนและสังคม เรียนรู้เกี่ยวกับกิจกรรมผึ้งชันโรง ผึ้งจิ๋วคุณประโยชน์แจ๋ว และเวทีแชร์มุมมองทางธุรกิจการค้าขาย พลาดไม่ได้กับมุมพักผ่อนพร้อมจิบกาแฟจากร้าน HARVKIND คาเฟ่ในโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์แนวคิดยั่งยืน
8) โซน SX Kids Zone
SX Kids Zone ได้เปิดพื้นที่แห่งการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ผสมผสาน ทั้ง digital experience และ environmental พบกับสวนสนุกนอกห้องเรียน ที่สามารถสร้างจินตนาการ และเสริมทักษะให้แก่เด็ก ๆ ได้ กับกิจกรรมไฮไลท์มากมาย
- Chess Kid Club เสริมทักษะและวิธีคิด กับกิจกรรมหมากรุก
- ไขความลับแมลงตัวจิ๋ว (bug wonder)
- ศึกษาธรรมชาติรอบตัว (magic of nature)
- การเดินทางของอาหาร (fight food waste)
- ผู้พิทักษ์ขยะ (recycle station – เก็บ กลับ รีไซเคิล)
โซน rePartmentStore
จุดเรียนรู้การแยกขยะ และจุดดรอปพอยท์ มาแลกเปลี่ยนของนอกสายตา ที่อาจมีค่ากับคนอื่นอีกมาก มาส่งต่อเปลี่ยนโลกได้ที่ชั้น G, LG และอาคารพิพิธภัณฑ์สวนป่าเบญจกิติ (โรงงานผลิตยาสูบ 5) สวนเบญจกิติ ภายใต้แนวคิด รวมให้ รวมแบ่งปัน ซึ่งของเหล่านั้นสามารถ reduce, re-Use และ recycle เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีและสังคมไร้ขยะที่ยั่งยืน
โซน Park & Nature walk activities
ส่งท้าย เสาร์ อาทิตย์ สุดท้ายของงานกับกิจกรรมฮีลใจ ฮีลกาย ในสวนป่า กับกิจกรรมที่เชื่อมต่อจากลานกิจกรรม SX Kids Zone ที่หลังจากที่เด็ก ๆ และผู้ปกครอง ได้เรียนรู้เรื่องความยั่งยืน จากแหล่งธรรมชาติและแมลงแล้ว ก็สามารถมาสูดอากาศบริสุทธิ์ ในสวนป่าพื้นที่ขนาดใหญ่ นอกจากจะสานต่อจินตนาการแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูจิตใจพ่อแม่ ผู้ปกครอง ให้ทำกิจกรรมไปพร้อม ๆ กัน
มาร่วมกันสร้าง “สมดุลที่ดี เพื่อโลกที่ดีกว่า” Good Balance, Better World ในงานมหกรรมความยังยืนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนตั้งแต่วันนี้ที่จะพบกับกิจกรรมไฮไลท์ และสุดยอดนวัตกรรมมากมาย เพื่อร่วมสร้างพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อโลกแห่งอนาคตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน ทั้งในรูปแบบของนิทรรศการ มัลติมีเดีย และกิจกรรมมากมายให้ทุกคนก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ไปด้วยกันแบบไม่มีตกเทรนด์