
บมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป (THANA) ชูนโยบายบริบทแห่งความยั่งยืน 3E Thanasiri Well-Being Model ด้วยนโยบาย THANA GREEN โดยใช้ ESG เป็นตัวตั้ง ขับเคลื่อนทั้งในมิติผู้อยู่อาศัย สังคมรอบข้าง และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นายจรัญ เกษร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ บมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป (THANA) เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แนวทางการพัฒนาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของแบรนด์ “ธนาสิริ” นอกเหนือจากการทำผลประกอบการให้เข้าเป้าในเชิงธุรกิจแล้ว บริษัทยังคงเน้นแนวทาง ESG (Environment Social Governance) เป็นหลักด้วย
เพราะเป็นเทรนด์สำคัญที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นของกลุ่มลูกบ้านและลูกค้าในอนาคต ทั้งสามารถสร้างผลตอบเเทนได้ในระยะยาวในรูปแบบอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงินหรือกำไรอย่างเดียว
ที่สำคัญยังเป็นการสร้างโอกาสในการดึงดูดความสนใจของนักลงทุนยั่งยืนที่มีเเนวโน้มพิจารณาเลือกบริษัทจดทะเบียนที่เป็นสมาชิกของ Sustainability Index และผ่านการประเมินจัดอันดับตาม SET ESG Rating ซึ่งเป็นองค์กรที่ปรับตัวพัฒนารูปแบบการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับเเนวคิด ESG อย่างแท้จริง
“นิยามคำว่า บ้าน ในความหมายของธนาสิริ นอกเหนือจากตัวบ้านที่ครบถ้วนตอบโจทย์ในการใช้งานตามฟังก์ชั่น ดีไซน์ที่ทันสมัย คุณภาพที่วางใจได้แล้ว เรายังมุ่งหวังที่จะดูแลและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ๆ ให้กับคนทุกวัยอย่างต่อเนื่องด้วย”
รวมถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ทั้งภายในโครงการและสังคมรอบข้าง ทั้งการให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่เริ่มการพัฒนาโครงการจนแล้วเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเป็นแนวคิดหลัก
นั่นคือ 3E Thanasiri Well-Being Model ที่จะนำไปสู่ “บริบทแห่งความยั่งยืน หรือ Return on Sustainability” ที่เกื้อกูลกัน ทั้งผู้อยู่อาศัย สังคมรอบข้าง และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
แนวคิดดังกล่าวเทียบเคียงได้กับ ESG ที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนที่คำนึงถึงความรับผิดชอบของบริษัท 3 ด้านหลัก คือ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และการกำกับดูแล (Governance) สู่แนวทางในการกำหนดเป้าหมายและการดำเนินงาน
Total Green Real Estate Development-Services
คำว่า Green ในบริบทของ Total Green Real Estate Development – Services หรือ THANA GREEN นั้น ขับเคลื่อนผ่านมิติหลักสำคัญที่เกี่ยวข้องกับตัวบ้าน กระบวนการพัฒนาและ ผู้คน ตั้งแต่เริ่มแนวคิดการพัฒนา (Green Development Concept) จัดหาที่ดิน, ออกแบบ, นำเสนอลูกค้า, ก่อสร้าง,
ส่งมอบ ตลอดจนเข้าอยู่อาศัย
ทั้งยังสนับสนุนด้วยกระบวนการดำเนินงานภายในองค์กร และที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น บัญชีการเงิน, อำนวยการและกฎหมาย, ดูแลลูกค้าและสรรค์สร้างแบรนด์, พนักงาน และที่สำคัญกลุ่มพันธมิตรสีเขียวอีกด้วย
ใช้ ESG เป็นแนวทางในการกำหนดเป้าหมายและการดำเนินงาน
นายจรัญ เสริมข้อมูลว่า ด้วยผลจากความตั้งใจในการมุ่งสู่เป้าหมายแห่งความยั่งยืน ทำให้ปีที่ผ่านมาของธนาสิริได้รับการประกาศให้เป็น 1 ใน 193 บริษัทหุ้นยั่งยืนประจำปี 2566 ด้วยระดับคะแนน BBB สำหรับด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 140,000 KgCO2eq เทียบเคียงกับการปลูกต้นไม้ได้สูงถึงประมาณ 14,000 ต้น
ด้านสิ่งแวดล้อม-ลดการใช้กระดาษในทุกกระบวนการทำงาน, การใช้สื่อ Online และ Social Media ในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า, การโฆษณา/โปรโมตโครงการใหม่ ๆ, แนวทาง 1 ต้น 1 หลังในทุกโครงการ, การนำ Circular Eco Model มาประยุกต์ใช้กับกระบวนการก่อสร้าง, การขับเคลื่อนรณรงค์ผลักดันการอยู่อาศัย ภายใต้แนวทาง Green Clean Lean ด้วยการคัดแยกขยะ และการสร้างปุ๋ยอินทรีย์จากเศษใบไม้ รวมถึงการลดขยะเศษอาหาร และการนำน้ำกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่
ด้านสังคม-การรณรงค์ส่งเสริมการอยู่อาศัยร่วมกันอย่างใส่ใจ เอื้ออาทรกัน ผ่านทุกกิจกรรม Green ที่ขับเคลื่อนโดยผู้คนที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเพื่อเสริมสร้างทัศนจิตยั่งยืน (Green Mindset), การดูแลสุขภาวะและความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมและการทำงานของคนงาน, การสร้างความมั่นใจและปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว
ด้านการกำกับดูแล-ให้ความสำคัญกับความโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน เช่น การสรรหาที่ดินตั้งแต่การนำเสนอจนถึงโอนกรรมสิทธิ์, การเลือกธนาคารที่มีนโยบายด้าน GREEN และ ESG, การนำเสนอสื่อสารด้วยข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง ตรงไปตรงมา และเคารพในสิทธิส่วนบุคคล (PDPA), การประเมินผลความพึงพอใจการให้บริการ และนำผลมาวิเคราะห์หาแนวทางปรับปรุงการบริหารจัดการ และให้บริการกับผู้อยู่อาศัยในชุมชน
“เพราะบ้านที่ดี ไม่ใช่แค่มีกายภาพที่ถูกตาต้องใจ แต่สิ่งสำคัญคือจิตวิญญาณของสมาชิกทุกคนที่หลอมรวมและทำให้บ้านแต่ละหลังมีชีวิตชีวา และจะดียิ่งขึ้น หากทุกคนในครอบครัวพร้อมใจกันปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความยั่งยืนร่วมกันใส่ปุ๋ย รดน้ำ พรวนดิน เพื่อให้ต้นไม้แห่งความยั่งยืนเติบโตและงอกงามอย่างแข็งแรงในสังคมและโลกของเราต่อไป” นายจรัญ กล่าวทิ้งท้าย