
เนสท์เล่ ประเทศไทย ประกาศมุ่งสู่แผน Net Zero 2050 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 เพื่อความยั่งยืน พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “เล็กน้อยเปลี่ยนโลกได้” มุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์รวมพลังสร้างการเปลี่ยนแปลงให้โลกใบนี้
นางสาวเจนิกา คอนเด ครูซ หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมองค์กรและความยั่งยืน บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด นำทีม เนสท์เล่ ประเทศไทยแถลงข่าว ประกาศมุ่งสู่ Net Zero 2050 พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “เล็กน้อยเปลี่ยนโลกได้” ที่ at work ชั้น 3 ดิ ออฟฟิสเซส แอท เซ็นทรัล เวิลด์
นางสาวเจนิกา กล่าวว่า ในฐานะบริษัทอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก เนสท์เล่เชื่อมั่นในการมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาฟื้นฟูระบบอาหารและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่เกษตรกร ชุมชน และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณภาพ รสชาติอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ จากแหล่งผลิตที่ยั่งยืน โดย เนสท์เล่ ประเทศไทย ได้ดำเนินงานตามสองกลยุทธ์หลักที่สอดคล้องกับแนวทางดังกล่าว คือ ขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภค (Good for You) และขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อโลกของเรา (Good for the Planet) ที่มุ่งสู่ Net Zero หรือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ซึ่งในปี 2025 นี้ เนสท์เล่ ประเทศไทย มีความคืบหน้าด้านการขับเคลื่อนความยั่งยืนในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง

นางสาวเจนิกา กล่าวต่อว่า เรามีกลยุทธ์ Good for the Planet ซึ่งมุ่งมั่นที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์และการดำเนินงานของเรามีความยั่งยืนเป้าหมาย Net Zero 2050 ตั้งแต่ฟาร์มไปสู่มือผู้บริโภค เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูระบบอาหารอย่างยั่งยืนในวงกว้าง โดยในปี 2021 เนสท์เล่ ประเทศไทย ได้เปิดเแผนการดำเนินงานด้านความยั่งยืนสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจนเหลือศูนย์ภายในปี 2050 (Nestlé Thailand Net Zero 2050 Roadmap) และมีความคืบหน้าในปี 2025 ตามแผนงานใน 4 มิติ ดังนี้ จัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน , ดูแลและจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน , ความยั่งยืนด้านบรรจุภัณฑ์ และ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
“ซึ่งภายใต้แผนงาน Net Zero เนสท์เล่ ประเทศไทย สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 20% แล้วก้าวต่อไป เนสท์เล่ ประเทศไทย จะยังคงเลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยคาร์บอน เดินหน้าสู่เป้าหมายต่อไป คือการลดการปล่อยคาร์บอน 50% ภายในปี 2030” หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมองค์กรและความยั่งยืน บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าว
นางสาวเจนิกา กล่าวอีกว่า นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์และมุ่งมั่นดำเนินงานอย่างยั่งยืนแล้ว เนสท์เล่ยังให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้ผู้บริโภคใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนมากขึ้น ด้วยการสานต่อแคมเปญการสื่อสารครบวงจร “ Every Little Act Matters
เล็กน้อยเปลี่ยนโลกได้” เป็นปีที่ 4 เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยทำสิ่งเล็กน้อย ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อการมีส่วนร่วมในการดูแลและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเพื่อโลกของเราอย่างต่อเนื่อง”
“แนวคิดหลักของแคมเปญในปีนี้มาจากอินไซต์ผู้บริโภคที่พบว่าทุกคนต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลง แต่บางครั้งเรายังสงสัยว่า คน ๆ เดียว หรือการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเราจะมีความหมายหรือไม่ เนสท์เล่จึงมุ่งทำให้ทุกคนมั่นใจว่า การทำสิ่งเล็กน้อย ง่าย ๆ ในทุกวัน สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายได้ เมื่อทุกคนร่วมมือกัน โดยเนสท์เล่ จะลงทุนในการสื่อสารครบวงจรเพื่อให้เข้าถึงคนไทยมากกว่า 20 ล้านคนทั่วประเทศ เนสท์เล่ ประเทศไทยจะยังคงดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายต่อไปในปี 2030 ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ 50% และก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 ให้สำเร็จ งานทั้งหมดจะประสบความสำเร็จไม่ได้ถ้าขาดการทำงานร่วมมือกับทุกภาคส่วน ดังนั้นสิ่งที่เรามุ่งหวังคือการร่วมงานกันอย่างแข็งแกร่งต่อไป” นางสาวเจนิกา กล่าว