
ปิดฉากอย่างสวยงาม กับ RECO Collective 2025 โดย บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) โชว์ของ 6 แบรนด์ SMEs ที่ได้นำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในเชิงพาณิชย์ เป็นการตอกย้ำถึงบทบาทของแบรนด์เหล่านี้ ในการกำหนดอนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น
โครงการ RECO Collective 2025 เริ่มมาจากความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนความยั่งยืนให้กลายเป็นความได้เปรียบทางธุรกิจ โดยสนับสนุนแบรนด์น้องใหม่ผ่านแหล่งทรัพยากร การให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และการสร้างเครือข่ายในอุตสาหกรรม โครงการนี้ยังส่งเสริมให้บริษัทแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และของตกแต่งบ้าน นำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ โดยเฉพาะเส้นใย PET รีไซเคิล (rPET) ที่มาจากขวด PET
โครงการริเริ่มนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของการออกแบบหมุนเวียน (Circular Design) ผสมผสานความยั่งยืนเข้ากับความสามารถในการสร้างผลกำไร และการวางตำแหน่งให้ SMEs เป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่านสู่โมเดลการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
“อาราธนา โลเฮีย ชาร์มา” รองประธานบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า โครงการ RECO Collective ไม่ได้เป็นเพียงเวทีแสดงผลงานเท่านั้น แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการลงมือทำ โดยการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับพลังของการรีไซเคิลและการเปลี่ยนแปลง ทำให้ความทะเยอทะยานนี้กลายเป็นความจริง
“ภารกิจของโครงการคือการส่งเสริมให้ SMEs หรืออุตสาหกรรมขนาดย่อมในท้องถิ่นสามารถนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในผลิตภัณฑ์ของตนเองได้ เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถขยายธุรกิจและสร้างรายได้เพื่อการเลี้ยงชีพในกลุ่มย่อยของตัวเอง ขณะเดียวกันก็ผนวกความยั่งยืนเข้ากับกลยุทธ์การเติบโตของตนเอง”
RECO Incubation Lab คือ หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของ RECO Collective โดยเป็นโปรแกรมการฝึกอบรมและให้คำปรึกษาแบบเข้มข้นเป็นเวลา 2 วัน โดยมอบข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจอันมีคุณค่า
และกรณีศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมให้กับ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการ โดยมีพันธมิตรอย่างเป็นทางการของ RECO Collective อาทิ Jaspal Group และ Ecotopia ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การขยายธุรกิจค้าปลีก
กลุ่ม Thai Taffeta แบ่งปันความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการจัดหาวัสดุที่ยั่งยืน
ส่วนค่าย Dapper นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์อีคอมเมิร์ซ และ Gaysorn Amarin ให้คำแนะนำแบรนด์ต่าง ๆ เกี่ยวกับการวางตำแหน่งแบรนด์ลักเซอรี่
RECO Collective 2025 กำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในภูมิทัศน์ทางธุรกิจ โดยทำให้แนวคิดการหมุนเวียน (Circularity) ไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกอีกต่อไป
แต่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม ผ่านการให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ ความร่วมมือด้านค้าปลีก และการมุ่งเน้นความยั่งยืนที่ขับเคลื่อนด้วยธุรกิจ
ทั้งนี้ อินโดรามา เวนเจอร์ส กำลังส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมกับผลักดันการพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน PET และโพลีเอสเตอร์ที่ยั่งยืนในระยะยาว
6 แบรนด์ โชว์นวัตกรรมยั่งยืน
งาน RECO Collective 2025 Final Show มุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาตลอดระยะเวลา 5 เดือนของโครงการ ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความคิดสร้างสรรค์
ภายในงานได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์ของ 6 แบรนด์ SMEs ที่โดดเด่น ที่สามารถผสมผสานกับความยั่งยืน เพื่อให้เข้ากับศักยภาพในการทำตลาดเชิงพาณิชย์ได้อย่างลงตัว ได้แก่
“Mobella” แบรนด์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความเป็นไทย นำเสนอคอลเล็กชั่น ZERO ซึ่งเป็นนิยามใหม่ของเฟอร์นิเจอร์แบบ Zero-waste ที่ผลิตมาจากวัสดุรีไซเคิล PET (rPET) 100% โดยผสานงานหัตถศิลป์ไทยแบบดั้งเดิม เข้ากับแนวคิดความยั่งยืนสมัยใหม่
“Anew.Craft.Studio” ด้วยการผสานงานฝีมือไม้สักแบบดั้งเดิมเข้ากับดีไซน์สมัยใหม่ แบรนด์นี้ใช้เทคนิค Shou Sugi Ban ในการสร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์ด้วยดีไซน์เฉพาะตัว มีความทนทาน โดยใช้วัสดุเหลือทิ้งน้อยที่สุด
“Daybreak” การนำเสนอรองเท้าไลฟ์สไตล์สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งผลิตจากเส้นใยป่านธรรมชาติ แบรนด์นี้ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งผสมผสานเส้นทางมรดกของการเดินป่าเข้ากับความอเนกประสงค์ที่ทันสมัย
“Endless Holiday” คอลเล็กชั่น Very Endless Holiday สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการแฟชั่นที่ยั่งยืน โดยผสมผสานลายพิมพ์ที่เป็นเอกลักษณ์ โทนสีสันที่สดใส และวัสดุที่เป็นนวัตกรรม
“tISI” คอลเล็กชั่น VANCANS ของแบรนด์นี้ ผสมผสานผ้าจากเส้นใย rPET เข้ากับงานทอผ้าพื้นเมือง ช่วยให้มั่นใจว่า ความยั่งยืนนั้นทั้งมีสไตล์และใช้งานได้จริง
“KH EDITIONS” ด้วยคอลเล็กชั่น SIAM ISLAND แบรนด์นี้ได้ผสมผสานเทคนิคงานฝีมือและอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างสรรค์การผสมผสานระหว่างศิลปะและแฟชั่น ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากทิวทัศน์ชายฝั่งของประเทศไทย