
“ถนนสีลม” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของเทศกาลสงกรานต์ เมื่อปีที่แล้วมีคนมาร่วมงานมากถึง 137,000 คน ขณะเดียวกัน “ปริมาณขยะ” ก็มีมากตามจำนวนคน โดยระบุว่า วันที่ 14 เมษายน 2567 มีขยะรวมทั้งสิ้น 33,510 กิโลกรัม
ทาง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ซึ่งมีอาคารสำนักงานใหญ่บนถนนสีลม จึงร่วมกับ “กรุงเทพมหานคร” ประกาศยกระดับ “เทศกาลสงกรานต์สีลม” ในมิติใหม่ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
โดยปี 2568 หน่วยงานภาครัฐ เอกชนและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ได้จัดอีเวนต์สงกรานต์ระดับโลก ผลักดันวัฒนธรรมไทยสู่ Soft Power ในชื่อ “CP Splash in Space” รณรงค์ “สงกรานต์ไร้ขยะ” ตั้งจุดรับทิ้ง “ขันและถังพลาสติก” เพื่อมอบแก่มูลนิธิกระจกเงา
“ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯ กทม.ว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยกลับมาสู่สภาวะปกติแล้ว กรุงเทพฯ และประเทศไทยพร้อมจะเดินหน้าต่อไปเพื่อเฉลิมฉลองได้อย่างเต็มที่ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั่วโลกว่า “ประเทศไทยกลับมาแล้ว”
กทม.ร่วมกับซีพีเอฟและกระทรวงวัฒนธรรม จัดงานสงกรานต์โดยเปลี่ยนถนนสีลมให้เป็นถนนแห่งความสุข เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของจริง ซึ่งไม่มีที่ไหนในโลกเหมือนเรา รวมถึงมิติการแต่งกายกางเกงไก่ กางเกงช้าง ใส่เบาสบายคลายร้อนก็เป็นสัญลักษณ์ไทยแท้
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและรณรงค์ให้ทุกคนช่วยลดขยะ สร้างความรับผิดชอบต่อสังคม อันเป็นแนวทางการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
“ชัชชาติ” เสริมว่า ปีนี้เป็นปีของการแยกขยะ กทม.มีหน่วยจัดการแยกขยะให้บริการตามพื้นที่ต่าง ๆ อยู่ทั่วเมือง ทั้งแบบเปียกและแห้ง โดยซีพีเอฟได้จัดตั้งถังแยกขยะที่เป็นการรีไซเคิลถังน้ำ-ขันน้ำไปใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย
“สงกรานต์ปีนี้ ขอให้มีขยะน้อยที่สุด และขอให้ทิ้งแบบแยกประเภทด้วย”
“พรพัน วัฒนสินธุ์” ผู้อำนวยการเขตบางรัก กล่าวว่า ส่วนใหญ่ขยะสีลมที่มาจากการเล่นน้ำ เช่น แป้ง ขันพลาสติก ปีนี้ได้ร่วมกับซีพีเอฟนำไปบริจาคให้มูลนิธิกระจกเงา เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
ส่วนของ กทม.มีการแยกขยะอยู่แล้ววันต่อวัน หลังจบงาน 1 วันจะทำความสะอาดและล้างถนนทันที ในส่วนของความปลอดภัย มีฝ่ายเทศกิจและตำรวจคอยดูแลมากกว่าพันนาย และมีกล้องวงจรปิดตลอดถนนสีลม
“ปีนี้เขตบางรักไม่อนุญาตให้ตั้งแผงลอย-ร้านค้าริมถนน เพื่อช่วยลดขยะตั้งแต่ต้นน้ำ และลดปัญหาเรื่องความสะอาดด้วยเช่นกัน”
“ประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ” ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์เป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ทรงพลัง บริษัทมีนโยบายสนับสนุนเพื่อตอกย้ำจุดแข็งประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักของทั่วโลก
พร้อมกับจัดกิจกรรมบริเวณหน้าบ้านซีพีทาวเวอร์ สีลม ด้วยการโชว์ความสำเร็จของบริษัทไทยในการทำไก่ไทยไปอวกาศ ภายใต้ธีม CP Splash in Space ประหนึ่งเล่นน้ำในอวกาศ
ซึ่งมีทั้งหมด 5 ไฮไลต์ ได้แก่ GIANT ASTRONAUT หุ่นนักบินอวกาศขนาดสูงเท่าตึก 2 ชั้น ตั้งอยู่ใจกลางสีลม จะมาฉีดน้ำสร้างความชุ่มฉ่ำแก่ผู้คนที่ผ่านไปหน้าอาคาร C.P.Tower สีลม
SPLASH BATTLE แข่งยิงปืนฉีดน้ำกับนักบินอวกาศชาย/หญิง ต้องยิงโดนเป้ากระดาษบนตัวของฝั่งตรงข้าม ผู้ชนะรับรางวัลเป็น “กางเกงไก่อวกาศ”
DJ SPLASH เวที DJ สร้างบรรยากาศแบบ EDM ผสมผสานทั้งดนตรีเพลงไทยและสากล แดนซ์กันให้สนุกสุดเหวี่ยงทะลุอวกาศตลอดงาน
Zero-G Kitchen โซนแจกอาหารสุดล้ำ ไม่แคร์แรงโน้มถ่วง นักบินอวกาศลอยตัวเสิร์ฟเมนูไก่มาตรฐานอวกาศ ถึงมือชาวสีลมในช่วงเทศกาลด้วย
สำคัญที่สุด “สงกรานต์ต้องไร้ขยะ” จะมีจุดรับขันน้ำและถังน้ำพลาสติกหลังเล่นเสร็จ เพื่อส่งต่อแก่ผู้ที่ต้องการ เป็นการช่วยลดขยะ ลดโลกร้อน กิจกรรมทั้งหมดจะช่วยให้ กทม.และการท่องเที่ยวมีความยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น และไปต่อได้ในอนาคต
“ซีพีเอฟให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วยการรณรงค์การเล่นน้ำอย่างรับผิดชอบ ลดขยะพลาสติก โดยมีจุดรับบริจาคขันน้ำและถังน้ำที่ใช้เล่นสงกรานต์แล้ว นำไปมอบให้มูลนิธิกระจกเงา เพื่อนำไปใช้ประโยชน์และสร้างคุณค่าแก่สังคมต่อไป รวมถึงสนับสนุนอาหารและน้ำดื่มแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานรักษาความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย” ประสิทธิ์กล่าวทิ้งท้าย