เปิด 8 ข้อปฏิบัติเทรนด์ “เที่ยวเชิงอนุรักษ์” ธรรมชาติ-ชุมชนได้ประโยชน์อย่างไร ?

ท่องเที่ยว ธรรมชาติ

เปิดข้อปฏิบัติ เที่ยวตามเทรนด์ฮิต “ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์” ทำอย่างไร พร้อมทำความรู้จักความหมายและประโยชน์ที่ได้ของชุมชนและสิ่งแวดล้อม

ผ่านมาเกือบสัปดาห์ แต่วิดีโอตักเตือนนักท่องเที่ยวทำกิจกรรมทางทะเลอย่างการจับและให้อาหารสัตว์ของทราย สก๊อต ที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยังคงเป็นกระแสพูดถึง ทั้งจากตัวตนของทรายเองที่โลกออนไลน์อยากจะทำความรู้จัก และยังมีประเด็นการใช้คำพูด “หนีห่าว” ของนักท่องเที่ยวที่ส่อถึงการเหยียดสัญชาติ

แต่ประเด็นใหญ่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ หนีไม่พ้นการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ ที่หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้นก็สบโอกาสตระหนักถึงการท่องเที่ยวธรรมชาติแบบไม่ต้องทำลาย หรือทำให้สถานที่นั้นเสื่อมสภาพหรือคุณค่าลง หรือที่เรียกกันว่า การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

ความหมายของ “เที่ยวเชิงอนุรักษ์”

การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (Ecotourism) หมายถึง การเที่ยวที่คำนึงถึงธรรมชาติ หรือแหล่งวัฒนธรรมอันมีความเกี่ยวเนื่องกับระบบนิเวศของสถานที่นั้น ๆ โดยที่ไม่ก่อการรบกวน หรือความเสียหายต่อธรรมชาติ หรือระบบนิเวศ ในขณะเดียวกันยังเป็นการช่วยส่งเสริมวิถีชุมชนโดยรอบให้มีคุณภาพชีวิต หรือคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ องค์การการท่องเที่ยวโลก (UNWTO) ยังนิยามการท่องเที่ยวเชิงนิเวศไว้ว่า เป็นการท่องเที่ยวทางธรรมชาติในทุกรูปแบบ โดยมีแรงจูงใจหลักคือการให้นักท่องเที่ยวได้สังเกตและชื่นชมธรรมชาติ ตลอดจนวัฒนธรรมดั้งเดิมที่แพร่หลายในพื้นที่ธรรมชาตินั้น ๆ ในขณะเดียวกันการท่องเที่ยวก็ต้องสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนท้องถิ่นด้วย โดยมีเป้าหมายหลัก คือ สิ่งแวดล้อมและชุมชน

อย่างที่ทราบกันว่าการท่องเที่ยวเชิงนิเวศถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศที่เปราะบางของพื้นที่ธรรมชาติ นี่จึงถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติในพื้นที่ ซึ่งจะต้องดำเนินไปตามเงื่อนไข เพื่อไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อธรรมชาติ

ADVERTISMENT

โดยต้องการให้ผู้มาเยือนพื้นที่ได้ซึมซับวัฒนธรรมและเรียนรู้ขนบธรรมเนียมท้องถิ่นผ่านการมาใช้ชีวิตในชีวิตในชุมชนภายในพื้นที่ทางธรรมชาติ ซึ่งการท่องเที่ยวเชิงนิเวศถือเป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่ชุมชนอย่างมาก เนื่องจากการท่องเที่ยวดังกล่าวเปิดโอกาสให้เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ทางเลือกให้ทั้งชุมชนท้องถิ่น องค์กร และหน่วยงานที่บริหารจัดการตามพื้นที่ธรรมชาตินั้น ๆ

ซึ่งเทรนด์การท่องเที่ยวนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก หลังการระบาดของโควิด-19 ลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีจุดเด่นตรงที่นอกจากจะเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวลักษณะหนึ่งแล้ว ยังช่วยส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตและคุณภาพสิ่งแวดล้อมของท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่น หรือกลุ่มคนในท้องถิ่น ให้มีความมั่นคง และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

เที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทำอย่างไร ?

เชื่อว่า การใช้คำว่า “เชิงอนุรักษ์” อาจทำให้หลายคนเข้าใจในแง่มุมของความยากลำบาก หรือคิดหนักว่าเที่ยวอย่างไรให้ไม่ทำลาย ไม่รบกวน แต่เทรนด์นี้ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เปรียบเทียบง่าย ๆ คล้ายกับการเดินป่าสัมผัสธรรมชาติแบบที่หลายคนชอบทำ แต่เน้นไปที่ลดการสร้างขยะที่ส่งผลเสียต่อธรรมชาติ โดยมีวิธีการเตรียมตัวและข้อปฏิบัติง่าย ๆ ดังนี้

1. วางแผนการเดินทางอย่างรัดกุม เพื่อช่วยประหยัดปริมาณการใช้น้ำมัน

2. จัดกระเป๋า โดยเน้นปริมาณของที่จำเป็น เพื่อสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย

3. ลดอุปกรณ์ที่อาจจะก่อให้เกิดผลเสียต่อธรรมชาติ เช่น ทิสชูเปียก หรือพลาสติก

4. พกภาชนะใส่อาหารไปเอง เพื่อลดการใช้ภาชนะที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อธรรมชาติ

5. พกถุงขยะส่วนตัวไปเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขยะในบริเวณดังกล่าวที่อาจจะส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ หรือสัตว์ที่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง

6. หลีกเลี่ยงการขีดเขียน หรือทำสัญลักษณ์ใด ๆ ลงบนต้นไม้ โขดหิน หรือโบราณวัตถุต่าง ๆ

7. หลีกเลี่ยงการนำสิ่งของจากธรรมชาติติดไม้ติดมือกลับบ้าน

8. สนับสนุนธุรกิจชุมชน เพื่อก่อให้เกิดการหมุนเวียนรายได้ของคนในพื้นที่

ข้อมูลจาก Reader’s Digest , thewisetravellers และ Queensland Government