
การจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นกลไกสำคัญในการลดและบรรเทาปัญหาสิ่งแวดล้อม ตามหลักการวิเคราะห์วัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังแสดงถึงความรับผิดชอบและจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และเลขาธิการองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เปิดเผยว่า ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 20 ของประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุด และอยู่อันดับต้น ๆ ของประเทศที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาก๊าซเรือนกระจก
ตามยุทธศาสตร์ชาติ ที่กำหนดให้มีการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs จึงเป็นส่วนสำคัญที่ต้องพูดถึง แม้ว่าไทยจะมีการดำเนินการที่ถือว่าทำได้ดี แต่ยังดีไม่พอ SDG Index ปี 2024 ชี้ว่า ไทยอยู่อันดับ 45 ของโลก อันดับ 3 ของเอเชีย และเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน
ดังนั้น SDGs ข้อที่ 12 การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน ในข้อนี้ไทยอยู่ในระดับสีส้ม การที่จะทำให้เป็นสีเขียวได้จำเป็นต้องมีการประเมินวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (LCA) หรือก็คือ ฉลากเขียว เพื่อให้เกิด “การจัดซื้อจัดจ้างที่ยั่งยืน” ส่งเสริมให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการผลิตและการบริโภคสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนไปสู่กระบวนการผลิต และการบริโภคที่ยั่งยืนในทุก ๆ มิติ ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานองค์กรภาคธุรกิจไทยไปสู่องค์กรต้นแบบธุรกิจคาร์บอนต่ำและยั่งยืน

“ดร.จิรัฏฐ์ สิริเฉลิมพงศ์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บอกเล่าว่า คำว่าเขียวไม่เท่ากับความยั่งยืน บริษัทจึงได้มีแนวคิด “Build Today…Beyond Tomorrow…ที่สุดของนวัตกรรมเพื่อพรุ่งนี้ที่ยั่งยืนกว่า” พร้อมสร้างก้าวต่อไปด้วยนวัตกรรมสินค้าก่อสร้างที่มีคุณภาพที่ให้ความสำคัญกับผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทาน ทั้งทางตรงและทางอ้อม บนพื้นฐานของการรักษาสิ่งแวดล้อมและสังคม
จระเข้มีการดำเนินงานในทุกมิติสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2065 ภายใต้การยึดหลัก 3P คือ Green Process (เราอยู่ได้), Green Planet (โลกอยู่ดี) และ Green People (สังคมมีสุข)
พร้อมขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์ 5SD ที่ครอบคลุมตั้งแต่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดปริมาณขยะและของเสีย ลดการใช้สารพิษและฝุ่น เพิ่มสัดส่วนสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิต
ปัจจุบันมียอดขายสินค้ากลุ่ม Green Products สูงถึง 63% จากสินค้าทั้งหมด และได้รับการรับรอง EPD แล้วกว่า 30 ตัว และในเชิงสังคม มีการจัดทำจระเข้อะคาเดมีร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และเตรียมเซ็นเอ็มโอยูกับกรมอาชีวศึกษาในการพัฒนาฝีมือสู่แรงงานสีเขียวในเร็ว ๆ นี้

“เบญจพร นำศิริ” Supply Chain Director บริษัท แซง-โกแบ็ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท Saint-Gobain กำหนด Responsible Purchasing สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัท ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่องค์กรนำมาใช้ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
เริ่มจากการกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในการเลือกวัตถุดิบ สินค้า และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งส่งเสริมให้พนักงานมีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงบทบาทของตนในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน ตลอดจนมีการคัดเลือกผู้จัดจำหน่ายที่มีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม มีแนวทางลดคาร์บอนฟุตพรินต์ และร่วมกันขับเคลื่อนเป้าหมาย Net Zero Carbon ภายในปี 2593
เป้าหมายของกลุ่มธุรกิจคือ “Making the world a better home” การบูรณาการกระบวนการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความเชื่อมั่นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และบรรลุเป้าหมายได้ในที่สุด
“ต่อศักดิ์ หิรัญโญภาส” Operation Director-Drying and Firing Technology บริษัท สยามไฟเบอร์กลาส จำกัด เสนอแนวคิดว่า ปัจจุบันปัญหาโลกร้อน เป็นปัญหาระดับโลกที่ทุกคนกำลังเผชิญ และต้องเร่งแก้ปัญหาร่วมกัน
เอสซีจีและสยามไฟเบอร์กลาส ได้ตระหนักและเห็นความสำคัญทั้งนโยบายและการร่วมมือกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในการผลักดันกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน บริษัท สยามไฟเบอร์กลาส จำกัด ได้การรับรองฉลากเขียว (Green Label) มาอย่างยาวนาน จากกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วัตถุดิบหลักที่ใช้เศษขวด Recycle มาใช้ในการผลิตสินค้า ทำให้ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของโลกและประหยัดพลังงานในการหลอม
โดยตั้งแต่ปี 2009 ใช้เศษขวดแตกที่ใช้แล้ว มากกว่า 420 ล้านขวด อีกทั้งสินค้าฉนวนกันความร้อนเอสซีจี เป็นสินค้าที่ตอบโจทย์เรื่องการช่วยประหยัดพลังงาน โดยถ้ามีการใช้ฉนวนกันความร้อนในบ้าน เครื่องปรับอากาศจะทำงานน้อยลง สามารถประหยัดไฟเฉลี่ย 900 KWh/เครื่อง/ปี จะช่วยโลกลดการปลดปล่อย CO2 จากการผลิตไฟฟ้าได้มาก
“ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองฉลากเขียว จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยโลกเรื่องสิ่งแวดล้อม ภาคธุรกิจไทยที่มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ การจัดซื้อจัดจ้างมีความสำคัญในการเลือกใช้วัสดุ สินค้า ที่มีการรับรองด้านสิ่งแวดล้อม จะสร้างความยั่งยืนให้กับภาคธุรกิจไทยและโลกในอนาคต”

วิภาดา นาคไพรัช ผู้อำนวยการสายงาน SHE & Quality Management and Sustainability บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บอกเล่าว่า ทีโอเอให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “Greenovation” เพื่อให้อาคารและสิ่งปลูกสร้างสามารถส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่มนุษย์และระบบนิเวศ
ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์สี ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการสร้างสรรค์ความงามและความสุนทรีย์ แต่ยังก้าวความไปสู่บทบาทสำคัญในการบรรเทาวิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะโลกร้อน ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างครอบคลุมตลอดวัฏจักรชีวิตของอาคาร ตั้งแต่กระบวนการก่อสร้างไปจนถึงการใช้งาน
ด้วยเหตุนี้ ภาคธุรกิจไทยจึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน “การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน” (Sustainable Consumption and Production) เพื่อเป็นการยกระดับประเทศสู่เศรษฐกิจและสังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ตอบสนองนโยบายของประเทศไทย ที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2065 ตามเป้า