บทเรียนนอกตำรา AP Open House 2017

ต้องยอมรับว่า การเรียนรู้ในโลกปัจจุบัน ไม่ได้มีเพียงแค่ในตำราเรียนและในห้องเรียนเท่านั้น หากการเรียนรู้ในโลกยุคดิจิทัล ยุคข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็วกลับมีช่องทางหลากหลายที่เราทุกคนสามารถเข้าถึง และการเรียนภาคทฤษฎีกับภาคปฏิบัติก็ต้องไปพร้อม ๆ กัน

ดังนั้นการได้เห็น สัมผัส และลงมือทำจริง จึงถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการปิดช่องระหว่างการเรียน เพื่อเตรียมตัวสู่โลกแห่งการทำงานจริง แต่กระนั้น จะต้องมีทักษะและประสบการณ์ที่มาจาก soft skill เพื่อมาช่วยเสริม hard skill อีกทางหนึ่งด้วย

ดังเช่นความตั้งใจของ เอพี อะคาเดมี่ (AP Academy) ของ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบุคลากรทั้งภายในและภายนอกองค์กรจากวงการอสังหาริมทรัพย์ให้มีความก้าวหน้าในระดับสากล โดยผ่านโปรแกรมฝึกอบรม และการทำเวิร์กช็อปต่าง ๆ ภายใต้โครงสร้างหลัก 3 ส่วน ที่ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย คือ

หนึ่ง AP Property School – มุ่งเน้นการพัฒนา และยกระดับมาตรฐานการทำงานของบุคลากรของเอพีในทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งส่งมอบสินค้าและบริการ ตามมาตรฐานของเอพี

สอง AP Symposium – เวทีเสวนาเพื่อการแบ่งปันองค์ความรู้ในการบริหารจัดการพื้นที่ (space) ในบริบทต่าง ๆ ให้กับนิสิต นักศึกษา ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่สนใจงานออกแบบ

สาม AP Open House – เพื่อเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ที่เป็นเมล็ดพันธุ์รุ่นใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ จากหลากหลายมหาวิทยาลัยมีโอกาสเข้ามาเรียนรู้กระบวนการทำงานจริงแบบเจาะลึก ตั้งแต่ภาคทฤษฎีไปจนถึงการปฏิบัติจริง

ADVERTISMENT

ทั้งนั้นเพื่อส่งเสริมให้นิสิต นักศึกษานำความรู้ในห้องเรียนมาประยุกต์ใช้กับการทำงานในพื้นที่จริง ทั้งยังได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพทางความรู้และความสามารถ ตลอดจนการสัมผัสประสบการณ์ตรงจากทีมงานมืออาชีพของเอพี และเพื่อเป็นทรัพยากรที่สำคัญของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยในอนาคตต่อไป

“ภูมิพัฒน์ สินาเจริญ” รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานทรัพยากรบุคคล บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) และผู้อำนวยการสถาบันเอพี อะคาเดมี่ กล่าวว่า โครงการเอพี โอเพ่นเฮ้าส์ 2017 : ชีวิตจริงยิ่งกว่าทฤษฎี ปีที่ 2 ภายใต้สถาบันเอพี อะคาเดมี่ มีเป้าหมายในการถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ เพื่อเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาฝึกฝนความคิดและทักษะ

ADVERTISMENT
ภูมิพัฒน์ สินาเจริญ

“โดยผ่านการลงมือปฏิบัติจริงอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และให้น้อง ๆ นิสิต นักศึกษาเห็นภาพรวมของการทำงานจริงอย่างเป็นรูปธรรม และมุ่งหวังพัฒนาเยาวชนรุ่นใหม่สามารถสร้างสรรค์โครงการคุณภาพ และตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันได้”

“โครงการฝึกงานเอพี โอเพ่นเฮ้าส์ปีนี้ เราจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 ความพิเศษของครั้งนี้คือนอกจากจะเน้นให้เกิดการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำจริง เรายังให้ความสำคัญกับการแบ่งปันองค์ความรู้ด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการก่อสร้างบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม จนถึงกระบวนการทางด้านการตลาดและการขาย”

สำหรับปีนี้มีนิสิต นักศึกษากว่า 1,400 คน จาก 38 สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ สมัครเข้าร่วมโครงการ และผ่านขั้นตอนการคัดเลือก เพื่อเข้าร่วมการฝึกงาน จำนวน 50 คน โดยแบ่งเป็นวิศวกรรมโยธา 30 คน, การตลาดและการขาย 20 คน

“ตลอดระยะเวลา 2 เดือนของการฝึกงาน นิสิต นักศึกษามีโอกาสเรียนรู้และเจาะลึกในทุกกระบวนการทำงานจริงต่อการพัฒนาที่อยู่อาศัย ตั้งแต่การวางแผนโครงการ การซื้อที่ดิน การวางแผนการก่อสร้าง ไปจนถึงการส่งมอบ และการบริการ หรือที่เรียกว่า property cycle time ตลอดจนการเรียนรู้เรื่องการทำงานเป็นทีม การยอมรับความเห็นต่าง โดยจะมีพี่เลี้ยงส่วนตัว ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากสายงานด้านวิศวกรรมโยธา, ด้านการตลาด และการขายของเอพีคอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด”

ไม่เพียงเท่านั้น ตลอดระยะเวลา 2 เดือน เรายังมีการเก็บคะแนนระหว่างการฝึกงาน ผ่านแบบทดสอบ และ final project เพื่อคัดเลือกตัวแทนนิสิต นักศึกษา จำนวน 4 คน เพื่อไปเยี่ยมชมและศึกษาดูงานการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กับพันธมิตรของเอพี คือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (MEC) ประเทศญี่ปุ่น เพื่อจุดประกายความคิดใหม่ ๆ ให้กับน้อง ๆ

ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน สร้างสรรค์ และพัฒนาองค์ความรู้ที่ได้รับไปสู่การสร้างนวัตกรรมการอยู่อาศัยแห่งอนาคตให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย พร้อมกับสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนในที่สุด

“ภูมิพัฒน์” กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับตัวแทนนิสิต นักศึกษาที่ไปเยี่ยมชมและศึกษาดูงานในโครงการ AP Open House 2017 ครั้งนี้ แบ่งเป็นตัวแทนจากโปรแกรมอบรมด้านวิศวกรรมโยธา ได้แก่ คมกฤช สิทธิการ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, วรนิษฐา โกมลพิสิฐ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร

ขณะที่ตัวแทนจากโปรแกรมอบรมด้านการตลาด และการขายคือ ศุภิสรา พงค์โสภี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ภัทรภร ลายอักษร นิสิตชั้นปีที่ 3 คณะครุศาสตร์ สาขาธุรกิจศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

“นิสิต นักศึกษาทั้ง 4 คนได้ไปเยี่ยมชมการพัฒนาที่อยู่อาศัย อสังหาริมทรัพย์ และการพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง จากต้นแบบธุรกิจการก่อสร้าง และการบริหารอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของญี่ปุ่น คือ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับเอพี”

“ไม่ว่าจะเป็น 3×3 Lab Future, Mitsubishi Jisho Home-Shibuya Gallery, The Parkhouse Azabu Gaien Nishi-Dori (Sales Gallery-Condominium) และ The Park House Shinjuku Gyoen (Construction Site-Condominium)”

“คมกฤช” หนึ่งในตัวแทนนักศึกษาจากโครงการ AP Open House 2017 กล่าวเสริมว่า การเข้ามาฝึกงานในโครงการเอพี โอเพ่นเฮ้าส์ ทำให้ได้เรียนรู้การทำงานจริงทั้งระบบ ตั้งแต่การวางแผนการทำงาน การพูดคุยกับเซลส์ถึงความต้องการของลูกค้า และการควบคุมดูแลงานการก่อสร้าง ทั้งหมดนี้เราได้ลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งทำให้รู้ว่าโลกของการทำงานจริงเป็นอย่างไร ต้องมีทักษะอะไรบ้าง ต้องแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างหน้างานด้วยวิธีการไหน ตรงนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีทฤษฎีในห้องเรียน

“และการที่ผมเป็นตัวแทนมาดูงานที่ญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นประสบการณ์สำคัญ เพราะว่าน้อยคนนักจะมีโอกาสที่จะได้เข้าไปดูการทำงานเกี่ยวกับการพัฒนา และให้บริการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำอย่างมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ซึ่งเป็นต้นแบบแห่งผู้คิดค้นนวัตกรรมที่ก้าวหน้าและทันสมัยของประเทศญี่ปุ่นแบบเจาะลึกและเต็มรูปแบบ”

ถึงตรงนี้ “ภูมิพัฒน์” กล่าวเสริมว่าเป้าหมายต่อไปของเอพี อะคาเดมี่จะมีการพัฒนาทั้งภายในและภายนอกอย่างต่อเนื่อง โดยภายในมีการขยายองค์ความรู้ด้านเทคนิคเพิ่มขึ้น และเน้นเรื่องการทำงานเป็นทีมมากกว่าการทำหน้าที่แบบ function เพื่อทำให้เกิดการทำงานแบบ collab-oration ที่มีลูกค้าและคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นเป้าหมายสำคัญ โดยมีการเพิ่มหลักสูตรการพัฒนาบุคคลที่เกี่ยวกับการเปลี่ยน mindset และเรื่องนวัตกรรมเข้าไป

“ส่วนภายนอกเรายังคงเดินหน้าร่วมมือกับหน่วยงาน องค์กร โดยเฉพาะสถาบันการศึกษาเพื่อยกระดับองค์ความรู้ด้านอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการพัฒนาหลักสูตรความร่วมมือให้มีความครอบคลุม และมุ่งเน้นให้เกิดการปฏิบัติจริง เพื่อปิดช่องว่างระหว่างทฤษฎีและการปฏิบัติ ทั้งยังคงโฟกัสใน 3 กลุ่มหลักคือ วิศวกร เซลส์ และมาร์เก็ตติ้ง เป็นสำคัญ”

อันสอดคล้องกับเป้าหมายของ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคล เพื่อพัฒนาวงการอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป