คอลัมน์ CSR Talk
มีการยกย่องว่า CDP เป็นมาตรฐานทองคำในการจัดอันดับการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมขององค์กร เมือง และประเทศ จัดทำโดย CDP ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรระดับโลก และดำเนินพันธกิจนี้มากว่า 20 ปี เพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนเปิดเผยข้อมูลอันเป็นจริงด้านสิ่งแวดล้อม ล่าสุด ผลจัดอันดับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมปี 2020 ประกาศออกมาแล้ว
โดย CDP ประเมินจากผลการดำเนินงานและความพยายามในการสร้างความโปร่งใสโดยใช้วิธีการที่ละเอียด และให้เกรดตั้งแต่ A-D โดยพิจารณาจาก 3 หัวข้อ คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การรักษาป่าไม้ และการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ซึ่งเกรด A และ A- คือ ระดับผู้นำ เกรด B และ B- ระดับบริหาร เกรด C และ C- ระดับการรับรู้ เกรด D และ D- ระดับการเปิดเผยข้อมูล และ F คือ ผู้ที่ไม่ให้ข้อมูลเพียงพอที่จะประเมิน หรือบริษัทที่ไม่เปิดเผยข้อมูล
หลายปีที่ผ่านมามีหลายองค์กรพยายามจัดทำรายงานด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อรับการจัดอันดับโดย CDP เพราะหากได้เกรดสูง ๆ จะช่วยส่งเสริมความน่าเชื่อถือของบริษัทต่อนักลงทุน ลูกค้า หรือแม้พนักงานในองค์กร
สำหรับผลประกาศการจัดอันดับของปี 2020 ปลายปีที่ผ่านมา มีบริษัทจำนวนทั้งสิ้น 9,600 แห่ง ที่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมผ่านทางแบบสอบถามของ CDP โดยลอรีอัลได้รับการยกย่องให้เป็นองค์กรผู้นำระดับโลกที่ได้เกรด A ทั้ง 3 ด้าน (AAA) และเป็นองค์กรเดียวที่ได้ A มาเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน
“ฌอง-ปอล แอกง” ประธานและซีอีโอของลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวว่า การได้เกรด A ทั้ง 3 ด้าน ถือเป็นการยอมรับในความมุ่งมั่นของบริษัทในการทำธุรกิจบนพื้นฐานความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลมาจากการวางเป้าหมาย
และการดำเนินการอย่างต่อเนื่องของลอรีอัลในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน การจัดการกับการตัดไม้ทำลายป่าในระบบห่วงโซ่อุปทานของบริษัท และสนับสนุนการบริหารจัดการแหล่งน้ำ ที่มีผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ตามโครงการเพื่อความยั่งยืนใหม่ L’Oreal for the Future ของลอรีอัลที่ประกาศไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2020
“ความยั่งยืนไม่ใช่เรื่องของการแข่งขัน แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันที่เราต้องจัดการอย่างจริงจังมาก ๆ เราจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน”
ขณะที่ “พอล ซิมป์สัน” ซีอีโอของ CDP กล่าวว่า ปี 2020 มีความท้าทายหลายด้าน นอกจากเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังมีความเสี่ยงสำหรับธุรกิจจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การตัดไม้ทำลายป่า และความไม่มั่นคงของแหล่งน้ำมีมหาศาล
“เราตระหนักว่าโอกาสในการลงมือทำนั้นมีคุณค่ามากกว่าที่จะนิ่งเฉย ดังนั้น รายชื่อผู้ที่ได้ A list จึงเป็นการยกย่องบริษัทที่กำลังเตรียมตัวสู่ความเป็นเลิศในระบบเศรษฐกิจแห่งอนาคตด้วยการลงมือทำในวันนี้”
ในปี 2020 เป็นครั้งแรกที่มีบริษัทถึง 10 แห่ง สามารถทำคะแนนได้เกรด A ทั้ง 3 ด้าน ซึ่งบริษัทเหล่านี้ล้วนทำงานที่สร้างแรงบันดาลใจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และแสดงความเป็นผู้นำในการจัดการกับภัยคุกคามมหาศาลที่โลกเรากำลังเผชิญอยู่
การเปิดเผยข้อมูลสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม เพราะเป็นการสร้างความตระหนักรู้ ช่วยการจัดการความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดในอนาคต ตลอดจนเป็นการแสดงให้เห็นถึงหลักปฏิบัติที่ดีที่สุด (best practices) ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม