รมว. แรงงานเยือน UAE เจรจาขยายตลาด สร้างอาชีพให้คนไทยในต่างแดน

ภาพ: REUTERS/Ahmed Jadallah

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานพบปะเอกอัครราชทูต ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หารือขยายตลาดแรงงานไทย โดยเฉพาะภาคธุรกิจบริการ

วันที่ 8 ธันวาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางไปพบปะและหารือข้อราชการด้านแรงงานกับนายวราวุธ ภู่อภิญญา เอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี (United Arab Emirates – UAE) ทั้งยังไปเป็นประธานงานฉลองความสัมพันธ์ไทย-ยูเออี ครบรอบ 45 ปี ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ที่ Thai Pavilion กรุงอาบูดาบี ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ส่งเสริมความร่วมมือด้านแรงงาน รวมถึงประชาสัมพันธ์ถึงฝีมือและความสามารถของแรงงานไทย ผลักดันการขยายตลาดแรงงาน สร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่คนไทย ซึ่งจะนำรายได้กลับสู่ประเทศไทย

ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความเป็นไปได้ในโอกาสของแรงงานไทยในการมาทำงานที่ยูเออี เนื่องจากแรงงานไทยเป็นที่ยอมรับ มีความสามารถและศักยภาพสูง โดยเฉพาะสาขางานภาคธุรกิจบริการ เช่น นวด สปา พ่อครัว แม่ครัวไทย ฯลฯ ซึ่งยูเออีเองเป็นประเทศที่ต้องการแรงงานต่างชาติสูงในหลายภาคส่วน

ADVERTISMENT

จึงเห็นควรให้มีโครงการความร่วมมือในการจัดส่งแรงงานไทยมาทำงานในยูเออี ด้วยการกำหนดโควตานำเข้าแรงงาน โดยเฉพาะในภาคธุรกิจบริการ เพื่อให้แรงงานไทยมีสัดส่วนในตลาดแรงงานยูเออีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาแรงงานลักลอบทำงานผิดกฎหมายได้อีกด้วย

นอกจากนั้น การเยือนครั้งนี้เพื่อการสานต่อการพิจารณาปรับปรุงแก้ไข MOU การจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานใน UAE ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาระหว่างกรมการจัดหางาน และกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ รวมทั้งการสนับสนุนกิจกรรมของสถานเอกอัครราชทูตเพื่อพัฒนาประเทศไทย ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีอีกด้วย

ADVERTISMENT

รมว.สุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลโดยท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ตนเดินทางมาพบปะหารือและเปลี่ยนข้อราชการด้านแรงงานกับท่านเอกอัครราชทูต

“ในนามกระทรวงแรงงานขอขอบคุณท่านเอกอัครราชทูต ที่ให้การดูแลท่านอัครราชทูตที่ปรึกษา และเจ้าหน้าที่ของฝ่ายแรงงาน รวมถึงดูแลแรงงานไทยในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่เหมาะสม ได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย”

ADVERTISMENT

การพบปะและหารือข้อราชการด้านแรงงานกับเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ครั้งนี้ มี พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางปลิดา ร่วมคำ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงานเข้าร่วมด้วย

ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (7 ธันวาคม 2564) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้พบปะนายจ้างและตรวจเยี่ยมแรงงานไทยที่ทำงานด้านบริการ ณ โรงแรม Anatara Mangroves สำหรับแรงงานไทยที่ไปทำงานด้านบริการในโรงแรมดังกล่าว เป็นการจ้างตรงและเดินทางผ่านกรมการจัดหางาน 12 คน

อยู่ในส่วนการต้อนรับของโรงแรม 5 คน ร้านอาหารแม่โขง 4 คน และอนันตราสปา 3 คน ปัจจุบันมีความต้องการแรงงานไทยประมาณ 6-8 คน ในส่วนของโรงแรม ร้านอาหารและสปา พร้อมหารือกับผู้ประกอบการเพื่อขยายตลาดแรงงานในภาคบริการด้วย

นายสุชาติ กล่าวว่า แรงงานไทยที่ทำงานในต่างประเทศถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากแต่ละปีมีรายได้ส่งกลับประเทศไทยเพื่อพัฒนาประเทศประมาณปีละ 200,000 ล้านบาท กระทรวงแรงงานได้มีการก่อตั้งสำนักงานแรงงานไทยในต่างประเทศ 12 แห่งทั่วโลก และฝ่ายแรงงาน ณ กรุงอาบูดาบี คือหนึ่งในสำนักงานแรงงานไทยในต่างประเทศ ที่มีหน้าที่ช่วยแรงงานไทยดูแลผลประโยชน์ในการจ้างงาน ป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบ และช่วยเรียกร้องสิทธิประโยชน์ กรณีลูกจ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งแรงงานไทยที่ยูเออีมีมากกว่า 5,000 คน

“ผมได้เดินทางมาเพื่อเยี่ยมเยียนดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องแรงงานคนไทย สิ่งที่ต่างประเทศชื่นชอบแรงงานไทยคือ การมีบุคลิกอัธยาศัยที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงฝีมือการทำอาหารที่ดีมาก การอยู่ไกลบ้านทำให้คิดถึงบ้านเป็นธรรมดา ขอให้ทุกท่านทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด และอดทนทำงาน เก็บเงินดูแลตัวเองและครอบครัวกันต่อไป มีอะไรให้ประสานการช่วยเหลือ ก็ติดต่อมาที่กระทรวงแรงงานได้”

นางสาวลลิตา พลอยโต Guest Service Agent หนึ่งในพนักงานต้อนรับส่วนหน้าของโรงแรม Anatara Mangroves ที่เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวถึงคนไทยที่สนใจจะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ ขอให้เดินทางไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายจะได้รับการคุ้มครอง และขอให้ตั้งใจ ขยันทำงาน เพื่อจะได้นำความรู้ ประสบการณ์ และนำรายได้ไปดูแลครอบครัว