กระทรวงแรงงานสอบนายจ้างทุบตีลูกจ้าง อาจโทษหนักจำคุกตลอดชีวิต

นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน

อธิบดี กสร.เผยผลสอบข้อเท็จจริงกรณีนายจ้างทำร้ายร่างกายลูกจ้างที่ จ.สิงห์บุรี เข้าข่ายบังคับใช้แรงงาน มีโทษจําคุกตั้งแต่ 8-20 ปี และปรับตั้งแต่ 800,000–2,000,000 บาท หรือจําคุกตลอดชีวิต

วันที่ 12 ธันวาคม 2564 นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่นายจีรวัฒน์ เล้าสุวรรณ หรือฟ้า อายุ 29 ปี ทำงานที่ร้านไทยถาวรการเกษตร อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี จำหน่ายวัสดุการเกษตรและเพาะพันธุ์สุนัขจำหน่าย ถูกนางนัยน์ปพร เนตรบุตร เจ้าของกิจการลงโทษทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุเนื่องจากนายจีรวัฒน์ทำสิ่งของเสียหายและพูดโกหก

ซึ่งนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานส่งพนักงานตรวจแรงงานเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยประสานคณะทำงานสหวิชาชีพประกอบด้วย อัยการจังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด แรงงานจังหวัด สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด และตำรวจ สภ.อินทร์บุรี ดำเนินการพิจารณาคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และผู้เสียหายจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564

“ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่าเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 6/1 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้ทำงานหรือบริการโดยวิธีการใช้กำลังประทุษร้ายทำให้ผู้นั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานบังคับใช้แรงงานโดยมีโทษตามมาตรา 52/1 วรรคหนึ่ง จำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี ปรับตั้งแต่ 50,000 บาทถึง 100,000 บาท

และวรรคสอง ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 8 ปีถึง 20 และปรับตั้งแต่ 800,000 บาทถึง 2,000,000 บาท หรือจำคุกตลอดชีวิต ในขั้นตอนต่อไปจะส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการ”

อธิบดี กสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า นายฐปนวัชร เล้าสุวรรณ พี่ชายนายจีรวัฒน์ เล้าสุวรรณ ได้พาน้องชายมาอยู่กับนางนัยน์ปพร เพื่ออุปการะเลี้ยงดู ตั้งแต่อายุ 15 ปี เนื่องจากมารดาเสียชีวิต โดยส่งเข้าเรียนหนังสือในระดับชั้น ปวช. ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษา แต่เรียนไม่จบ

Advertisment

นางนัยน์ปพรมอบหมายให้นายจีรวัฒน์ทำหน้าที่ดูแลสุนัข ไม่มีการจ่ายค่าจ้าง แต่เป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภค ดังนั้น จึงไม่มีนิติสัมพันธ์เป็นนายจ้าง ลูกจ้างต่อกัน ทั้งนี้ นายฐปนวัชรและนายจีรวัฒน์ได้เข้าแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรอินทร์บุรี

ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อออกหมายจับนางนัยน์ปพร และนายศรายุทธ บุญคร ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยวิธีการทรมาน และได้จับกุมตัวมาสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

Advertisment