การประเมิน ESG ทำอย่างไร ?

คอลัมน์ : CSR TALK
ผู้เขียน : พิพัฒน์ ยอดพฤติการ
สถาบันไทยพัฒน์

ปัจจุบันกิจการที่หวังจะให้การดำเนินธุรกิจของตนได้รับการยอมรับจากสังคม และมีหลักทรัพย์ที่ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุน คงหนีไม่พ้นที่จะต้องได้รับการประเมินเรื่อง ESG (environmental, social and governance) จากหน่วยงานประเมินภายนอกที่มีความน่าเชื่อถือ และมีความเป็นกลางในการประเมิน ปลอดจากการแทรกแซงโดยกิจการที่ถูกประเมิน

จากผลการสำรวจหน่วยงานผู้ประเมิน และจัดอันดับด้าน ESG ทั่วโลกพบว่ามีอยู่มากกว่า 600 แห่ง และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามการเติบโตของตลาด (Sustain Ability, 2020) โดยแต่ละสำนักผู้ประเมิน ต่างมีระเบียบวิธี และเกณฑ์ที่ใช้ประเมินแตกต่างกัน จึงทำให้เกิดความยากลำบากทั้งกับองค์กรผู้เป็นเจ้าของข้อมูลที่ถูกประเมิน และกับผู้ลงทุน รวมทั้งบุคคลทั่วไปที่สนใจ ในการใช้ประโยชน์จากผลประเมินที่ได้รับ

และปฏิเสธไม่ได้ว่าในงานวิจัยหลายชิ้นต่างบ่งชี้ว่าผลประเมินด้าน ESG ของกิจการ จากหน่วยงานผู้ประเมินที่นำมาศึกษาไม่พบว่ามีสหสัมพันธ์ (correlation) ระหว่างผลประเมินในกิจการเดียวกัน ของบรรดาองค์กรผู้ทำการประเมิน (ssrn.3438533, 2022)

จนกลายเป็นว่าผู้ใช้ข้อมูลจำเป็นต้องทำการ “ประเมิน ผู้ประเมิน” (rate the raters) ก่อนที่จะนำข้อมูลประเมินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์

ข้อพิจารณา 3 ประการ ในการประเมินผู้ประเมินว่าจะเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด ได้แก่ คุณภาพในการประเมินและกระบวนการประเมิน ประกอบด้วย การพิจารณาเกณฑ์และหลักการที่ใช้ในการประเมิน ความครอบคลุมในการประเมิน ประกอบด้วย ปริมาณข้อมูลและประชากรที่ใช้ในการประเมิน รวมทั้งผลลัพธ์ของการประเมิน ประกอบด้วย ความสัมพันธ์ที่เป็นเหตุเป็นผล (causation) ระหว่างผลการดำเนินงานด้าน ESG กับผลประกอบการและผลกระทบสู่ภายนอก

ตัวอย่างเกณฑ์ในการประเมินที่สถาบันไทยพัฒน์นำมาใช้ ในฐานะผู้บุกเบิกการพัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจในประเทศไทย ประกอบด้วย

– การพิจารณาประเด็นด้าน ESG ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรม

ADVERTISMENT

– การพิจารณาวิธีการที่บริษัทใช้ระบุและจัดการกับโอกาสและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้าน ESG

– การพิจารณาประเด็นด้าน ESG ที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการขององค์กร

ที่สำคัญ การประเมินกิจการด้าน ESG ด้วยชุดประเด็นเดียวกัน โดยปราศจากการคำนึงถึงบริบทของประเภทธุรกิจ จะไม่สามารถสะท้อนผลประเมินตามที่เป็นจริงได้อย่างสมบูรณ์ ตัวอย่างชุดประเด็นด้าน ESG ที่สถาบันไทยพัฒน์นำมาใช้ในระเบียบวิธีการประเมิน โดยจำแนกตามกลุ่มธุรกิจ ได้แก่

– กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ประกอบด้วย ประเด็นการจัดการด้านพลังงานและทรัพยากรน้ำ ประเด็นปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประเด็นความปลอดภัยทางอาหาร โภชนาการ และสุขภาพ ประเด็นการแสดงฉลากผลิตภัณฑ์และการสื่อสารการตลาด และประเด็นผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อมของโซ่อุปทานส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์

– กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ประเด็นการจัดการด้านพลังงาน ประเด็นความปลอดภัยในตัวผลิตภัณฑ์ ประเด็นการจำกัดการใช้สารเคมีอันตรายในตัวผลิตภัณฑ์ ประเด็นผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมตลอดวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ และประเด็นนวัตกรรมและการสรรหาวัตถุดิบในการผลิต

– กลุ่มธุรกิจการเงิน ประกอบด้วย ประเด็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล ประเด็นการให้ข้อมูลอย่างโปร่งใสและคำแนะนำที่เป็นธรรมแก่ลูกค้า ประเด็นการบริหารความเสี่ยงเชิงระบบประเด็นการบริหารสภาพแวดล้อมทางกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และประเด็นการผนวกปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ

– กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ประกอบด้วย ประเด็นการจัดการด้านพลังงาน น้ำ มลอากาศ และของเสีย ประเด็นปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประเด็นความปลอดภัยในตัวผลิตภัณฑ์ ประเด็นการจัดการด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และสถานการณ์ฉุกเฉิน และประเด็นการสรรหาวัสดุ

– กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ประกอบด้วย ประเด็นผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อการพัฒนาโครงการ ประเด็นการใช้ที่ดินและผลกระทบทางนิเวศ ประเด็นการจัดการด้านพลังงาน น้ำ และของเสีย ประเด็นความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และประเด็นจริยธรรม และความโปร่งใสในการให้บริการ

– กลุ่มทรัพยากร ประกอบด้วย ประเด็นปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประเด็นการจัดการมลพิษอากาศ น้ำทิ้ง และของเสียอันตราย ประเด็นการจัดการผลกระทบทางนิเวศ และชุมชน ประเด็นการเตรียมความพร้อมและแผนเผชิญเหตุฉุกเฉิน/ภัยพิบัติ และประเด็นการบริหารสภาพแวดล้อมทางกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง

– กลุ่มบริการ ประกอบด้วย ประเด็นประสิทธิภาพการใช้พลังงาน น้ำ และการจัดการของเสีย ประเด็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประเด็นการจัดการด้านความปลอดภัยและอุบัติภัย ประเด็นการต้านทุจริตและติดสินบน และประเด็นการบริหารคุณภาพในโซ่อุปทาน

– กลุ่มเทคโนโลยี ประกอบด้วย ประเด็นฟุตพรินต์ทางสิ่งแวดล้อม ประเด็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล ประเด็นการพัฒนาทักษะและฝีมือแรงงาน ประเด็นพฤติกรรมการแข่งขันและการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และประเด็นการสรรหาวัสดุ การจัดการโซ่อุปทาน และซากผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้ การประเมิน ESG ควรต้องตอบโจทย์ผู้ลงทุนในมิติของการลงทุนที่ยั่งยืนว่าบริษัทที่มี ESG ดี จะสามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ไม่ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไปด้วย ทำให้การระบุความสัมพันธ์ที่เป็นเหตุเป็นผล ระหว่างผลการดำเนินงานด้าน ESG กับผลประกอบการ จึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามในกระบวนการประเมิน ESG ที่ดี


  • หัวข้อข่าว:
  • ESG