ไอ.ซี.ซี.หนุน อุทกพัฒน์ ช่วยชุมชนเพชรน้ำหนึ่งยั่งยืน

ในอดีตสภาพพื้นที่ของชุมชนเพชรน้ำหนึ่ง ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เป็นสนามกอล์ฟร้างกว่า 3,500 ไร่ จากนั้นรัฐบาลจึงมาซื้อจากภาคเอกชนเพื่อจัดสรรให้ราษฎรใช้เป็นที่ทำกิน แต่ด้วยสภาพดินปนกรวดและลูกรัง พื้นที่จึงค่อนข้างลาดเอียง ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้เต็มศักยภาพ ทั้งยังไม่มีการพัฒนาระบบน้ำไปใช้ จนทำให้ชุมชนประสบปัญหาน้ำทำการเกษตร ส่งผลให้ผลผลิตขาดตลาด และกระทบต่อปัญหาหนี้สินอย่างต่อเนื่อง

ด้วยเหตุนี้ มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ องค์การมหาชน จึงเข้าไปพัฒนาแหล่งน้ำร่วมกับชุมชนบนพื้นฐานทางสังคม และเศรษฐกิจตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9)

โดยมี บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะภาคเอกชนให้การสนับสนุน ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินงานกว่า 5 ปี จนประสบความสำเร็จ ทำให้ชุมชนกว่า 238 ครอบครัว มีแหล่งน้ำเพียงพอในการทำเกษตร อุปโภคบริโภค และมีรายได้มั่นคงขึ้น

ล่าสุด เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ จึงจัดงาน “เทิด ด้วย ทำ ปี พ.ศ. 2565” เพื่อเยี่ยมชมความสำเร็จชุมชนเพชรน้ำหนึ่ง และสรุปแนวทางเพื่อถ่ายทอดความสำเร็จไปยังชุมชนอื่น ๆ

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล

“ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล” ประธานกรรมการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า เทิด ด้วย ทำ คือ การสานต่อพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยมีภาคชุมชน ภาคเอกชน และภาครัฐ ร่วมทำงานแบบ 3 ประสาน พร้อมกับขยายความร่วมมือไปยังหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อช่วยขับเคลื่อนอย่างคล่องตัว จนสามารถแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดในการสร้างความสมดุล มั่นคง และยั่งยืนเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและประเทศชาติ

“ผลจากการดำเนินงานจนถึงปัจจุบันทำให้ชุมชนเพชรน้ำหนึ่งมีน้ำสำรองทำการเกษตรตลอดปี ทั้งยังสร้างกลุ่มอาชีพ แบ่งปันผลผลิต และรายได้ จนทำให้สมาชิกทั้ง 238 ราย หลุดพ้นจากภาวะหนี้สิน”

ADVERTISMENT
บุญเกียรติ โชควัฒนา

“บุญเกียรติ โชควัฒนา” ประธานกรรมการ บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การได้มาร่วมงานเทิด ด้วย ทำ ครั้งนี้ทำให้เห็นว่าภาคเอกชนให้ความสำคัญกับการมีส่วนช่วยชุมชนจำนวนมาก แรงบันดาลใจในการร่วมสนับสนุนมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯในการบริหารจัดการน้ำที่ชุมชนเพชรน้ำหนึ่งครั้งนี้มาจากได้ฟัง ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เอ่ยถึงโครงการ ซึ่งเป็นโครงการที่ทำขึ้นตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อให้ชุมชนสามารถดูแลน้ำ ดูแลพืช ดูแลเกษตรได้ จนสามารถพยุงตัวและมีรายได้ที่เหมาะสม จึงเล็งเห็นว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างมาก

“นอกจากนั้น ผมยังทราบจาก ดร.รอยล จิตรดอน กรรมการ และเลขาธิการมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ว่า ยังมีอีกหลายพื้นที่ในประเทศไทยที่ประสบปัญหาแล้ง น้ำไม่พอทำการเกษตร ซึ่งบริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน), มูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา และพนักงานในเครือสหพัฒน์ จึงเห็นความสำคัญของการมีส่วนช่วยสังคม และบริษัทเต็มใจที่จะสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อประโยชน์ของเกษตรกร และด้วยบริษัทในเครือสหพัฒน์มีสาขามากมายเกือบทุกแห่งในประเทศไทย ทำให้สามารถกระจายความช่วยเหลือไปที่ต่าง ๆ ได้สะดวก”

ADVERTISMENT

สำหรับโครงการตัวอย่างที่ ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมสนับสนุนชุมชนเพชรน้ำหนึ่งมีดังนี้

หนึ่ง ปี 2561 ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนลร่วมกับมูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา และบริษัทในเครือสหพัฒน์ ทำคอลเล็กชั่นเสื้อ W B G (white-black-gold) ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อหาทุนสนับสนุนมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ด้วยงบประมาณ 2 ล้านบาท เพื่อดำเนินงานปรับปรุงพัฒนาโครงสร้างเชื่อมโยงระบบน้ำในพื้นที่ พร้อมระบบกระจายน้ำในแปลงเกษตรผสมผสานตามแนวทฤษฎีใหม่ ประกอบด้วย งานขุดลอกคลองส่งน้ำระยะทาง 1.720 กิโลเมตร พร้อมท่อลอด อาคารบังคับน้ำ รางรับน้ำ และผนังยกระดับน้ำ งานแปลงเกษตรผสมผสานตามแนวทฤษฎีใหม่ ประกอบด้วย แปลงสาธิตเกษตรผสมผสานรวม 34 ไร่

สอง ร่วมสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในการสร้างต้นแบบจัดการน้ำแบบสระพวง คือ ใช้น้ำสระใหญ่เติมสระเล็ก และสร้างระบบกระจายน้ำแบบใช้น้ำน้อยในแปลงเกษตร

สาม ปี 2562 เพื่อให้ผลผลิตทางการเกษตรของส่งตรงถึงผู้บริโภคในเมือง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง บริษัทจึงสนับสนุนงบประมาณ 7 แสนบาท และร่วมมือกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ และชุมชน สร้างอาคารบรรจุและเก็บรักษาผลผลิต เพื่อจัดเก็บและตกแต่งผลผลิต บรรจุเพื่อส่งตรงโกลเด้น เพลส ภายใต้ชื่อไร่ชีวิตพอเพียงเพ็ชร์บุรี

สี่ ปี 2564 บริษัทสนับสนุนมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯในการพัฒนาการกระจายน้ำทางฝั่งตะวันตกของชุมชนเพชรน้ำหนึ่ง เพื่อสร้างหอเก็บน้ำต่างระดับกว่า 10 หอ เพื่อนำน้ำจากสระขนาด 23 ไร่ กระจายแจกจ่ายน้ำให้พื้นที่เพาะปลูกกว่า 500 ไร่ ด้วยงบประมาณ 4.4 แสนบาท

“ดำรัสสิริ ถิรังกูร” ประธานบริหารไร่ชีวิตพอเพียงเพ็ชร์บุรี กล่าวว่า ตอนนี้ชุมชนเพชรน้ำหนึ่งมีความอุดมสมบูรณ์กว่าในอดีตมาก และคนในชุมชนพัฒนาตนเองให้อยู่ร่วมกันในลักษณะมวลชน เป็นการบริหารแบบกลุ่ม และการจัดการสังคมแบบธรรมาภิบาล ทำให้ทุกคนร่วมกันทำงานเพื่อเป้าหมายเดียวกัน

“ระยะแรกชุมชนมีรายได้จากการปลูกผัก โดยส่งผลผลิตไปที่โกลเด้น เพลส สาขากรุงเทพฯ และสาขาจังหวัดเพชรบุรี 16 สาขา และร้านมูลนิธิชัยพัฒนา ถ.อังรีดูนังต์ กรุงเทพฯ ถือว่าโชคดีมากที่ได้รับโอกาสและมีตลาดที่เข้าใจชุมชน นอกจากนั้น เรายังจัดการแปลงที่ดินบางส่วนให้เป็นห้องเย็น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก ไอ.ซี.ซี.ฯ ทั้งยังมีมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯมาช่วยให้คำปรึกษาด้วย และตอนนี้เรามีระบบกรองน้ำที่สะอาด นอกจากนั้น ของเสียที่เกิดจากการตัดแต่งจะนำไปทำปุ๋ย เพื่อทำให้เกิดการหมุนเวียนเป็น zero waste”

“ปัจจุบันชุมชนเพชรน้ำหนึ่งมีความสำเร็จในระยะเบื้องต้น และจะพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อให้มีการดำเนินชีวิตอย่างยั่งยืน ถึงแม้อาจจะต้องใช้ระยะเวลาอีกยาวไกล แต่ทุกคนมีกำลังใจมาก ทั้งยังมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยชุมชนด้วย ตรงนี้เป็นเหตุผลสำคัญที่จะทำให้คนในชุมชนพัฒนาตนเองให้ดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงได้”

นับเป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการพัฒนาแหล่งน้ำ พร้อมกับช่วยเหลือเกษตรกรให้เกิดความยั่งยืนในชีวิตอย่างแท้จริง