จากข้อมูลศูนย์วิชาการความปลอดภัยทางถนนระบุว่า ตัวเลขผู้ขับขี่ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลส่วนใหญ่มีแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่าช่วงเวลาปกติ โดยในปี 2564 มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต 5,387 ราย ขณะที่ข้อมูลระหว่างปี 2550-2564 พบว่าคนไทยมีพฤติกรรมดื่มแล้วขับสูงถึง 31%
ด้วยเหตุนี้ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) หรือ DMHT ผู้นำด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำเข้าพรีเมี่ยมระดับโลก จึงเปิดตัวโครงการ “Wrong Side of the Road” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดอุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับในประเทศไทย
ด้วยการสร้างแพลตฟอร์ม e-Learning แบบอินเตอร์แอ็กทีฟระดับโลกที่พัฒนาร่วมกับสถาบันสหประชาชาติเพื่อการอบรมและวิจัย (United Nations Institute for Training and Research-UNITAR) เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคเรียนรู้ผลกระทบจากการดื่มแล้วขับที่สร้างทั้งตราบาปที่เกิดจากการเมาแล้วขับและผลกระทบที่ตามมา
กล่าวกันว่า โครงการ “Wrong Side of the Road” นอกจากจะมีมุมมองของผู้กระทำและเหยื่อจากอุบัติเหตุจริงผู้บริโภคยังสามารถเลือกถามคำถามเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการตัดสินใจที่ผิด และผลที่เกิดขึ้นจากเจ้าของเรื่องจริงได้ เมื่อผู้เข้าออนไลน์ตอบคำถามหลังจากเรียนครบทุกข้อ ทางแพลตฟอร์มจะมีใบประกาศรับรองให้ โดยสามารถโหลดทางออนไลน์
“ภูนีต นารัง” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) หรือ DMHT กล่าวว่า แพลตฟอร์ม Wrong Side of the Road ในประเทศไทย พัฒนามาจากผลการสำรวจพฤติกรรมคนไทยของ DMHT
โดยผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าคนไทยมีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม หากได้เรียนรู้จากเหตุการณ์จริงที่สร้างผลกระทบต่อสังคม และจากการได้เรียนรู้ผลเสียด้วยตัวเอง
โครงการ Wrong Side of the Road มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นประชาชนทั่วไปอายุ 20-35 ปี และเป็นผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นประจำ เช่น ผู้ขับขี่รถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ โดยตั้งเป้าให้คนมาเรียนรู้ผ่าน e-Learning 250,000 คน ภายในปี 2573 หรือประมาณ 30,000 คนต่อปี
“เราต้องการให้ผู้เข้าร่วม e-Learning เข้าใจว่าการตัดสินใจผิดพลาดในการเลือกที่จะดื่มแล้วขับ จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของตัวผู้ขับขี่เองและบุคคลรอบข้าง ดังนั้น เราจึงออกแบบแพลตฟอร์มให้มีการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตราบาปที่เกี่ยวข้องกับการดื่มแล้วขับในรูปแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ
ที่ทำให้ผู้เรียนได้รู้สึกมีส่วนร่วม เพื่อส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และทัศนคติ โดยใช้เรื่องจริงเกี่ยวกับการดื่มแล้วขับมาถ่ายทอด โดยมีนทีเทพ บุนนาค นักแสดงผู้เคยตกเป็นข่าวจากการดื่มแล้วขับ และราชาวดี ใจหงิม เหยื่ออุบัติเหตุจากการโดยสารรถยนต์ของผู้ที่ดื่มแล้วขับมานำเสนอ”
ดังนั้น ผู้ที่สนใจจะสัมผัสเรื่องราวอันทรงพลังจากทั้งสองมุมมอง เพื่อเรียนรู้ถึงผลกระทบจากการดื่มแล้วขับ ทั้งยังสามารถเข้าไปรับฟังเรื่องราวของพวกเขาได้ที่ https://drinkdriving.drinkiq.com อีกด้วย นอกจากนี้ DMHT ยังจัดกิจกรรมทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการนี้
ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมออนไลน์ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ ความร่วมมือกับภาคธุรกิจต่าง ๆ และกิจกรรมออฟไลน์ตามสถานที่สำคัญทั่วประเทศ เช่น มหาวิทยาลัย, สถานีขนส่ง, วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และโรงงาน
โครงการนี้เป็นส่วนสำคัญของความมุ่งมั่นในการลดการดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นอันตรายที่เราดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเทศต่าง ๆ ที่มีการเปิดตัวโครงการ Wrong Side of the Road เช่น สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, ไอร์แลนด์, อิตาลี, อินเดีย, สเปน และเม็กซิโก ก็มีผลลัพธ์เป็นไปในทิศทางที่ดี
ซึ่งการได้รับความสนับสนุนจากพันธมิตรอย่าง UNITAR และการร่วมงานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลในการส่งต่อสาระสำคัญไปยังผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อร่วมกันพยายามลดปัญหาที่สามารถป้องกันได้นี้ จะเป็นสิ่งที่ดิอาจิโอฯรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากด้วย
“พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก” รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกล่าวว่า เมาแล้วขับยังคงเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทย โดยสถิติจากช่วงปีใหม่และสงกรานต์ที่ผ่านมา พบว่าเมาแล้วขับเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 โดยมีการขับรถเร็วเป็นสาเหตุอันดับ 1
การเมาแล้วขับสามารถป้องกันได้ หากทุกคนตระหนักถึงความสูญเสียและความเดือดร้อนแก่ตัวเอง รวมถึงผู้ใช้ถนนร่วมกัน แต่การสร้างความตระหนักดังกล่าวต้องใช้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมกันรณรงค์ในระยะยาว
ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม Wrong Side of the Road จะถูกนำไปใช้สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดื่มแล้วขับให้กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนได้รับรู้เพื่อร่วมกันลดอุบัติเหตุบนท้องถนนต่อไป
“เบน มอร์ลี่ย์” ทูตพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย กล่าวถึงกรณีตัวอย่างจากการแก้ปัญหาดื่มแล้วขับในประเทศอังกฤษว่าเป็นผลมาจากการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง การรณรงค์เริ่มตั้งแต่ในโรงเรียน และภาครัฐร่วมมือกับภาคเอกชนอย่างจริงจังเพื่อสร้างแรงกระเพื่อมมากขึ้น รวมถึงการมีกฎหมายและบทลงโทษที่หนัก จึงทำให้อุบัติเหตุที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับในอังกฤษลดน้อยลง
“ทั้งนี้ Wrong Side of the Road เป็นส่วนหนึ่งของแผนงานด้านความยั่งยืน Society 2030 : Spirit of Progress ของดิอาจิโอฯในการสนับสนุนการปรับเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับการดื่มแล้วขับให้กับคนจำนวน 5 ล้านคนทั่วโลก”
ดังนั้นเชื่อว่าการรณรงค์ผ่านโครงการ Wrong Side of the Road ครั้งนี้น่าจะมีส่วนช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับไม่มากก็น้อย