
“จากการสัมภาษณ์ผู้นำ 30 ท่าน ทำให้ได้พบคุณสมบัติสำคัญที่มีร่วมกันของผู้นำ โดยส่วนใหญ่คือการมี purpose หรือเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิต การมี passion หรือแรงผลักดันในการทำสิ่งที่รับผิดชอบให้สำเร็จ ความอ่อนน้อมถ่อมตน รวมทั้งการมองเห็นภาพใหญ่และความเชื่อมโยงของสิ่งต่าง ๆ การมองเห็นโอกาส การมองเห็นศักยภาพของคน การให้ความสำคัญกับการสร้างและส่งต่อความไว้วางใจ (trust) และการสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งและวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นเลิศ
ซึ่งด้วยหลักการและคุณสมบัติเหล่านี้ จึงทำให้ผู้นำทุกท่านสามารถนำพาองค์กรฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันยังสามารถสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับบุคคลอื่น และสามารถสร้างความเป็นเลิศและความสำเร็จอย่างยั่งยืน (great & enduring success)
ขณะที่พาร์ตเนอร์ระดับโลกของแพคริม Franklincovey (แฟรงคลินโควีย์) เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการพัฒนาผู้นำระดับโลกที่มีประสบการณ์มากกว่า 35 ปี ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลองค์กรชั้นนำเป็นหลักหมื่นในกว่า 160 ประเทศทั่วโลก ให้ความสำคัญในการวิจัยและพัฒนา โดยที่ผ่านมาได้ลงทุนไปกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดย นายพอล วอล์กเกอร์ ซีอีโอ แฟรงคลินโควีย์ กล่าวถึงเทรนด์และแนวทางการพัฒนาผู้นำในระดับโลกว่า องค์กรที่ยิ่งใหญ่มักมีคนที่เป็นผู้นำและทีมที่ยอดเยี่ยม ซึ่งความท้าทายที่สำคัญสำหรับผู้นำส่วนใหญ่ในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับลักษณะงาน แรงงาน และสถานที่ทำงานที่เปลี่ยนไป ความซับซ้อนของโลกที่เพิ่มขึ้น และความต้องการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต
“ดังนั้น ผู้นำต้องคิดหลายแง่มุม และสามารถสร้างสมดุลระหว่างความคาดหวังของพนักงาน ลูกค้า และวัฒนธรรมได้ ในขณะเดียวกันต้องสามารถจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อนได้ ซึ่งทักษะอันดับหนึ่งที่ผู้นำต้องพัฒนาในวันนี้คือความสามารถในการดึงศักยภาพสูงสุดของบุคลากรของตนออกมา โดยองค์กรที่ประสบความสำเร็จมักมี 3 สิ่งที่เหมือนกัน คือ 1.ตั้งใจในการพัฒนาความเป็นผู้นำ 2.วางกระบวนการที่วัดผลได้ 3. เก่งในการหาบุคลากรที่เป็นทาเลนต์”
นายวอล์กเกอร์กล่าวด้วยว่า แฟรงคลินโควีย์มุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาตามหลักการที่ช่วยให้ผู้นำและผู้มีส่วนร่วมแต่ละรายใช้ความคิดที่ถูกต้อง ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม โดยแฟรงคลินโควีย์ใช้เงินหลายล้านเหรียญสหรัฐทุกปีเพื่อลงทุนในโซลูชั่น โดยมุ่งเน้นที่ 4 ด้าน ได้แก่
- การช่วยสร้างผู้นำที่ดีในองค์กร
- การช่วยพัฒนาประสิทธิภาพส่วนบุคคล
- การช่วยพัฒนาวัฒนธรรมที่ทุกคนสามารถนำผลงานของตนออกมาได้ดีที่สุด
- การช่วยให้องค์กรดำเนินการตามกลยุทธ์ของตน
“แฟรงคลินโควีย์และแพคริม เป็นพาร์ตเนอร์กันมา 22 ปี ผลสำเร็จที่แพคริมได้ช่วยทำให้กับลูกค้านั้นไม่เป็นสองรองใคร แฟรงคลินโควีย์คงไม่อาจบรรลุพันธกิจในการสร้างความเป็นเลิศให้กับคนและองค์กรทุกหนแห่งในโลกได้ หากปราศจากพาร์ตเนอร์อย่างแพคริมในประเทศไทย” นายวอล์กเกอร์กล่าว