
จากกระแสดราม่าการจัดการ 411 Ent. ผู้จัดคอนเสิร์ตครั้งล่าสุดของ GOT7 และโพสต์ของ “กึ้ง เฉลิมชัย” ผู้บริหาร ทำสังคมเดือด พร้อมจุดคำถาม หรือเอ็นฯคอมเพล็กซ์คือทางออก ?
นอกจากการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของ 7 หนุ่ม GOT7 บนเวทีคอนเสิร์ต “2025 GOT7 CONCERT < NESTFEST > in BANGKOK” จัดขึ้นที่ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 3-4 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา จะสร้างความสุขให้กับเหล่าแฟน ๆ อย่างมากจนถูกเรียกร้องให้จัดอีกแม้จะผ่านมาไม่พ้นวัน
แต่ก็ไม่วายมีกระแสดราม่าที่เกิดขึ้นจากการจัดการงานของผู้จัดคอนเสิร์ตอย่าง 411 Entertainment ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขบัตรที่มีการจำกัดโซน-สิทธิบางประเภท ทำให้แฟนคลับบางกลุ่มเสียเปรียบ และการจัดการเวลาไม่ดีทำให้แฟนคลับเข้างานช้า
411 จัดเต็ม ใส่สุดมากกว่าที่เคยมี
เรื่องราวใหญ่โตนี้ที่ดูเหมือนจะจบลงไปพร้อมกับคอนเสิร์ต ก่อนเรื่องจะถูกหยิบมาพูดถึงอีกครั้ง พร้อมกับเสียงวิพากย์วิจารณ์ที่ยิ่งกว่าเดิม เมื่อ “กึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจสิริ” ออกมาโพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว kueng_chalermchai ถึงกรณีนี้ ระบุว่า การตั้งใจทำงานออกมาให้ดีที่สุดในสไตล์ของ 411 คือ งานโปรดักชั่นที่จัดเต็ม สร้างจอที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมี เครื่องเสียง พลุ โดรน
จัดเต็มเท่าที่จะทำได้เพื่อตอบแทนทุกเสียง แต่การเป็นคนกลางของความรักของ 7 บริษัทกับกลุ่มแฟนคลับมหาศาล การทำให้ทุกคนพอใจเป็นเรื่องยากมาก อย่างไรก็ตามขอขอบคุณโอกาสที่ให้เราได้เป็นส่วนเล็ก ๆ ของความรักระหว่างศิลปินและแฟนคลับ และขอโทษที่ไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ พร้อมขอบคุณพาร์ตเนอร์และทีมงาน
ก่อนจะทิ้งท้ายว่า อยากให้บ้านเรามีสถานที่จัดคอนเสิร์ตที่ใหญ่และดีกว่านี้
คอมเมนต์กระหน่ำ ขออย่าจัดอีก
หลังจากเฉลิมชัยออกมาโพสต์ความรู้สึกผ่านอินสตาแกรม ทำให้เหล่าแฟน ๆ ออกมาคอมเมนต์ใต้โพสต์ระบายความรู้สึกถึงการจัดการงานของ 411 ในครั้งนี้ อาทิ
“คุณพี่ได้ซีนเยอะมาก ๆ เลยค่ะงานนี้ เพิ่งเคยเห็นงานแรก ที่ศิลปินต้องออกมารีแอ็กต์ครบทุกคน ปัญหาเยอะแยะมากมายค่ะตั้งแต่วันจองบัตร คุณพี่อย่าไปจัดให้ใครอีกก็พอนะคะ การจัดการบริหารหน้างาน ทั้งป้าย แบ็กดรอป มันดูไม่มีการใส่ใจอะไรเลย”
“ไม่ต้องโทษคนอื่นค่ะลองโทษตัวเองดูก่อน สเกลแค่นี้ยังทำได้แย่มาก ๆ เลยไม่ต้องฝันจะไปสเกลใหญ่หรอกค่ะ จากนี้สิ่งที่คุณจะทำให้พวกเราได้คือรบกวนไม่ต้องประมูลงานของ GOT7 ทั้ง 7 คนอีกไม่ว่าจะเป็นงานกลุ่มหรืองานเดี่ยว รบกวนด้วยนะคะ”
“ไม่มีใครพอใจเลยค่ะ ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ทำทำตามที่พูดให้ได้เถอะค่ะ สิทธิ VIP ไม่ได้ของ ของหมด อันนี้โกรธมากนะคะ 9,900 ไม่ได้อะไรเลย”
“ทำให้คนพอใจทำหมดเป็นเรื่องยาก แต่ทำให้คนไม่พอใจทั้งหมดคือทำสำเร็จแล้วค่ะ”
“แสงสีเสียงดูออกว่าพยายาม แต่อย่างอื่นไม่ได้เลยแม้แต่นิด เล่นกับใจอากาเซ่สุด ๆ ทุกชอต ส่วนวันจริงก็เล่นกับชีวิตอยู่นะคะ กับการให้ต่อแถวแบบไร้การจัดการ น้ำน้อยไม่พอจำหน่าย ห้องน้ำโครตแย่ คนล้มพับลงไปเหมือนต้นไม้ปลิวทุก ไม่ใช่งานอื่นไม่เกิด แต่เพราะงานนี้แค่ริเข้างานก็นานกว่าปกติ
ผู้จัดก็เสียน้ำตา อากาเซ่เองก็เสียน้ำตาเช่นกันค่ะ”
“พยายามต่อ พยายามอีก พยายามอีกเยอะค่ะ เข้าใกล้คำว่ามืออาชีพให้ได้ค่ะ”
“จัดงานแย่ค่ะ ต้องปรับปรุง ไปมาหลายคอนและอันนี้แย่สุด สตาฟน้อยมาก จัดการแย่มาก กว่าจะได้เข้าไปในงานแทบจะน็อกค่ะ เรื่องแบ็กดรอปไม่อลังไม่เท่าไหร่พอทน เรื่องน้ำก็อีกหนึ่งเรายุชั้น 3 กว่าจะตะกายขึ้นไปถึงเพราะยืนรอเข้างาน 2 ชม.น้ำที่ติดตัวมาก็หมด
ไม่รวมเรื่องรอเข้าส้วม 1 ชม. พอเข้าไปถึง ถามจุดขายน้ำอยู่ไหน ชี้โบ๊ชี้เบ๊ สตาฟอีกคนบอกให้เราลงไปซื้อข้างหน้าชั้น 1 น้ำน่าจะหมดงี้ สภาพนี่จะน็อกยุแล้วพูดมาได้พึ่งขึ้นมาถึงให้ลงอีกหรอ ไม่เคลียร์สักอย่าง สรุป ขอบคุณตัวเองค่ะที่รอดมาได้”
ทางออก คือ เอ็นฯคอมเพล็กซ์ ?
ขณะที่ดราม่านี้ลากยาวแบบเบา ๆ มาตั้งแต่เริ่มขายบัตร เป็นเรื่องธรรมดาที่เหล่าแฟน ๆ ก็มักจะพูดกันเมื่อบัตรหมดว่า อยากให้มีการเพิ่มรอบ หรือวันจัด ก็จะมีคอมเมนต์จากอีกฝั่งที่มองว่า ด้วยความต้องการความบันเทิงของคนไทยที่สถานที่จัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไม่สามารถรองรับปริมาณแฟนคลับได้เพียงพออีกต่อไป
ซึ่งการคาดการณ์นี้ก็ได้เกิดขึ้นจริงในวันคอนเสิร์ตที่มีโพสต์ภาพจำนวนคนแออัดอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ นอกจากนี้ยังมีภาพบรรยากาศผู้คนที่อยู่ข้างนอกระหว่างที่คอนเสิร์ตกำลังจัด แสดงให้เห็นว่ายังมีคนอีกจำนวนมากที่ไม่ได้เข้าร่วมงานนี้

ทำให้คอมเมนต์ถึงการกำลังจะมาของ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ได้รับการตอบรับมากยิ่งขึ้นว่า นี่คือทางออกสำหรับเรื่องนี้หรือไม่ โดยนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตรที่ได้รับการแท็กจากโพสต์ของกึ้ง เฉลิมชัย บนสตอรี่ของแอ็กเคานต์ @sandychayika ก็ได้โพสต์ลงบนสตอรี่ส่วนตัว

ก่อนหน้านี้นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้มีแนวคิดผลักดันนโยบายนี้มาตลอดสมัยการทำงาน ด้วยความคาดหวังว่า เอ็นฯคอมเพล็กซ์จะสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยได้มหาศาล ที่นอกจากรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตใหญ่แล้วยังสามารถโกยรายได้จากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศได้อีกด้วย
ย้อนกลับไปวันที่ 13 มีนาคม 2568 เศรษฐาโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความยินดีกับสิงคโปร์ที่สามารถเซ็นสัญญากับนักร้องดังอย่าง Lady Gaga จัดคอนเสิร์ต 4 รอบ จะจัดขึ้นที่ Singapore National Stadium ซึ่งรองรับผู้ชมได้ราว 55,000 คนได้ เป็นเหตุว่าทำไมเขาถึงสนับสนุนให้ไทยลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และการมี Entertainment complex เราต้องมีเพื่อโอกาสของประเทศ และประชาชนที่จะมีรายได้เข้ากระเป๋า
“500 ล้าน ผมว่าเป็นเงินที่เล็กน้อย หากรู้ว่าเป็นเช่นนี้ดึงมาประเทศไทย ต่อโชว์ต่ำกว่า 2 ล้านเหรียญ ซึ่งสามารถดึงดูดสปอนเซอร์ และนักท่องเที่ยวมาไทยได้จำนวนมาก แม้ต้องสนับสนุน 500 ล้านสำหรับโชว์ แต่เป็นสิ่งที่เราอยากจะทำ”
เสียงต้านที่แข็งแกร่ง-หลากหลาย
ในโครงการนี้นอกจากเสียงของประชาชนจะถูกแบ่งออกเป็นหลายฝั่งที่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย และคัดค้านขั้นเด็ดขาด ด้านหัวเรือฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชนก็ได้ออกมาค้านนโยบายนี้เป็นระยะ ๆ ก่อนร่าง กม.จะเข้า ครม. วันที่ 8 เมษายน 2568 ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X ถึงกรณีที่รัฐบาลเสนอร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ด้วย ว่า พรรคประชาชนไม่เห็นด้วยในการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นี้ เนื่องจากรัฐบาลยังไม่มีหลักการและเหตุผลที่ชัดเจน
ทั้งยังไม่มีการศึกษาความเป็นไปได้อย่างละเอียดนอกจากนี้ยังขาดแนวทางในการปรับปรุงกฎหมายและการป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เมื่อมีกาสิโนเข้ามา ขณะเดียวกันการเดินหน้านโยบายนี้ มีการดำเนินการอย่างเร่งรีบผิดปกติและมุ่งมั่นจนเกินไป ทั้งที่ไม่ใช่นโยบายที่เคยหาเสียงไว้
ขณะที่ประชาชนต้องการความมุ่งมั่นจากรัฐบาลในเรื่องอื่น อาทิ การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หรือการปฏิรูปกองทัพ รัฐบาลกลับลังเลและไม่มีความมุ่งมั่นแบบเดียวกัน
ล่าสุด สุทธิชัย แซ่หยุ่น สื่ออาวุโส นำเสนอผ่าน Sutichai Live ว่า ดร.ศุภชัย พาณิชภักดิ์ นักการเมือง อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) เสนอว่า ถ้าไทยจะสร้างคอมเพล็กซ์ใหญ่ก็ควรเป็นเรื่องสุขภาพที่กระจายไปทุกภูมิภาค ประเทศไทยมีจุดแข็งครบถ้วนและสามารถเป็นผู้นำระดับโลกได้ อีกทั้งสามารถดึงการลงทุนเอกชนได้แน่นอน
โดยยกตัวอย่างว่า Wellness คืออนาคตโลก เราสามารถทำได้ดีกว่าสิงคโปร์, อินเดีย, ญี่ปุ่นและจะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจไปถึงคนรุ่นต่อ ๆ ไป ขณะที่ Casino คือเรื่องที่มีความสุ่มเสี่ยง ไทยไม่มีประสบการณ์และขาดความน่าเชื่อถือด้านบังคับใช้กฎหมายพอที่จะทำได้อย่างสิงคโปร์
ทั้งนี้โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ไม่ต่ำกว่าสามพันครั้ง พร้อมความคิดเห็นมากกว่าพันครั้งว่า โดยมีทั้งคน “เห็นด้วย” และ “เห็นต่าง” โดยฝ่ายหลังระบุว่า การผลักดันนโยบายสามารถทำได้พร้อม ๆ กันได้หลายนโยบาย
เพื่อนบ้านโกยรายได้
ขณะที่ประเทศไทยยื้อยุดโครงการ Entertainment Complex กับตลอดการเดินทาง ด้านประเทศเพื่อนบ้านที่มีอยู่แล้วก็แซงหน้าไปด้วยการผลักดันโครงการนี้ให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยการพลิกโฉมวงการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น ชื่อ MGM Osaka รีสอร์ตครบวงจร (Integrated Resort : IR) โครงการมูลค่า 3 แสนล้านบาทที่จัดทำรีสอร์ตกาสิโนที่เริ่มก่อสร้างไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ประเทศสิงคโปร์ที่รัฐบาลนำมาเป็นโมเดลในการพัฒนาสถานบันเทิงครบวงจร เนื่องจากมีการพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวอย่างชัดเจน โดย “มารีน่า เบย์ แซนด์ส” เป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวหลายประเทศ และกลายมาเป็นลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของสิงคโปร์ที่สร้างรายได้ปีละ 1 ล้านล้านบาท