จากกรณี มีการเผยแพร่ภาพ “สรัย วัชรพล” ทายาทบิ๊กบอสโพลีพลัส โพสต์ภาพพ่นควันในห้องพักวีไอพี รพ.วิชัยยุทธ จนถูกโจมตีว่าเป็นการสูบบุหรี่ในโรงพยาบาลหรือไม่ จนเจ้าตัวออกมาอ้างว่า เป็นการกินขนมชื่อ Dragon’s Breath ที่มีการจุ่มไนโตรเจนเหลว ส่วนสิ่งที่ถือในมือ คือ ธัมป์ไดรฟ์ ซึ่งกรมควบคุมโรคเตรียมสอบข้อเท็จจริงประเด็นดังกล่าวนั้น
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นพ.ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ รพ.วิชัยยุทธ เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ว่า ภาพดังกล่าวเกิดขึ้นในโซเชียลมีเดีย โดยระบุสถานที่ คือ รพ.วิชัยยุทธ จึงได้มาตรวจสอบ โดย ผอ.รพ.วิชัยยุทธ และพยาบาลที่เป็นหัวหน้าวอร์ดพิเศษ ชี้แจงว่า ไม่ทราบและไม่เห็นในสิ่งที่ผู้ป่วยกระทำ
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
เนื่องจากเหตุเกิดที่ห้องพิเศษซึ่งเจ้าหน้าที่จะเข้าไปเมื่อต้องปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น และไม่ได้เห็นในสิ่งที่ผู้ป่วยโพสต์ออกไปแต่อย่างใด จนกระทั่งเป็นข่าวจึงทราบเรื่องเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป ซึ่งทาง รพ.วิชัยยุทธ ระบุว่า ได้รับการติดต่อจากผู้ป่วยหรือญาติแล้วว่า ขอโทษในสิ่งที่กระทำหรือโพสต์ลงไป จนทำให้โรงพยาบาลเสียชื่อเสียง
นพ.ขจรศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากการตรวจสอบแล้ว ข้อมูลทั้งหมดยังไม่ชัดเจนว่า สิ่งที่อยู่ในมือนั้นเป็นอะไรกันแน่ และไม่เพียงพอต่อการประกอบการวินิจฉัยว่ากระทำผิดตามกฎหมายหรือไม่ เจ้าพนักงานจะอาศัยอำนาจตามมาตรา 48 (3) พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ทำหนังสือเชิญบุคคลในภาพมาให้ข้อมูล
ซึ่งกรมฯ จะทำหนังสือในวันที่ 31 ธ.ค. 2561 แล้วส่งไปยังบุคคลในภาพ เพื่อให้เข้ามาชี้แจงในเรื่องดังกล่าวว่า สิ่งที่อยู่ในมือนั้นเป็นอะไรกันแน่ เป็นบุหรี่ไฟฟ้าอย่างที่คนสงสัยกันหรือไม่ หากมีหลักฐานอะไรมายืนยันก็ให้นำมา เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาประกอบการวินิจฉัย ส่วนจะเข้ามาให้ข้อมูลเมื่อไรนั้นอยู่ที่การประสานงาน
นพ.ขจรศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับ รพ.วิชัยยุทธ เองนั้น มีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างดี มีการแสดงเครื่องหมายเขตปลอดบุหรี่ที่ทางเข้าหลักของสถานที่ อาคาร หน้าโถงลิฟต์ทุกชั้น และในบริเวณอื่นๆ ของโรงพยาบาลอย่างเหมาะสม และไม่พบสิ่งอำนวยความสะดวก
เช่น ที่เขี่ยบุหรี่หรือถังทรายในทุกพื้นที่ของโรงพยาบาล ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามมาตรา 43 และมาตรา 45 แห่ง พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 และโรงพยาบาลมีคำสั่งเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2557 ห้ามสูบบุหรี่ในโรงพยาบาล ซึ่งยังมีผลใช้บังคับอยู่จนถึงปัจจุบัน
โดยให้เจ้าหน้าที่รับทราบและถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด รวมถึงให้แจ้งฝ่ายบริหารทราบทันทีที่พบว่ามีผู้สูบบุหรี่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รวมถึงมีส่วนคำแนะนำประจำห้องพักผู้ป่วยที่ติดไว้ในห้องพักทุกห้องว่า ห้ามสูบบุหรี่และดื่มของมึนเมาในห้องผู้ป่วย ห้องน้ำ และภายในโรงพยาบาลเด็ดขาด หากฝ่าฝืน โรงพยาบาลจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการต่อไป ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เจ้าของสถานที่สาธารณะอื่นๆ
ที่มา:ข่าวสดออนไลน์
