‘หมอมนูญ’ ชี้เด็กป่วยล้นรพ. เพราะไข้หวัดใหญ่ ไม่ใช่ฝุ่น แนะสอนใช้หน้ากากลดการแพร่เชื้อ

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าโรคระบบทางเดินหายใจและปอด โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ว่า ข่าวเด็กป่วยล้นโรงพยาบาล โดยคาดว่าเกิดจากการหายใจฝุ่นพิษ PM2.5 ยิ่งทำให้คนไทยตื่นกลัวฝุ่นละอองมากขึ้น ฝุ่น PM2.5 จะทำให้ป่วยทันทีหรือ 1-2 วันหลังหายใจเข้าไป เฉพาะกลุ่มเสี่ยง คือคนที่มีโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ไม่ใช่คนปกติทั่วไป เด็กที่หายใจฝุ่น PM2.5 ค่าเกินมาตรฐานระยะยาวติดต่อกันหลายปีจะทำให้สมรรถภาพของปอดต่ำกว่าเด็กที่หายใจอากาศไม่ปนเปื้อนฝุ่น แต่ไม่ใช่เกิดขึ้นทันที

ช่วงนี้มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ ทำให้เด็กส่วนใหญ่ที่ป่วยเข้านอนในโรงพยาบาล เกิดจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ไม่ใช่เกิดจากฝุ่น PM2.5 เราต้องสอนให้เด็กที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันผู้อื่น (ไม่ใช่ N95 ) หน้ากากอนามัยจะจับละอองน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสเวลาไอหรือจามไว้ที่บริเวณด้านในของหน้ากาก เพราะถ้าคนป่วยไม่ใส่ ละอองน้ำนี้จะระเหยเหลือแต่เชื้อไวรัสแขวนลอยในอากาศ คนที่อยู่ใกล้ชิด หายใจเชื้อไวรัสเข้าไปก็จะป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ถ้าหน้ากากอนามัยเปียกชื้นมาก ประสิทธิภาพจะลดลง ต้องเปลี่ยนหน้ากากวันละหลายชิ้น และใส่หน้ากากจนกว่าจะหยุดไอ เวลาเปลี่ยนต้องจับที่สายคล้องหู อย่าจับด้านในของหน้ากาก เพราะมือจะเปื้อนเชื้อโรค ทิ้งหน้ากากลงในถังขยะ ต้องคิดว่าหน้ากากที่ใช้แล้วเป็นขยะติดเชื้อ อย่าวางหน้ากากใช้แล้วบนโต๊ะ หรือใส่กระเป๋า เพราะเชื้อโรคจะไปอยู่ตามที่ต่างๆ คนปกติมาจับโต๊ะที่เปื้อนเชื้อโรค แล้วเอามือไปจับจมูก ปาก ขยี้ตา ก็จะติดไข้หวัดใหญ่ทางมือ ทั้งคนป่วยและคนทั่วไปต้องล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลบ่อยๆ

 


ที่มา:มติชนออนไลน์