‘สุทธิชัย หยุ่น’ กางตำรา ‘เนชั่น เวย์’ สอน”กนก” ปมเสนอคลิปเสียง (คลิป)

จากกกรณีรายการข่าวข้นคนเนชั่น ทางเนชั่นทีวี เมื่อคืนวันที่ 19 มี.ค. ซึ่งมีนายกนก รัตน์วงศ์สกุล เป็น 1 ในผู้ดำเนินรายการเนชั่น และได้มีการคลิปเสียงบทสนทนาของบุคคล 2 คน พร้อมกับกราฟฟิกประกอบคลิปเป็นเงาดำคล้ายอดีตนายกรัฐมนตรี กับหัวหน้าพรรคการเมืองรุ่นใหม่ โดยบทสนทนา เป็นเรื่องการพูดคุยทางการเมือง ต่อมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ให้สัมถาษณ์ทางโทรศัพท์ ในรายการ ข่าวช่องเนชั่น โดยระบุว่า “ผมไม่คิดว่าสื่อมวลชนที่มีคุณภาพจะเอาคลิปแบบนี้มาออกรายการ การที่เนชั่นเอาคลิปนี้ออกมา ก็แสดงให้เห็นว่า มาตรฐานจริยธรรมของเนชั่นตกต่ำลง”

และในวันเดียวกันกรรมการผู้จัดการเนชั่นทีวี แถลง ขอยืนยันในหลักการและมาตรฐานวิชาชีพข่าวขององค์กรเนชั่น ชี้ ถ้าธนาธรเสียหาย ก็ไปฟ้อง ลั่นถ้าเนชั่นเสียหาย พร้อมฟ้องกลับธนาธรทันที

• ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
• บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
• กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี

ด้านนายกนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ดำเนินรายการเนชั่น ออกมายืนยันผ่านรายการข่าวข้นคนเนชั่น คืนวันที่ 20 มี.ค. “กรณีคลิปเสียงตัดต่อ” โดยระบุว่า ไม่ได้ว่า นายธนาธรเลย โดยคลิปดังกล่าวมีคนส่งต่อมาให้ตน และทีมข่าว นายธนาธร น่าจะคิดว่า ถ้าคลิปเสียงนั้นเป็นคลิปที่ตัดต่อมา แล้วเราจะเอามาเปิดทำไม ผมว่าคนที่เราควรจะขอโทษคือเราต้องขอโทษนายธนาธร หรือนายธนาธร ที่ต้องมาขอโทษเนชั่น ควรพูดและอธิบายกับทีมงานเนชั่นดีๆ ไม่ใช่ต่อว่าเช่นนี้ นายกนกกล่าว

ล่าสุด นายสุทธิชัย หยุ่น อดีตประธานกรรมการ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บรรณาธิการอำนวยการ เครือเนชั่น, นักหนังสือพิมพ์, นักเขียน, ผู้ร่วมก่อตั้ง หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น, กรุงเทพธุรกิจ, สถานีโทรทัศน์ไอทีวี, เนชั่นทีวี จัดรายการผ่านรายการ รายการหนึ่ง ผ่านช่องทางการไลฟ์เฟซบุ๊ก โดยช่วงหนึ่ง นายสุทธิชัย กล่าวถึงกรณีนี้ว่า “ขณะนี้ผมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเนชั่นแล้ว ผมเกษียณจากเนชั่นมา 1ปี พอดี ส่วนเรื่องคลิปที่ออกมานั้น ผมเชื่อว่าสังคมไทยช่วยกันตัดสินแล้ว ว่าเหมาะหรือไม่เหมาะ ส่วนเนชั่นที่ผมเคยทำนั้น มีสิ่งที่เรียกว่า เนชั่น เวย์ เป็นคู่มือจริยธรรม ของคนทำข่าวเครือเนชั่น ซึ่งถ้าเปิดดู เพื่อดูว่าการกระทำครั้งนี้ ถูกหรือผิดนั้น สรุปได้ว่ามีความสุ่มเสี่ยง ที่ถูกมองได้ว่าผิดจริยธรรม

ดังนั้นสำหรับผมมองว่า มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิด และเป็นเรื่องที่คนที่เกี่ยวข้องควรจะต้องทบทวน ฟื้นความน่าเชื่อถือของคนทำสื่อ ไม่ใช่เฉพาะเนชั่น ในภาวะปัจจุบัน ที่มีการหาเสียง การให้ข้อมูลทั้งบวกและลบ ต่อพรรคการเมือง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความระมัดระวัง และตรวจสอบข่าวก่อน อะไรที่สุ่มเสี่ยงกับการที่จะถูกมองว่าไม่เป็นธรรม เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ด้วยเหตุผลใดก็ตาม จะทำให้ความน่าเชื่อถือของสื่อนั้น ตกอยู่ในภาวะที่เป็นอันตราย โดยเฉพาะในปัจจุบัน ที่สื่อกำลังถูกจับตามองว่า เข้าข้าง และเป็นเครื่องมือ ใครหรือเปล่า และประชาชนคาดหวังสื่อมาก ในภาวะเช่นนี้ ที่สื่อจะทำหน้าที่เป็นผู้ที่ตรวจสอบข่าวให้ ไม่ใช่เป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

การตัดสินใจของเนชั่นทีวีครั้งนี้ ไม่น่าจะเป็นหน้าที่ของสื่อที่เรียกตัวเองว่าเป็น “ผู้เฝ้าประตู” เพราะผู้ที่เฝ้าประตูมีหน้าที่ตรวจสอบว่าอะไรควรจะผ่านประตูนี้ หรืออะไรไม่ควรจะผ่านประตูนี้ ถ้าหากเราเป็นผู้าประตูแล้ว เราบอกว่า อะไรก็ผ่านเข้ามาได้ แล้วคนที่อยู่ในบ้านไปตัดสินเอาเอง นั่นหมายความว่าเราไม่ได้ทำหน้าที่ของ “ผู้เฝ้าประตู” นายสุทธิชัย กล่าว

“กระจกจะต้องสะท้อนความเป็นจริง กระจกมัวๆ กระจกแตก กระจกร้าว ไม่สามารถทำหน้าที่ที่ถูกต้องได้ครับ”สุทธิชัย กล่าวฯ

(นาทีที่ 55 เป็นต้นไป)

 

ที่มา:มติชนออนไลน์