‘โบว์’ โพสต์ จดหมายเปิดผนึกถึง ‘อนุทิน’ ชี้ “การตัดสินใจเป็นเครื่องกำหนดว่าได้ทำสิ่งที่น่าภูมิใจแล้วหรือยัง”

โบว์ โพสต์ จดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ชี้ หากภูมิใจไทยเลือกอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ก็จะเกิดรัฐบาล 296 เสียงที่พร้อมบริหารประเทศทันที แต่ถ้าไม่ ก็จะเกิดฝ่ายค้านที่เข้มแข็งแทน ด้วย 245 เสียงจากเจ็ดพรรคบวกกับบางส่วนของประชาธิปัตย์ที่อาจตัดสินใจรักษาหลักการประชาธิปไตยและเลือกเป็นฝ่ายค้านอิสระ อาจเกิดปัญหารัฐบาลเสียงข้างน้อยอย่างที่คุณอนุทินเคยประกาศว่าไม่ต้องการ

“เหนือสิ่งอื่นใดการตัดสินใจนั้นจะเป็นเครื่องกำหนดเองว่าพรรคภูมิใจไทยได้ทำสิ่งที่น่าภูมิใจทั้งต่อตนเองและประเทศชาติในฐานะนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยแล้วหรือยัง”

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นางสาวณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้โพสต์เฟชบุ๊กส่วนตัว ‘โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา – Nuttaa Mahattana‘ พร้อมระบุข้อความถึงหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่า

” จดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

ในช่วงเวลาที่การประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการด้วยสูตรคำนวณที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญเพิ่งเกิดขึ้น และผลปรากฏว่า
📌เจ็ดพรรคฝ่ายประชาธิปไตยมีเสียงรวม 245 ที่นั่ง
📌ฝ่ายประกาศสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์มี 138 ที่นั่ง
📌พรรคที่ยังไม่ประกาศตัวมี 116 ที่นั่ง

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีผู้นำที่ชัดเจน ความสนใจย่อมพุ่งมาที่พรรคภูมิใจไทยกับ 51 ที่นั่งที่ได้รับจากเสียงของประชาชน พร้อมกับการทบทวนคำมั่นสัญญาก่อนการเลือกตั้ง

เพียงสองวันก่อนการเลือกตั้ง คุณอนุทินประกาศในการแถลงข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยยึดถือว่าผู้จะดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯ จะต้องมีเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของส.ส. พรรคไม่ต้องการให้เกิดปัญหารัฐบาลเสียงข้างน้อย เพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งนายกฯ แต่ไม่มีความมั่นคง

“ขอให้ ส.ส.เคารพศักดิ์ศรีของตนเองรวมเสียงให้ได้ 376 คน เลือกนายกรัฐมนตรี อย่าให้คนอื่นมาช่วยเราเลือกเลย”

22 มีนาคม พรรคภูมิใจไทยประกาศชัดว่า “ถ้าภูมิใจไทยได้รับการเลือกตั้ง มาเป็นอันดับ 1 นายกฯ ต้องชื่ออนุทิน เท่านั้น แต่หากมาเป็นอันดับ 2 เรายอมให้พรรคเบอร์ 1 ตั้งรัฐบาล เราไม่ขัดหลักประชาธิปไตย เราเห็นด้วยที่หลายพรรคไม่ต้องการให้อำนาจอื่นเข้ามาแทรกแซง”

และในทุกโอกาส ภูมิใจไทยยืนยันความมุ่งมั่นในการผลักดันนโยบายต่างๆของพรรค นั่นหมายถึงความตั้งใจที่จะเข้าไปเป็นรัฐบาล ในวันนี้ที่จะต้องเลือกด้วย 51 ที่นั่งที่จะกลายเป็นตัวชี้ขาด คำถามคือพรรคภูมิใจไทยจะเลือกให้ใครเป็นหัวหน้ารัฐบาล? จุดยืนที่ประกาศก่อนการเลือกตั้งยังอยู่ที่เดิมหรือไม่?

ต่อไปนี้คือคำถามที่ต้องตอบตัวเองและประชาชน

📌พรรคยังยืนยันศักดิ์ศรีในการเลือกของส.ส. พร้อมต้านการโหวตเลือกนายกโดยส.ว.หรือไม่? หรือเปลี่ยนใจคิดเลือกร่วมทางที่ง่ายกว่ากับ 250 เสียงสว.ที่หัวหน้าคสช.เตรียมไว้โหวตให้ตัวเอง?

📌ภูมิใจไทยมีความเห็นอย่างไรกับการคัดเลือก 250 สว.ตามบทเฉพาะกาล ที่ละเว้นทุกข้อห้ามตามรัฐธรรมนูญ จนเกิดสว.ที่เดินย้ายจากเก้าอี้ครม.และสนช.จำนวนมากมานั่งรอโหวตเลือกนายกฯ ไม่เว้นแม้แต่น้องชายแท้ๆของหัวหน้าคสช.?

📌มีความเห็นอย่างไรกับการพลิกสูตรคำนวณส.ส. ที่ส่งผลให้เกิดการลดจำนวนที่นั่งในฝ่ายประชาธิปไตย และเพิ่มจำนวนให้พรรคเล็กที่ได้เสียงไม่ถึง 71,000 คะแนนตามเกณฑ์ที่จะได้ส.ส.พึงมีตามรัฐธรรมนูญ? และรู้สึกอย่างไรที่ทั้ง 11 พรรคเล็กนั้นคือพรรคที่จะเข้าร่วมสนับสนุนการสืบทอดอำนาจของพลเอกประยุทธ์?

📌ประชาธิปไตยสำหรับภูมิใจไทยยังหมายถึงการเคารพคะแนนเสียงของประชาชนหรือไม่ หรือเสียงของคนยศพลเอกหนึ่งคนที่เลือก 1 ใน 3 ของรัฐสภาได้นั้นมีความหมายกว่าซะแล้ว? คำว่าธรรมาภิบาล และความชอบธรรมสำหรับพรรคภูมิใจไทยมีความหมายว่าอย่างไร?

📌คุณอนุทินมีศรัทธาในหัวหน้าคณะรัฐประหาร ที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชนมาเกือบห้าปี กับสภาที่ไร้ฝ่ายค้าน การออกคำสั่งอย่างไร้การตรวจสอบ ใช้งบประมาณอย่างอิสระกับโครงการประชารัฐและบัตรสวัสดิการเพื่อสร้างคะแนนสียงให้พรรคการเมืองชื่อเดียวกันที่เสนอตัวเองเป็นแคนดิเดทนายก มากพอจะสนับสนุนให้เขาสืบทอดอำนาจสำเร็จอย่างนั้นหรือ?

📌ภาพการถูกตั้งข้อหา ถูกจำคุก ข่มขู่คุกคามสารพัด ของนักศึกษา นักวิชาการ นักการเมือง สื่อมวลชน ประชาชน ที่พยายามปกป้องสิทธิพลเมืองขั้นต่ำที่สุดตลอดห้าปีที่ผ่านมาภายใต้รัฐบาลคสช. มีความหมายอะไรกับหัวใจติดปีกของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยบ้างหรือไม่?
.
.
หากภูมิใจไทยเลือกอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ก็จะเกิดรัฐบาล 296 เสียงที่พร้อมบริหารประเทศทันที แต่ถ้าไม่ ก็จะเกิดฝ่ายค้านที่เข้มแข็งแทน ด้วย 245 เสียงจากเจ็ดพรรคบวกกับบางส่วนของประชาธิปัตย์ที่อาจตัดสินใจรักษาหลักการประชาธิปไตยและเลือกเป็นฝ่ายค้านอิสระ อาจเกิดปัญหารัฐบาลเสียงข้างน้อยอย่างที่คุณอนุทินเคยประกาศว่าไม่ต้องการ

แต่เหนือสิ่งอื่นใดการตัดสินใจนั้นจะเป็นเครื่องกำหนดเองว่าพรรคภูมิใจไทยได้ทำสิ่งที่น่าภูมิใจทั้งต่อตนเองและประเทศชาติในฐานะนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยแล้วหรือยัง

“The time is always right to do what is right.”

ด้วยความหวังและปรารถนาดี
โบว์ – ณัฏฐา มหัทธนา
9 พฤษภาคม 2562