‘หญิงหน่อย’ โพสต์บอก “แบ่งกระทรวงกันเสร็จ แบ่งเวลามาแก้ไขปัญหาให้ปชช.บ้าง” หลังพบเกษตรกรเจอปัญหาศัตรูพืชระบาดหนัก

คุณหญิงสุดารัตน์ เรียกร้องหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง หันมาสนใจปัญหาหนอนกระทู้ลายจุดระบาด สร้างความเดือดร้อนแก่เกษตรกร พร้อมฝากย้ำถึงรัฐบาล “ถ้าแบ่งกระทรวงกันเสร็จแล้ว ช่วยแบ่งเวลามาแก้ไปัญหาให้ประชาชนบ้าง”

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan‘ หลังลงพื้นที่เยี่ยมเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด จ.นครราชสีมา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุข้อความว่า

#ทำงานต่อไม่รอแล้วนะ

เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเดือดร้อนหนักจากปัญหา #หนอนกระทู้ลายจุด ระบาดอย่างหนัก ทำลายไร่โพดเสียหายทุกพื้นที่ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ

หน่อยกลับมาที่โคราชอีกครั้ง เพื่อติดตามสถานการณ์การระบาดของ #หนอนกระทู้ลายจุด ที่กำลังกัดกินข้าวโพดของพี่น้องเกษตรกรจนได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง

หลังจากหน่อยได้ลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อสัปดาห์ที่แล้วและนำเสนอปัญหาหนอนกระทู้ลายจุดที่ระบาด ทำความเสียหายให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอย่างมากปรากฏว่ามีเกษตรกรทั้งภาคอีสาน ภาคเหนือ รวมทั้งภาคกลาง ต่างสะท้อนปัญหาเดียวกันว่า ขณะนี้หนอนกระทู้ลายจุดได้ระบาดไปทั่วทุกภาค ทำความเสียหายต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเกือบทุกจังหวัดทั่วประเทศแล้ว

แต่ยังการขาดการเหลียวแลจากผู้มีอำนาจและผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ทั้งการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อจ่ายชดเชย ให้แก่เกษตรกร รวมทั้งการออกเผยแพร่ให้ความรู้แก่เกษตรกร เพื่อที่จะหามาตรการกำจัดการระบาดของหนอนกระทู้ลายจุด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรในภาคอีสาน ที่ตามปกติแล้วจะต้องปลูกข้าวโพดฤดูกาลผลิตใหม่ในเดือนกรกฎาคม

รอบนี้หน่อยมาขอความรู้และดูตัวอย่างวิธีการป้องกันหนอนข้าวโพดจากผู้เชี่ยวชาญ คือ #อาจารย์ทองก้อน ที่ไร่นายทองก้อน อำเภอปากช่อง นครราชสีมา ซึ่งวิธีการที่ใช้ในไร่ทดลองปลูกข้าวโพดของอาจารย์ขนาด 1 ไร่ครึ่ง ของอาจารย์สามารถป้องกันหนอนชนิดดังกล่าวได้ผลจริง โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมี

อาจารย์ทองก้อนแนะนำใช้สิ่งที่เรียกว่า BT หรือ Bacillus thuringiensis ซึ่งคือสายพันธุ์ของแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่ทำงานโดยการปล่อยผลึกโปรตีนตัวที่จะเปลี่ยนสภาพเป็นสารพิษเมื่อเข้าไปในร่างกายของหนอน จนทำให้หนอนเป็นอัมพาตและตายลงในที่สุด

ข้อดีของแบคทีเรีย BT ชนิดนี้คือราคาถูกมากกว่าการใช้สารเคมี โดยต้นทุนการฉีดอยู่ที่ประมาณ 5-10 บาท ต่อ 1 ไร่ ประสิทธิภาพการกำจัดและควบคุมการแพร่ระบาดของหนอนก็ดีกว่าโดยไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์ และในเวลาที่ฝนตกยังสามารถขยายตัวได้ดีกว่าการฉีดสารเคมีเพราะมีความชื้นเข้ามาช่วย

แบคทีเรีย BT ตัวนี้เป็นสิ่งที่กรมวิชาการเกษตรสามารถเพาะเลี้ยงได้เองอยู่แล้ว เพียงแต่ยังขาดการส่งเสริมและเผยแพร่ให้ชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรรู้จัก เข้าถึง และหันมาใช้อย่างแพร่หลาย

ที่เราต้องรีบหาวิธีการรับมือที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพโดยเร็ว เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดขณะนี้มีความน่ากังวล เนื่องจากหนอนเริ่มดื้อยาที่เป็นสารเคมี เริ่มมีการระบาดไปยังอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศที่มีการปลูกข้าวโพด และยังพบว่าเริ่มมีการลุกลามไปกัดกินพืชผลการเกษตรชนิดอื่นๆ แล้ว เช่น อ้อยและข้าว

หากไม่รีบเร่งลงมือแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง นอกจากจะส่งผลกระทบต่อชีวิตของพี่น้องเกษตรกรจำนวนมากแล้ว ยังจะสร้างผลสะเทือนต่อการผลิตในภาคส่วนอื่นๆ ด้วย เช่น อุตสาหกรรมอาหารสัตว์แปรรูป หรืออาจร้ายแรงจนกลายเป็นปัญหาภัยความมั่นคงทางอาหารในที่สุด

หน่อยจึงอยากขอเรียกร้องไปยังทุกหน่วยงานของภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมวิชาการเกษตร ให้หันมาสนใจปัญหานี้อย่างจริงจัง ภาครัฐควรเป็นเจ้าภาพในระดับประเทศเพื่อระดมความรู้ ทรัพยากร และผู้เชี่ยวชาญจากทุกภาคส่วนมาเร่งแก้ปัญหา ทั้งการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าและแนวทางการป้องกันอย่างครบวงจรในระยะยาว ทั้งการจ่ายเงินชดเชยความเสียหายให้เกษตรกร การควบคุมคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ทั้งในประเทศและที่นำเข้าจากต่างประเทศ การให้ความรู้เกี่ยวกับแนวทางการปลูกและการบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง การควบคุมการระบาด ฯลฯ

ถ้าแบ่งกระทรวงกันเสร็จแล้ว
ช่วย #แบ่งเวลามาแก้ไขปัญหาให้ประชาชนบ้าง